เรื่องย่อลิขิตริษยา
นตฺถิ กมฺมสมํ พลํ ไม่มีกำลัง ใดเสมอด้วยกำลังแห่งกรรม
Son-Glin was an ambitious young midwife who had fallen in love at first sight when she laid eyes upon Luang Dej Bo-Ri-Rak, a young man who had a promising career in the government. She formulated a love potion that would ensure that Luang Dej Bo-Ri-Rak would become besotted with her and soon became his wife. However, that was not enough for her. She wanted be his only wife! She did everything she could to get rid of all his other wives.
ปี พ.ศ. 2470 “จำเนียน” หมอตำแยพื้นบ้าน กำลังป่วยหนักอยู่ในบ้าน ขณะที่ชาวบ้านบริเวณนั้นต่างพากันมาดูใจ ด้วยความเป็นห่วงและเสียใจ เพราะจำเนียน เป็นหมอที่มีน้ำใจกับชาวบ้านแถวนี้มาโดยตลอด มิหนำซ้ำเธอยังเคยทำคลอดให้คนยากคนจนโดยไม่คิดเงินอีกด้วย
จำเนียน มีลูกสาวชื่อ “ซ่อนกลิ่น” ซึ่งซ่อนกลิ่น เป็นลูกมือของจำเนียน เพราะเรียนวิชาทำคลอดมาจากแม่ หากแต่นิสัยของซ่อนกลิ่น ไม่ได้ดีอย่างแม่ของเธอแม้แต่น้อย เพราะซ่อนกลิ่น มีนิสัยอิจฉาริษยาคนอื่น และทะเยอทะยานอยากได้อยากมี เพราะซ่อนกลิ่น มีปมตั้งแต่เด็กๆ ที่ถูกชาวบ้านตั้งข้อรังเกียจแม่และตัวเองว่าจำเนียน เป็นเมียน้อยข้าราชการในอำเภอ ด้วยหวังจะรวยทางลัด แต่เมื่อเมียหลวงที่พระนครจับได้จึงมาอาละวาดและขอให้สามีย้ายไปอยู่ที่อื่น ทิ้ง 2 แม่ลูกให้อยู่ตากหน้าในหมู่บ้าน ซ่อนกลิ่น จึงโตมากับคำดูถูกเหยียดหยามและไม่มีเด็กๆ คนไหนเล่นกับเธอ เพราะพ่อแม่เด็กเหล่านั้นจะเรียกเธอว่าลูกเมียน้อย แม้จำเนียน จะพยามทำความดีด้วยการใช้วิชาหมอตำแยทำคลอดให้โดยไม่คิดเงินจนชาวบ้านเลิกดูถูกไปในที่สุด แต่ซ่อนกลิ่น กลับเป็นคนเดียวที่เก็บความแค้นนี้ตั้งแต่จำความได้จนโตและกลายเป็นคนไม่มีเพื่อน มองโลกในแง่ร้าย แต่สร้างโลกอันสวยงามในจินตนาการ
“นพ” เด็กชายคนเดียวในหมู่บ้านที่พยามจะเป็นเพื่อนเล่นกับซ่อนกลิ่น และอยากจะให้ซ่อนกลิ่น ไปโรงเรียนเพราะสงสารที่ซ่อนกลิ่น และแม่เป็นที่รังเกียจของชาวบ้านและครอบครัวของนพเอง โดยเฉพาะเรื่องเรียนหนังสือ นพเห็นความสำคัญเรื่องการเรียนมาก แต่เมื่อซ่อนกลิ่น ไม่ยอมเรียน นพจึงต้องพ่วงตำแหน่งครูให้กับซ่อนกลิ่น จนซ่อนกลิ่น พอจะอ่านออกเขียนได้ นพจึงกลายเป็นเพื่อนคนเดียวของซ่อนกลิ่น ที่คอยตักเตือนและปกป้องซ่อนกลิ่น จากการถูกรังแกแม้จะสู้ไม่เคยได้แต่นพก็ยินดีสู้ร่วมกับซ่อนกลิ่นทุกครั้ง แต่วันหนึ่ง นพก็ต้องทิ้งซ่อนกลิ่นไปเพราะครอบครัวของเขาต้องย้ายเข้าไปอยู่ในพระนครและขาดการติดต่อไปในที่สุด
