ณ โรงเรียนคอนแวนต์ของคณะชี ที่มีชื่อในฝรั่งเศสตอนเหนือ
มิเชลล์ เดอลาโรนีล์ (อุษามณี ไวทยานนท์) ได้เติบโตขึ้นที่นี่หลังจากพ่อกับแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางเครื่องบิน และญาติพี่น้องไม่มีใครยอมรับเพราะมีแม่เป็นชาวตะวันออกที่ถูกรังเกียจ เธอสำนึกบุญคุณที่คอนแวนต์แห่งนี้รับเลี้ยงดูเด็กกำพร้าเช่นเธอ จึงตั้งใจจะเรียนเป็นชีแต่
แคชฟียา (มรกต กิตติสาระ) เพื่อนสาวชาวตะวันออกไกลได้ชวนมิเชลล์ไปช่วยทำงาน เพราะเธอคิดจะเปิดโรงเรียน
แม่อธิการ (อาลิษา ขจรไชยกุล) จึงให้ทุนมิเชลล์เข้ามาเรียนในปารีสและพักในอารามของชี ส่วนแคชฟีก็เรียนที่ปารีส แต่อาศัยอยู่กับพี่ชาย - พี่สะใภ้ของเธอ ซึ่งทำงานในสถานฑูต แคชฟียามีแฟนชื่อ
โรแบร์ (ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์) ตั้งใจว่าเรียนจบแล้วจะตามไปทำงานที่เมืองเกซาห์ เมืองท่าของประเทศซูดานของแคชฟียา พี่ชายแคชฟียารู้ก็กีดกันโรแบร์เพราะต่างชาติต่างศาสนากัน ไม่เป็นที่ยอมรับของชนชาติของเธอ
เมื่อเรียนจบ มิเชลล์กลับมาลาแม่อธิการ และบอกว่าจะไปทำงานที่เมืองเกซาห์ โรแบร์ได้งานในบ่อน้ำมันเมืองหลวงของซูดาน และแอบมาพบแคชฟียาที่เกซาห์ เธอขอร้องไห้มิเชลล์ช่วย เพราะมิเชลล์เป็นชาวต่างชาติสามารถพบกันอย่างเปิดเผย ซึ่งผิดกับที่เมืองนี้ห้ามหญิงชายพบกันตามลำพังยกเว้นสามีภรรยากัน มิเชลล์ไม่เห็นด้วยเพราะผิดประเพณีของเกซาห์ แคชฟียาโกรธมิเชลล์ไม่ช่วย และว่ามิเชลล์แอบชอบโรแบร์ ดังนั้น เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ มิเชลจึงต้องทำตาม เพราะแคชฟียาเปลี่ยนไปมากหลังจากกลับมายังบ้านของเธอ คือชอบแสดงอำนาจและข่มขู่เหมือนกับที่เคยทำกับพวกทาสในบ้านของเธอ พอนัดพบกับโรแบร์ได้ เขากลับแสดงความรักต่อมิเชลล์และขอเธอแต่งงาน เพราะระหว่างเขากับแคชฟีนั้นมีอุปสรรคเกินไป แคชฟียาแอบได้ยินทั้งสองคุยกัน หลังจากนั้นเธอก็แสดงตัวเป็นเจ้านายและข่มขู่มิเชลล์ เธอรู้สึกเสียใจที่เพื่อนรักเปลี่ยนไปมาก
แม่ของแคชฟียา (เทพยุดา ศรียาภัย) บอกว่าจะส่งตัวแคชฟีเข้าวัง เพื่อเป็นมเหสีของ
องค์อาหเม็ดที่ 3 (อานัส ฬาพานิช) ของนคร ฮิลฟารา เพราะโหรหลวงได้ทำนายว่าท่านจะได้มเหสีผู้มาจากแดนไกลและมีความรู้ อันหมายถึงแคชฟียาที่เพิ่งกลับมาจากฝรั่งเศสนั่นเอง หญิงผู้นี้จะให้โอรสแก่ราชวงศ์เป็นคนแรก แคชฟีกลุ้มใจมากเพราะไม่อยากไปอยู่ในฮาเร็ม วันต่อมาแคชฟียาจับเด็กในบ้านคนหนึ่งที่แอบส่งจดหมายนัดของโรแบร์มาให้มิเชลล์ หล่อนลงมือตบตีเด็กอย่างแค้นใจ และมีแผนการใหม่สำหรับมิเชลล์
ที่โฮเต็ลอุลดรารัน ที่นัดพบกับโรแบร์ เขาชวนเธอแต่งงานและกลับไปอยู่ฝรั่งเศส แต่มิเชลล์ไม่สามารถรับข้อเสนอได้ และแคชฟียาแอบตามไปด้วย ขณะอยู่ในห้องอาหารได้มีการต้อนรับแขกคนสำคัญขององค์อาหเม็ด ซึ่งมาจากอาฟริกา คืนนั้นเป็นครั้งแรกที่มิเชลล์ได้เห็นทหารองครักษ์ที่มาจากในวังขององค์อาหเม็ด เมื่อกลับมาบ้านเศรษฐีเกซาห์ มิเชลล์พบว่าแคชฟียากำลังขับไล่แม่ลูกจัสปาล ชื่อ
ติเยาะ กับ
มูฮา ซึ่งเป็นเด็กที่แอบมาส่งจดหมายให้เธอนั่นเอง เธอรู้สึกสงสารติเยาะ แม่ กับ มูฮา ลูกชายที่ต้องเดือนร้อนเพราะเธอ มิเชลล์แอบให้เงินแม่คู่นั้นไปเป็นการขอโทษ
วันที่ได้ฤกษ์ส่งตัว แคชฟียาหลอกให้มิเชลล์ไปตามที่ทางวังนัดมารับตัว โดยให้เธอปิดหน้าตามประเพณี เมื่อมาถึงทุกคนตกใจที่มิเชลล์กลายเป็นหญิงชาวต่างชาติ เป็นที่กังขาขององค์อาหเม็ดและพระอนุชา
องค์โอมาน (ติ๊ก ชีโร่) มิเชลล์ได้เห็นองครักษ์คนนั้นอีกครั้งในวังแห่งนี้ องค์โอมานสั่งให้ประหารชีวิตมิเชลล์ตามกฎของผู้ลักลอบสับเปลี่ยนตัวเข้ามาในวัง แต่เมื่อองค์รักษ์ผู้นี้ทูลถึงสกุลเดลาโรนีล์แก่องค์อาหเม็ดทราบ จึงรับสั่งให้สืบถามข้อเท็จจริง เพราะท่าทางของมิเชลล์เหมือนไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมาก่อน
พันเอกชารีฟ (ธีรภัทร์ สัจจกุล) ราชองครักษ์รับหน้าที่ไต่สวนมิเชลล์ จนแน่ใจว่าเธอบริสุทธิ์ เมื่อแคชฟียารู้ว่ามิเชลล์ไม่ถูกประหารชีวิต ก็บ้าคลั่งเสียสติจนบิดาต้องพาไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ
องค์อาหเม็ดขอให้มิเชลล์เป็นครูสอนภาษาต่างประเทศในวังต่อไป และต้องถวายตัวเป็นมเหสี เพราะมิเชลล์ถูกนำตัวเข้ามาในวังตามฤกษ์ดีที่โหรทำนายไว้ มิเชลล์ขอเวลาตัดสินใจ และจะให้คำตอบหลังจากพระองค์เสด็จกลับจากเมืองอิชฟาอัคเพื่อเยี่ยม
เจ้าชายอับดุลลา (สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) พระญาติที่นั่น มิเชลล์ได้พักอยู่กับ
เจ้าหญิงฟารีดา (กชกร นิมากรณ์) มเหสีขององค์โอมาน และเธอได้รับความเมตตาเอ็นดูจากเจ้าหญิงเป็นอย่างดีเธอมี
อะมีนา (ประดับดาว คุ้มแพรวพรรณ) คนรับใช้เป็นเพื่อนสนิท และคอยเล่าเรื่องความเป็นไปภายในวังให้ฟังอยู่เสมอ รวมทั้งเรื่องของพันเอกชารีฟ