เมื่อจำเนียนตาย ซ่อนกลิ่นก็ยังคงอาชีพหมอตำแยต่อไป แต่อาชีพเสริมก็คือ แอบรับจ้างทำแท้งโดยแอบเอาศพเด็กที่ตายตอนคลอดไปขายให้กับ “พร” หมอผีที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ บ้านของเธอ เพื่อแลกเงินเล็กๆ น้อย มาซื้อเสื้อผ้าและเครื่องประดับสำหรับแต่งตัวสวยอวดหนุ่มๆ บริเวณนั้น
วันหนึ่ง “พิศ” ภรรยาคนที่ 3 ของ “หลวงเดชบริรักษ์” ข้าราชการกรมศุลกากร ซึ่งมีบ้านพักตากอากาสอยู่บริเวณไม่ห่างจากโรงหมอตำแยของซ่อนกลิ่น มากนัก เกิดอาการปวดท้องจะคลอดลูกกลางดึก แต่เพราะหมอประจำบ้านของหลวงเดชไม่อยู่ “เจิม” คนรับใช้ของหลวงเดชฯ จึงไปตามซ่อนกลิ่น มาทำคลอดแทน
เมื่อซ่อนกลิ่น มาในบ้านหลวงเดช ก็ตกตะลึงในความร่ำรวยของหลวงเดช มิหนำซ้ำ หลวงเดช ยังเป็นชายหนุ่มที่ภูมิฐานและหล่อเหลาสมคำร่ำลือจริงๆ ซ่อนกลิ่น จัดการทำคลอดให้พิศ จนได้ลูกสาวที่หลวงเดช ตั้งชื่อว่า อรพิลาศ และตบรางวัลให้ซ่อนกลิ่น อย่างงาม ขณะที่ “โฉมฉาย” ภรรยาคนแรกของหลวงเดช ก็ให้คำมั่นสัญญาว่า ถ้าซ่อนกลิ่น มีอะไรให้ช่วยก็ให้บอกมาเธอยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทำให้ซ่อนกลิ่น แปลกใจที่ภรรยาทั้ง 3 คน ของหลวงเดช ต่างรักใคร่ปรองดองกันดี ทั้งโฉมฉาย ภรรยาคนแรก กรองแก้ว ภรรยาคนที่ 2 และพิศ เมียบ่าวที่หลวงเดช ให้ความรักและสงสาร เพราะพิศ เป็นลูกของคนรับใช้ในเรือนที่จงรักภักดี แต่เพราะพ่อกับแม่ของพิศ ตายเนื่องจากช่วยโฉมฉาย และหลวงเดช ตอนที่เรือล่ม ทำให้พิศ กลายเป็นลูกกำพร้า หลวงเดชจึงยกพิศ มาเป็นเมียอีกคน ขณะที่โฉมฉาย และกรองแก้ว ก็เอ็นดูพิศ เหมือนน้องสาวคนหนึ่ง
โฉมฉาย เป็นลูกสาวของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่เอ็นดูหลวงเดช ตั้งแต่สมัยหลวงเดช มียศเป็นเพียงขุน จึงยกลูกสาวให้กับเขา หลังจากแต่งงานได้ 4 ปี โฉมฉายก็ตั้งท้องและมีลูกชายคือ “อัครยศ” หรือ “ตั้ม” ซึ่งในตอนนี้มีอายุเพียง 1 ปี ขณะที่กรองแก้วนั้น เป็นลูกของพ่อค้าเจ้าของโรงสี ที่ใครๆ นับหน้าถือตา เมื่อพ่อของกรองแก้ว ได้พบกับหลวงเดช ก็เกิดถูกชะตา ต่อมาไม่นานเขาป่วยหนัก ด้วยความเป็นห่วงลูกสาวจึงยกกรองแก้ว ให้หลวงเดช ดูแลเป็นภรรยาคนที่ 2
ซ่อนกลิ่น กลับมาบ้านด้วยใจร้อนรนเพราะอยากได้หลวงเดช มาเป็นสามี แต่ไม่ใช่เพราะความร่ำรวยของหลวงเดชฯ เพียงอย่างเดียว หากมันเป็นความประทับใจในวัยเยาว์ที่หลวงเดชฯ เคยช่วยซ่อนกลิ่น ให้พ้นจากการทุบตีของแม่ค้าที่จับได้ว่าเธอขโมยกำไลเพราะไม่มีเงินซื้อ ซ่อนกลิ่นจึงเก็บกำไลนั้นไว้ตลอดมา และวันนี้เธอก็ได้พบกับชายที่เธอโหยหามาตลอดอีกครั้ง แถมเธอยังได้รู้ว่าเขารวยมากอีกด้วย ฉะนั้นครั้งนี้ซ่อนกลิ่น จะไม่ปล่อยให้เขาหลุดมือไปอีก