วันที่องค์อาหเม็ดเสด็จกลับจากอิชฟาอัค องค์โอมานได้ก่อการกบฏยึดอำนาจขึ้นอย่างไม่คาดคิด แล้วลอบปลงพระชนม์องค์อาหเม็ด เพราะกลัวจะเสียอำนาจและต้องการเป็นใหญ่
เมื่อเจ้าหญิงฟารีดาทรงทราบก็ผิดหวังต่อการกระทำของพระสวามี จึงขอเสด็จกลับไปเกซาห์บ้านเกิด เพราะไม่เคยทรงเห็นด้วยกับแผนการทั้งปวงตั้งแต่ต้นแล้ว อะมีนารีบมาส่งข่าวให้มิเชลล์ เพื่อนำไปแจ้งพันเอกชารีฟเรื่องการก่อกบฏโดยด่วน แล้วอะมีนาก็ถูก
เจ้าซาอิ๊บ (ทองขาว ภัทรโชคชัย) สมุนของโอมานฆ่าตาย หลังมิเชลล์จากไปไม่นาน เมื่อไปถึงที่พัก พันเอกชารีฟให้มิเชลล์ปลอมตัวเป็นผู้ชาย และเปลี่ยนชื่อเป็นตาฟา แล้วพาลอบหนีออกไปชายแดนจากการตามล่าของซาอิ๊บ และถูกกล่าวหาว่าราชองครักษ์ชารีฟเป็นศัตรูกับกษัตริย์องค์ใหม่
อับดุลเลาะ (สมชาย ปาตัน) พ่อค้าชาวเบดูอินได้นำเงินทองมาดักรอชารีฟ เพื่อมอบให้จากพ่อ-แม่ของเขาเอง และให้แฝงตัวอยู่ในคาราวานม้ากับอูฐหนีเข้าไปยังเขตทะเลทราย และมอบทั้งสองให้
ฟูรอ หัวหน้าคาราวานอีกคณะหนึ่ง ที่ได้รับค่าจ้างจากอับดุลเลาะอีกต่อหนึ่งนำทั้งสองร่วมขบวนไปยังโฮไดดะ แต่ก็แอบขายอาวุธใหักับชีคแห่งคาฟราด้วย เมื่อเดินทางถึงโอเอซีสโฮไดดะ ชารีฟขอซื้อปืนต่อจากฟูรอไว้บางส่วน พร้อมอูฐแล้วเดินทางต่อไป โดยไม่แวะเข้าไปโฮไดดะ เพราะมีตำรวจทหารลาดตระเวณของโอมานอยู่
ชารีฟกับมิเชลล์ต้องฝ่าฟันพายุทะเลทรายอยู่หลายวันและเสบียงเริ่มหมด ทั้งสองเริ่มเห็นอกเห็นใจกัน และพยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จนรอดพ้นการตรวจจับของทหาร จนมาถึงโอเอซีสกุไวอิยา เป็นที่ห่างไกลจากโอเอซีสอื่นท ำให้ไม่มีผู้คนหรือสัตว์อยู่ที่นี่ เมื่อพักกินน้ำทำความสะอาดร่างกายและนอนพักผ่อน จากนั้นก็เดินทางเขาเขตหมู่บ้านกลางทะเลทรายจาอุฟ ซึ่งใช้เลาถึง 3 วัน
ชาริฟมีเพื่อนเป็นชีคอัสมัน อยู่ที่นั่น ทั้งสองได้พบพ่อค้าพี่น้อง
นะหมัด (กษาปณ์ จำปาดิบ) กับ
กาเซ็ม (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) บนถนนในเมืองจาอุฟ เนื่องจากเจ้ากาเซ็มขี้เมาพี่น้องจึงต้องออกไปพักแรมนอกเมือง เพราะในจาอุฟมีการปล้นสดมภ์ และวุ่นวายกันพอสมควร ชารีฟได้พบชีคอัสมัน ซึ่งกำลังป่วยเป็นฝี ชารีฟช่วยรักษาจนหาย ทำให้หมอโบราณที่เคยรักษาชีคอัสมันแต่ไม่หายรู้สึกไม่พอใจ ที่ชารีฟใช้วิชาแพทย์สมัยใหม่เข้ามารักษา ชารีฟเล่าเรื่องกบฎโอมานให้ชีคอัสมันฟัง เขาแนะนำให้รู้จักกับเด็กรับใช้ชื่อตาฟา
ยูซุฟ (ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์) คนสนิทของชีคขอให้ชาริฟไปรักษาพ่อของเขาที่ไม่สบายมานาน ชารีฟรักษาพ่อเฒ่าให้หายในเวลาอันสั้น ต่อมาคณะคาราวานสินค้าของชีคอัสมันถูกโจร
ตูอิค ปล้นทำร้ายขณะเดินทางกลับมาจากตลาดค้าสัตว์ เมืองซากากา ชาริฟกับมิเชลล์ทำหน้าที่ดูแลรักษาคนของชีค ขณะทำแผลผ่าตัด หมอโบราณแอบเห็นเหรียญประจำตัวของราชองครักษ์ของชารีฟ จึงนำไปบอกทหารฝ่ายโอมานให้ตามมาฆ่าสมความแค้นของหมอเฒ่า ผลการรักษาคนบาดเจ็บเป็นไปโดยราบรื่น เป็นที่พอใจของชีคอัสมัน และต้องการชารีฟกับตาฟาเป็นลูกเขย จึงวางแผนให้ยูชุฟ ชารีฟและตาฟาเดินทางไปยังซากากา เพื่อขายแพะและอูฐ และให้ตำรวจทะเลทรายไล่ล่าจนไม่มีที่อยู และกลับมายังจาอุฟในที่สุด แต่บังเอิญชารีฟได้ช่วยชีวิตยูซุฟจากคนของหัวหน้าโจรตูอิดที่ชื่อ
บูชิค (สุเอช พูลสวน) จนเจ้ามือมีดตายคาที่ยูซุฟจึงตอบแทนชารีฟด้วยการบอกความจริงเกี่ยวกับแผนของซีคอัสมัน ยูซุฟวางแผนให้ชารีฟกับตาฟาแยกออกจากกองคาราวาน และให้เดินทางอีกอาทิตย์หนึ่งจึงจะพบกับโอเอซีสแห่ง อานาอีซา ซึ่งมีนครกลางทะเลทรายอยู่ที่นั่น มีเบดูอินต่างเผ่าพักรวมกันจึงทำให้ปลอดภัยในการลี้ภัย ถึงอานาอีซาจะใกล้เมืองฮิลฟาราเข้าไป แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะไม่ใช่เมืองการค้าเหมือนซากากา ตำรวจจึงไม่อยากไปวุ่นวายด้วย ก่อนออกเดินทางมิเชลล์ขอชารีฟไปเดินซื้อของในตลาด และแอบเห็นพี่น้องนะหมัดกับกาเซ็มกำลังเป็นสายให้ตำรวจเร่งจับตัวชารีฟโดยด่วน เพราะได้เงินค่าจ้างให้มาบอกตำรวจกับหมอโบราณแล้ว มิเชลล์รีบมาบอกชารีฟ ในตอนกลางคืนทั้งสองจึงเริ่มเดินทางพร้อมเสบียงเต็ม
ขณะหยุดพักวันที่สามของการเดินทางออกจากซากากา โจรบูชิคกับพวกตามมาทำร้าย และจะฆ่าชารีฟกับมิเชลล์หลังจากตามไปฆ่ายูซุฟมาแล้ว แต่บูชิคเห็นดาบองครักษ์ติดตัวชารีฟจึงไม่กล้าทำอะไร และรีบทำลายข้าวของพร้อมกับปล้นอูฐไปจนหมด ก่อนที่เครื่องบินลาดตระเวนจะมาพบแล้วมันก็จะถูกทำโทษฐานทำร้ายคนของกษัตริย์ ชารีฟเจ็บหนักเพราะถูกซ้อม อูฐ น้ำและเสบียงถูกปล้น ทั้งสองทรมานต่อความอดทนยากมาก ชารีฟเมื่อรู้ตัวก็สารภาพรักกับมิเชลล์จนหมดหัวใจ ทั้งสองมอบรักให้แก่กันท่ามกลางทะเลทรายแห่งนั้น 4 วันผ่านไปภาวะขาดน้ำและอาหารทำให้มิเชลล์กำลังจะตาย แม้แต่ชารีฟเองก็กำลังจะไม่รอดเช่นกัน เมื่อความมืดมาจึงมีดวงไฟสว่างอยู่ไกลๆ ทำให้ชารีฟพยายามพาร่างมิเชลล์ไปถึงที่นั่นให้ได้ โชคดีที่เป็นครอบครัวเบดูอินของ