ซ่อนกลิ่น พยามหาทางเพื่อเข้าไปใกล้ชิดกับหลวงเดชฯ ทั้งเอาของกินไปให้ อาสาไปดูแลอรพิลาศ แต่ก็ถูกกรองแก้ว กีดกัน เพราะกรองแก้ว เริ่มรู้ทันว่าซ่อนกลิ่น พยามเข้าใกล้หลวงเดชฯ มากกว่าทุกคน โฉมฉายเองที่เป็นความหวังเดียวของซ่อนกลิ่น ซึ่งเธอดูออกแต่แรกว่าโฉมฉาย เป็นคนหัวอ่อนจิตใจดี แต่แล้วซ่อนกลิ่นก็ต้องผิดหวังเมื่อกรองแก้ว ซ้อนแผนกันไว้หมด ซ่อนกลิ่นจึงตัดสินใจเผาบ้านตัวเองทำให้โฉมฉาย และหลวงเดช เห็นใจและรับซ่อนกลิ่น เข้าบ้านไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ ท่ามกลางความไม่พอใจของกรองแก้ว
แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ซ่อนกลิ่น ต้องการ เพราะการเข้ามาอยู่ในบ้านหลวงเดช ที่กรุงเทพฯ นั้น เธอกลับได้พักในเรือนคนใช้ แถมยังต้องเจอกับ “ธูป” หญิงคนใช้ปากร้ายที่ไม่เคยจริงใจกับใครเป็นเพื่อนร่วมห้อง ธูปวางก้ามใส่ซ่อนกลิ่น ว่าเธอนั้นเกิดและอยู่ในบ้านนี้มาก่อน และพยามข่มซ่อนกลิ่น ให้เป็นลูกไล่ของเธอ เพื่อลบปม ด้วยที่ว่าแม้ธูป จะเกิดในบ้านและเติบโตมาพร้อมกับพิศ และเจิม แต่ด้วยนิสัยไม่ดีต่างๆ ทำให้เธอมีชีวิตต่างจากพิศ ที่กลายเป็นเมียหลวงเดชฯ และเจิม ที่กลายเป็นแม่บ้านใหญ่คนสนิทของโฉมฉาย และหลวงเดชฯ ธูปจึงมาลงที่คนรับใช้คนอื่น เว้นก็แต่ซ่อนกลิ่น ที่ไม่เคยยอมธูปแม้จะต้องเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน ธูปจึงเกลียดซ่อนกลิ่นมาก
นานวันผ่านไป ชีวิตซ่อนกลิ่น ก็ไม่ได้ดีขึ้น จนวันหนึ่งที่เธอได้เจอกับ ทอง นักพนันไก่ชนรูปหล่อจอมเจ้าชู้จากบ่อนผิดกฎหมายละแวกบ้านหลวงเดช ทองชอบซ่อนกลิ่น ตั้งแต่แรกเห็น แต่ซ่อนกลิ่น ไม่เคยแม้แต่จะชายตามองแถมยังพูดจาดูถูกให้ทอง เจ็บใจ จนทอง คิดจะฉุดซ่อนกลิ่น โชคดีที่นพ ผ่านมาเห็นจึงเข้าช่วยไว้ นพดีใจมากที่ได้เจอกับซ่อนกลิ่น อีกครั้ง ยิ่งคุยเขาก็ยิ่งชอบซ่อนกลิ่น แต่ซ่อนกลิ่นไม่ได้คิดอะไรด้วย นอกจากคิดว่านพ มีข้อดีอย่างเดียวคือ เขาเป็นลูกน้องคนใหม่ของหลวงเดชฯ ที่เพิ่งสอบติด ซึ่งจะทำให้ซ่อนกลิ่น ดูเป็นคนมีหน้ามีตาหากมีเพื่อนที่มีการศึกษาอย่างนพ ซ่อนกลิ่น ยอมให้นพมาส่งที่บ้านและเจอกับหลวงเดชฯ และครอบครัว ทำให้นพ รู้สึกได้ทันทีว่าซ่อนกลิ่น ชอบหลวงเดชฯ เมื่อมีโอกาส นพจึงพยามเตือนซ่อนกลิ่น แต่ซ่อนกลิ่น ก็ไม่พอใจและไม่ยอมฟังนพ จึงได้แต่เป็นห่วงซ่อนกลิ่น มากยิ่งขึ้น แต่นพ ก็ไม่ย่อท้อพยามมาเยี่ยมเยียนซ่อนกลิ่น จนกรองแก้ว คิดจะยุให้หลวงเดช เป็นพ่อสื่อให้ ซ่อนกลิ่นรู้เรื่องเข้าก็ไม่พอใจทะเลาะกับนพๆ จึงสารภาพว่าเขาชอบซ่อนกลิ่น และอยากดูแลเธอ ซ่อนกลิ่นตัดสินใจไล่นพ ไม่ให้มาเจอเธออีก แต่นพไม่ยอมและยืนยันจะขัดขวางถ้าซ่อนกลิ่นคิดจะทำอะไรไม่ดี ทำให้ซ่อนกลิ่นไม่พอใจอย่างมาก