ติเยาะ จัสปาล นั่นเอง นางจำมิเชลล์ได้และให้ความช่วยเหลือแต่
อาลี (กลศ อัทธเสรี) พี่ชายของติเยาะไม่เชื่อ เพราะมิเชลล์แต่งกายเป็นชาย ชารีฟจึงต้องบอกว่ามิเชลล์เป็นเมีย เขาจึงเชื่อ แต่ทั้งสองไม่รู้ว่าชาริฟเป็นใคร และให้เดินทางไปโอเอซีสอานาอีซาด้วย กิเยาะเห็นเหรียญห้อยคอที่ชารีฟเหมือนกับผู้มาพักในกระโจมใหญ่บนเนินเขาที่นางเคยพบเมื่อคราวที่แล้ว จึงมาเล่าให้อาลีฟัง และให้อาลีไปแจ้งคนที่กระโจมใหญ่ซึ่งเป็นมิตรกับทุกคน เมื่อไปถึงผู้เฝ้ากระโจมได้นำอาลีกับอิเยาะไปพบหัวหน้าใหญ่ แล้วให้รีบนำชายหญิงที่อาลีบอกรูปพรรณสัณฐานมาเข้าพบ เมื่อชารีฟพบหัวหน้าใหญ่ ก็รีบทำความเคารพตามประเพณี เพราะเขาคือองค์อาหเม็ดที่ยังมีพระชนม์ชีพอยู่นั่นเอง ทรงรอดมาได้ด้วยท่าน
นายพลมุสคัต (ฤทธิ์ ลือชา) บิดาของอะมีนา ช่วยเหลือออกมาจากวังได้ และยังได้เจ้าชายอับดุลลาแห่งอิชฟาอัค มาประทับอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเป็นกำลังด้วย ส่วนมิเชลล์ได้ถูกส่งตัวไปอยู่ในฮาเร็มรวมกับมเหสีองค์อาหเม็ด และจะจัดพิธีแต่งงานกับชาริฟให้เมื่อยึดฮิลฟาราคืนได้สำเร็จ
เมื่อได้ทหารเอกกลับมาองค์อาหเม็ดได้วางแผนโจมตียึดราชบัลลังก์คืน โดยวางแผนให้ชารีฟ กับ การีม สัปเปลี่ยนตัว
ศาสตราจารย์โมฮัมหมัด (ธนภัทร สีงามรัตน์) แพทย์ที่จะไปผ่าตัดองค์โอมานที่ประชวร แผนการดำเนินไปอย่างเงียบๆ มีสายคอยรายงานความคืบหน้าของการเดินทางของชารีฟและการีมตลอด โดยเดินทางโดยรถไฟไปยังด้านฝั่งทะเล ลงเรือสินค้าแอบเข้าเมืองที่ศาตราจารย์มูฮัมหมัดอยู่ และทั้งสองก็ถูกนำตัวเข้าวังในฐานะศาสตราจารย์ และผู้ช่วยแพทย์ แต่องค์โอมานใช้แผนซ้อนแผนจับตัวชาริฟกับการิมไว้ได้ โดยจับทหารลาดตระเวนมาสอบถามอย่างทารุณ และดักจับวิทยุสื่อสาร แต่กองทัพองค์อาหเม็ดเห็นความผิดปกติจึงรีบยกทัพเข้ามาล้อมเมืองฮิลฟาราได้สำเร็จ
เจ้าชายโอมานให้ชาริฟต่อสู่ตัวต่อตัวด้วยวิชา มีดวงเดือน ที่โอมานเป็นหนึ่งไม่มีใครทาบติด แต่ชารีฟเองก็ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีโดยคำสั่งขององค์อาเม็ดเช่นกัน องค์โอมานถูกปลิดชีวิตลง กบฎพ่ายแพ้เพราะไม่มีผู้นำ องค์หญิงฟารีดา ขอเสด็จไปอยู่เมืองท่านอกเมือง องค์อาหเม็ดจัดพิธีสมรสให้กับชารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ กับมิเชลล์อย่างสมเกียรติ
...........................................…............................................