ซ่อนกลิ่นเริ่มร้อนใจเพราะหลวงเดชไม่มีทีท่าอะไรกับเธอเลยแม้แต่น้อย ซ่อนกลิ่นจึงกลับไปหาพร เพื่อขอให้ทำเสน่ห์ให้ พรเสนอข้อแลกเปลี่ยนด้วยการให้ซ่อนกลิ่น ยอมเป็นเมียของเขา แล้วพรก็ให้เอาตุ๊กตาที่ทำเสน่ห์ไปฝังใต้ห้องนอนของหลวงเดช และคืนนั้นระหว่างที่ซ่อนกลิ่นกลับมาก็เจอกับก้าน เด็กหนุ่มคนรับใช้อีกคนในบ้าน ก้านถามด้วยความสงสัย แต่ซ่อนกลิ่นก็เอาตัวรอดไปได้ จนกลางดึกก้านก็ยังไม่หายสงสัยเมื่อเห็นซ่อนกลิ่นทำลับๆ ล่อๆ และพยามจะไปขุดดูว่าซ่อนกลิ่นฝังอะไรไว้ แม้ก้านจะทำไม่สำเร็จแต่ซ่อนกลิ่นก็กลัวภัยมาถึงตัวจึงกลับไปหาทองเพื่อขอให้มาช่วยจัดการก้าน โดยอ้างว่าก้านชอบลวนลามเธอ ทองจึงขอให้ซ่อนกลิ่นเป็นเมียเขาหลังจากที่งานเสร็จ และทองก็จัดการก้านได้สำเร็จ วันที่ซ่อนกลิ่นมาหาทองเพื่อเอาเงินมาให้และยอมเข้าบ้านทอง นพก็แอบตามมาและพยามขวางซ่อนกลิ่น แต่ทองก็ซ้อมนพจนสะบักสะบอมกลับไป แม้นพจะสงสัยว่าซ่อนกลิ่นทำไมจึงเปลี่ยนไปมากกลายเป็นคนที่ไปรักทองได้อย่างไร แต่นพก็ไม่สามารถทำอะไรได้
คืนนั้นหลังจากที่ซ่อนกลิ่นสวดคาถาเสร็จ มนต์เสน่ห์ก็ออกฤทธิ์จนหลวงเดชฯ ต้องลงมาหาซ่อนกลิ่นที่ห้อง ธูปเองที่คอยหาเรื่องทะเลาะกับซ่อนกลิ่นอยู่ถึงกับเปลี่ยนเป็นคนละคนและกลายเป็นคนสนับสนุนซ่อนกลิ่นทันที การที่หลวงเดชฯ แอบย่องไปหาซ่อนกลิ่นทุกคืน ทำให้กรองแก้วจับได้ จึงเอาเรื่องนี้ไปบอกโฉมฉาย แต่เพราะโฉมฉาย เป็นคนใจเย็นจึงบอกให้กรองแก้วทำตามความต้องการของหลวงเดช แต่กรองแก้วไม่ยอมและตั้งตัวเป็นอริกับซ่อนกลิ่น พร้อมทั้งอยากจะหาสาเหตุว่าอะไรทำให้หลวงเดชฯ เปลี่ยนไป จนวันหนึ่งกรองแก้ว ก็ได้รู้ว่าซ่อนกลิ่นแอบออกไปหาทองตามคำขู่จะเปิดเผยทุกเรื่องถ้าซ่อนกลิ่นทิ้งเขา ขณะที่ออกจากบ้านของทอง เมื่อกลับมาบ้านธูปก็รีบฟ้องซ่อนกลิ่นเรื่องที่กรองแก้วแอบสะกดรอยตามซ่อนกลิ่นไป ซ่อนกลิ่นจึงเตรียมตัวรับมือกับกรองแก้วเต็มที่
กรองแก้วเอาเรื่องที่เธอเห็นเป็นข้อต่อรองขอให้ซ่อนกลิ่นออกไปจากบ้าน ซ่อนกลิ่นไม่พอใจที่กรองแก้วยุ่งเรื่องของเธอ จึงชวนธูปไปหาพรเพื่อขอให้ทำยาสั่ง โดยธูปไม่รู้เรื่อง คิดแต่จะตามไปเอาใจ จนเมื่อธูปถูกใช้ให้เอาเครื่องดื่มไปให้กรองแก้วดื่มและช็อคตายในที่สุด ธูปก็รู้ว่าซ่อนกลิ่นหลอกใช้ตน คิดจะพูดความจริงแต่ซ่อนกลิ่นขู่จะเอาธูปเข้าคุก สุดท้ายธูปจึงต้องยอมทำตามบงการของซ่อนกลิ่น ซึ่งการตายของกรองแก้วนั้นเป็นเหตุให้นพสงสัยมาก จึงอาสาจะเอาศพกรองแก้วไปชัณสูตร แต่ซ่อนกลิ่นไม่ยอมจึงยุให้หลวงเดชห้าม นพสงสัยในความเปลี่ยนไปของหลวงเดช แต่ซ่อนกลิ่นก็พยามปิดบัง จนทำให้ความสัมพันธ์ของนพและซ่อนกลิ่นต้องห่างเหินกันไป ซ่อนกลิ่นแม้จะเสียใจที่เข้าหน้าเพื่อนที่ดีอย่างนพไม่ติด แต่เธอก็เลือกที่จะเสียนพมากกว่าจะยอมเสียหลวงเดชฯ ของเธอ
หลังจากงานศพของกรองแก้ว หลวงเดชก็รับซ่อนกลิ่นมาเป็นภรรยาของเขา โดยที่โฉมฉายไม่ได้ทัดทานอะไร ผิดกับเจิมที่พยามออกอาการปกป้องนาย เพราะซ่อนกลิ่นกับธูปนับวันจะตีสองหน้าข้ามหัวโฉมฉายและพิศเพื่อเอาใจหลวงเดชฯ ที่สำคัญซ่อนกลิ่นรักและแย่งอรพิลาศไปดูแลจนพิศที่เป็นแม่แท้ๆ แทบไม่ได้แตะลูก ส่วนอัครยศนั้นเริ่มโตและกลัวซ่อนกลิ่นทำให้ซ่อนกลิ่นไม่ชอบหน้าและคอยแกล้งตีต่างๆ นานาจนเจิมต้องออกปกป้อง แต่สุดท้ายก็แพ้มารยาของซ่อนกลิ่นและธูปที่หลอกโฉมฉายจนเชื่อว่าเจิมเป็นฝ่ายหาเรื่อง
ทองเองที่เริ่มหวงซ่อนกลิ่นเพราะกลัวความห่างเหินของซ่อนกลิ่น ทองไม่พอใจมากและคิดจะประกาศความสัมพันธ์ของเขากับซ่อนกลิ่นจนซ่อนกลิ่นต้องแกล้งมารยาว่ารักทอง ยังไงก็ไม่ทิ้งทองไปแน่นอน ทองจึงเห็นเป็นโอกาสคอยหาเงินใช้จากซ่อนกลิ่น แต่ถึงแม้ว่าหลวงเดช จะทั้งรักทั้งหลงเธอแค่ไหน ซ่อนกลิ่นก็ยังรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยกว่าโฉมฉายอยู่ดี เพราะอิจฉาในความเป็นผู้ดีมาแต่ก่อนเก่า ทั้งความรู้และการวางตัวสมเป็นภรรยาของหลวงเดช อีกทั้งโฉมฉายยังรู้จักสนิทสนมกับเพื่อนฝูงของหลวงเดช เป็นอย่างดีอีกด้วย ในขณะที่ซ่อนกลิ่นกลับเป็นเมียหลวงเดชที่ไม่มีใครสนใจ นอกจากนี้เงินทองข้าวของทุกอย่างก็ต้องให้โฉมฉายเป็นคนอนุญาตจัดหา ซึ่งยิ่งทำให้ซ่อนกลิ่นรู้สึกกดดันว่าเธอไม่ได้มีสภาพต่างอะไรกับคนใช้คนหนึ่ง ไม่ได้มีอำนาจอย่างที่คนเป็นเมียคุณหลวงควรจะมี วิธีเดียวที่เธอจะได้ทุกอย่างคือ เธอต้องเป็นคุณหญิงและเป็นเมียหลวงของหลวงเดช
นพเองแม้จะรู้ว่าซ่อนกลิ่นไม่อยากให้เขามาอยู่ใกล้ แต่ความรักและความห่วงใยบวกกับภาพซ่อนกลิ่นที่น่าสงสัยในวัยเยาว์ ทำให้นพใจอ่อนและพยามพาตัวเองเข้าดูแลปลอบซ่อนกลิ่น แต่ซ่อนกลิ่นกลัวหลวงเดช จะเข้าใจผิดจึงตัดสินใจไล่นพออกไปจากชีวิต ทำให้นพเสียใจมากตัดสินใจทำเรื่องไปเรียนต่อ ซ่อนกลิ่นพอรู้ข่าวนี้ก็รู้สึกใจหาย เพราะถึงยังไงนพก็เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่เธอมีและหวังดีกับเธอที่สุด แต่เธอก็ต้องปล่อยนพไป
เวลาผ่านไปเมื่อความอิจฉาทวีความรุนแรงขึ้น ซ่อนกลิ่นจึงวางแผนกำจัดโฉมฉายและอัครยศ ลูกชายของเธอ โดยขอให้ทองเป็นคนจัดการ
คืนหนึ่งขณะฝนตกหนัก ซ่อนกลิ่นแกล้งให้คนมาขอความช่วยเหลือโฉมฉาย บอกว่าเธอโดนงูกัดที่ริมแม่น้ำ เมื่อโฉมฉายรู้ก็รีบลุยฝนเดินทางออกไปช่วยซ่อนกลิ่น ระหว่างนั้นทองจึงแอบลอบเข้ามาพาตัวอัครยศออกไป จากนั้นทองก็ให้เพื่อนนักเลงมาทำร้ายโฉมฉาย แต่ด้วยความดีของโฉมฉายทำให้อยู่ๆ ฟ้าก็ผ่าลงมา พวกนักเลงจึงหนีไปกันหมด มีเพียงทองที่ผลักโฉมฉายจนล้มหัวฟาดต้มไม้ใหญ่จนสลบ แล้วโยนร่างของโฉมฉายทิ้งลงไปในแม่น้ำ ขณะที่อัครยศ ซึ่งนอนอยู่บนเรือ อยู่ๆ เรือก็ลอยเคว้งออกไปจากฝั่งจนทองคิดว่ายังไงเด็กน้อยก็คงไม่รอด จึงตัดสินใจกลับบ้านไปรายงานซ่อนกลิ่น ซ่อนกลิ่นแกล้งทำเป็นร้องไห้เสียใจและบอกกับหลวงเดชกับทุกคนว่าเรือล่มทำให้โฉมฉายและอัครยศ หายไปกับสายน้ำทั้งแม่ทั้งลูก หลวงเดชให้คนในบ้านลองงมหาในน้ำแต่ก็ไม่เจอ ทำให้ทุกคนคิดว่าโฉมฉายและอัครยศจมน้ำตายไปแล้ว
รุ่งขึ้นเรือที่อัครยศ พลัดหลงลอยมาติดริมตลิ่ง ขณะที่หลวงพ่ออุเทน กำลังปักกลดอยู่พอดี เพียงแว่บแรกที่เห็นเด็กน้อย หลวงพ่อก็มองเห็นถึงชะตากรรมของเด็กน้อยและรู้ว่าถ้าเด็กคนนี้กลับบ้านจะไม่มีทางรอดชีวิต หลวงพ่อจึงตัดสินใจรับอัครยศ มาเลี้ยงดู โดยที่หลวงพ่อเห็นสร้อยคอที่สลักชื่ออัครยศ คล้องอยู่ที่คอ หลวงพ่อจึงเรียกชื่อเด็กน้อยสั้นๆ ว่า “ยศ”
ขณะที่โฉมฉายสลบอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอีกแห่ง สักพัก “ป้ารี” ชาวบ้านแถวนั้นเห็นเข้าก็รีบช่วยชีวิตเธอทันที โฉมฉายฟื้นขึ้นมาแต่จำอะไรไม่ได้เลยเพราะถูกตีหัวอย่างแรงจนสมองกระทบกระเทือน ป้ารีซึ่งมีหลานสาววัย 6 เดือน คือ “เนตร” และกำลังหาคนมาช่วยเลี้ยงหลานอยู่พอดี จึงบอกให้โฉมฉายมาพักกับเธอ
ส่วนพิศไม่เชื่อว่าโฉมฉายกับอัครยศจะตายแล้วจริงๆ จึงพยายามขอร้องให้หลวงเดชออกตามหาโฉมฉายและอัครยศ อีกทั้งพิศยังบอกหลวงเดชว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ต้องเป็นเพราะซ่อนกลิ่นเป็นคนทำแน่ๆ ทำให้ซ่อนกลิ่นไม่พอใจจึงขอให้พรทำยาสั่งใส่พิศ จนอยู่ๆ พิศก็กลายเป็นคนบ้าเซื่องซึมเสียสติไปในที่สุด
4 ปีผ่านไป หลวงเดชร่างกายอ่อนแอลงและเจ็บป่วยบ่อยโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงตัดสินใจลาออกจากราชการมาดูแลกิจการโรงสีของครอบครัวแทน ขณะที่ซ่อนกลิ่นได้แต่ทุกข์ระทมเพราะหลวงเดชไม่คิดจะตบแต่งเธอเป็นเมียให้เป็นเรื่องเป็นราว เท่ากับว่าเธอไม่มีส่วนในสมบัติของหลวงเดช ซ่อนกลิ่นพยามที่จะมีลูกเพื่อใช้เป็นเครื่องมือผูกมัดหลวงเดชแต่ก็ไม่สำเร็จ ทั้งที่เธอพยายามทุกอย่าง รวมทั้งการเป็นเมียลับๆ ของทองและพร แต่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งธูปได้ฟังเจิมคุยกับคนใช้ในบ้านว่ามีคนไปขอลูกกับพระแล้วมาบอกซ่อนกลิ่นเธอจึงคิดจะไปขอบ้าง
ด้านหลวงพ่ออุเทน ที่เลี้ยงดูอัครยศ จนอายุได้ 5 ปี วันหนึ่งหลวงราชรักษ์ และคุณหญิงมณี มากราบหลวงพ่อ และได้พบกับอัครยศ ก็เกิดถูกชะตากับเด็กน้อย จึงขออัครยศ จากหลวงพ่ออุเทนไปเลี้ยงเป็นลูกอีกคน โดยที่ “อรรถกร” หรือ “ต้น” ลูกชายวัย 10 ขวบ ของเขาก็เห็นดีเห็นงามไปด้วย หลวงพ่ออุเทนเห็นแก่อนาคตของเด็กน้อยจึงยอมยกเจ้ายศ เด็กน้อยผู้น่าสงสารให้แก่หลวงราชรักษ์ไป โดยที่หลวงราชรักษ์ ขอเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ว่า “บวรยศ”
ต่อมาไม่นาน หลวงพ่ออุเทนก็ไปจำวัดที่วัดใกล้บ้านของหลวงเดช จนกระทั่งวันหนึ่ง ซ่อนกลิ่นมากราบพระประธานที่วัดเพื่ออธิษฐานขอลูก และได้เจอกับหลวงพ่ออุเทน แต่หลวงพ่อกลับเทศนาสั่งสอนซ่อนกลิ่นเรื่องกรรม บอกว่าการที่ซ่อนกลิ่นไม่มีลูกนั้นเป็นเพราะซ่อนกลิ่นเคยทำแท้งให้คนอื่น กรรมจึงส่งผลให้ซ่อนกลิ่นไม่มีลูก จากนั้นหลวงพ่อยังเตือนให้ซ่อนกลิ่นเลิกก่อกรรมทำเข็ญเพราะคนที่ซ่อนกลิ่นทำร้ายเขา วันหนึ่งเขาอาจจะกลับมาทำร้ายซ่อนกลิ่น แต่ซ่อนกลิ่นไม่เชื่อและไม่พอใจเพราะคิดว่าคนที่เป็นศัตรูของเธอนั้นถ้าไม่ตายก็บ้า จะมีโอกาสกลับมาทำร้ายเธอได้อย่างไร จึงกลับบ้านไปด้วยความโมโห คิดว่าถึงซ่อนกลิ่นจะไม่มีลูกแต่เธอก็มีอรพิลาศ ที่เธอจะเลี้ยงให้ดีที่สุด เจิมเองสงสารพิศที่วันๆ เอาแต่ซึมและไม่ได้แตะลูกตัวเองเลย จึงต้องแกล้งทำดีว่าจะช่วยเลี้ยงอรพิลาศ เพราะอย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยให้อยู่ในการดูแลของซ่อนกลิ่นและธูปแค่ 2 คน
ด้านโฉมฉาย ที่ในตอนนี้เป็นเหมือนแม่แท้ๆ ของเนตร และลูกสาวของป้ารีไปแล้ว ก็ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขในฐานะแม่คนใหม่ของเนตร และหลานสาวที่ป้ารีเอ็นดู
วันหนึ่งนพเรียนจบกลับมาเมืองไทย พร้อมทั้งกลับมาเยี่ยมซ่อนกลิ่นและหลวงเดช นพเห็นว่าซ่อนกลิ่นไม่ได้ดูมีความสุขอย่างที่เธอควรจะมี ทั้งๆ ที่ทุกอย่างก็อยู่ในมือเธอแล้ว จึงพยามเตือนซ่อนกลิ่นให้ปล่อยวางความทะเยอะทะยานอยากได้อยากมี ซ่อนกลิ่นไม่ฟังคิดว่านพยังหลงรักตัวเองอยู่จึงคิดจะไล่อีก แต่นพส่งการ์ดเชิญงานแต่งงานของเขาให้ซ่อนกลิ่น ซ่อนกลิ่นอดใจหายและอิจฉาผู้หญิงของนพไม่ได้ เพราะนพมีอนาคตไกลและอาจจะให้ตำแหน่งคุณหญิงกับเธอคนนั้น แต่ซ่อนกลิ่นก็ยังเชื่อว่าทางที่เธอเดินมานั้นถูกต้องแล้ว
22 ปี ต่อมา บวรยศ เรียนจบมาจากประเทศอังกฤษ และเข้ารับราชการในกระทรวงต่างประเทศ ท่ามกลางความภาคภูมิใจของพระยาราชรักษ์ ที่ตอนนี้เกษียณราชการมาอยู่บ้าน ที่มีลูกชายมาเป็นตัวแทนทำงานให้กับบ้านเมือง เช่นเดียวกับอรรถกร ที่ตอนนี้เป็นนายแพทย์อยู่ที่จังหวัดนครปฐม
ขณะที่เนตร เติบโตเป็นหญิงสาวที่สวยงาม ทั้งใบหน้าและกิริยามารยาท เพราะได้รับการอบรมจากโฉมฉาย ผิดกับอรพิลาศ ซึ่งถูกซ่อนกลิ่นเลี้ยงดูมาอย่างตามใจ จนกลายเป็นคนเอาแต่ใจและโมโหร้าย ยิ่งเห็นหลวงเดชเจ็บออดๆ แอดๆ ตลอดเวลา เธอก็ยิ่งรำคาญ จึงพูดจาไม่ดีกับหลวงเดชและปล่อยให้หลวงเดชต้องทุกข์ทรมานกับอาการเจ็บป่วยที่ไม่มีใครสนใจไยดีอยู่บ่อยๆ เพื่อเป็นการแก้แค้นที่หลวงเดชไม่คิดจะตบแต่งเธอเป็นเมียหลวง
นพที่แม้ปัจจุบันจะมีหน้าที่การงานใหญ่โต แต่ก็ยังหมั่นมาเยี่ยมเยียนหลวงเดช เจ้านายคนแรกของเขาเสมอ นพไม่เห็นด้วยที่ซ่อนกลิ่นไม่ดูแลหลวงเดช จึงคิดจะเข้ามาดูแลแทน ซ่อนกลิ่นยิ่งเห็นความดีของนพที่ดูแลทั้งหลวงเดช และภรรยาเป็นอย่างดีก็ยิ่งเสียดาย อยากจะทอดไมตรีให้ แต่นพก็ไม่คิดรักเธออีกแล้ว จะมีก็แต่ความเป็นห่วงเพื่อนซึ่งซ่อนกลิ่นก็ไม่ต้องการอีก ทำให้ซ่อนกลิ่นเจ็บใจที่ทุกอย่างมันขัดใจเธอไปหมด
วันหนึ่ง บวรยศผ่านมาที่ร้านขายขนมของโฉมฉาย เมื่อได้เห็นแม่ค้าหน้าสวยอย่างเนตร เขาก็รู้สึกตกหลุมรักในทันที ขณะที่โฉมฉายได้เจอบวรยศ ก็รู้สึกผูกพันอย่างบอกไม่ถูก เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่สัมผัสได้ถึงสายสัมพันธ์อันวิเศษจากหญิงแม่ค้าผู้นี้ บวรยศจึงหมั่นมาอุดหนุนขนมร้านนี้อยู่บ่อยๆ เพราะอยากเจอหน้าเนตร และอยากพูดคุยกับโฉมฉาย
วันหนึ่ง พระยาราชรักษ์ได้จัดงานเลี้ยงวันเกิดและได้เชิญแขกเหรื่อมามากมาย 1 ในนั้นคือ หลวงเดช แต่เพราะหลวงเดชกำลังป่วย ซ่อนกลิ่นจึงอาสาไปร่วมงานเลี้ยงนี้แทน โดยพาอรพิลาศ ไปด้วย เมื่อไปถึงงานเลี้ยง อรพิลาศได้พบกับบวรยศ ก็รู้สึกประทับใจในตัวเขาขึ้นมาทันที โดยไม่รู้ตัวว่าอีกมุมหนึ่งของงาน หมออรรถกร ก็แอบสนใจในตัวเธอเหมือนกัน อรรถกรพยายามเข้ามาทำความรู้จักกับอรพิลาศ แต่อรพิลาศกลับปฏิเสธไมตรีนั้น ด้วยเพราะในตอนนี้เธอชอบบวรยศ มากกว่า
อรพิลาศบอกซ่อนกลิ่นว่าบวรยศ คือ ชายในฝัน ขณะที่ซ่อนกลิ่นเองก็อยากเป็นดองกับพระยาราชรักษ์ จึงรับปากอรพิลาศว่าจะช่วยให้ลูกสาวสมหวังในรักครั้งนี้ ซ่อนกลิ่นจึงไปขอให้พรช่วยทำเสน่ห์ให้กับอรพิลาศ หากแต่ในเวลานี้ พรกำลังป่วยหนักด้วยโรคประหลาด เพราะอยู่ๆ มือและขาของเขาก็อ่อนแรงจนไม่สามารถทำพิธีอะไรได้อีกแล้ว อีกทั้งพรยังฝันถึงบรรดาศพเด็กที่มาคอยตามหลอกหลอนเขา และวิญญาณของกรองแก้ว ที่คอยวนเวียนสาปแช่งเขาตลอดเวลา ซ่อนกลิ่นต้องการช่วยพร เพราะเห็นแก่ความเป็นสามีภรรยา และอยากให้พรหายเร็วๆ เพื่อมาช่วยอรพิลาศ ซ่อนกลิ่นจึงหาหมอเก่งๆ มารักษาพร แต่ก็ไม่มีใครรักษาโรคประหลาดนี้ได้ จนกระทั่งซ่อนกลิ่นได้ยินชาวบ้านพูดถึงหลวงตาอุเทน ที่ช่วยรักษาโรคให้ชาวบ้านได้ เธอจึงไปกราบนิมนต์หลวงตาให้มาช่วยพร
แต่เมื่อได้พบหลวงตา ซ่อนกลิ่นก็จำได้ทันทีว่าหลวงตาคือ พระที่เคยเทศนาเรื่องกรรมให้เธอฟัง ครั้งนี้หลวงตาบอกถึงแรงกรรมที่ตามมาทวงคืนพร จากที่เขาเคยทำบาปไว้ โดยที่พรไม่สามารถหลีกพ้นได้ และยังได้เตือนซ่อนกลิ่นด้วยว่ากำลังจะถึงเวลาของเธอเหมือนกัน ซ่อนกลิ่นโกรธแค้นในคำพูดของหลวงตา จึงบอกให้ทองพานักเลงไปสั่งสอนหลวงตา
คืนนั้นเอง ทองจึงให้ลูกน้องไปดักทำร้ายหลวงตา แต่ด้วยพุทธานุภาพทำให้อาวุธทั้งหลายทำอะไรหลวงตาไม่ได้ ทองเล่าให้ซ่อนกลิ่นฟังแต่ซ่อนกลิ่นไม่เชื่อ
จนกระทั่งคืนต่อมา พรเกิดอาการป่วยอย่างหนัก อยู่ๆ เขาก็มองเห็นเหล่าวิญญาณเด็กทั้งหลายเข้ามารุมทำร้ายเขา จนพรมีเลือดออกจากทวารทั้ง 5 และสิ้นใจอย่างอนาถ เมื่อซ่อนกลิ่นได้เห็นสภาพของพรก็เกิดอาการหวาดกลัว เธอจึงรีบหนีกลับมาบ้าน และได้พบว่าหลวงเดชมีอาการเปลี่ยนไป เพราะอยู่ๆ ก็สุขภาพดีขึ้น อีกทั้งเขายังรู้สึกชังน้ำหน้าซ่อนกลิ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เพราะเวทย์มนต์ของพรได้เสื่อมไปหมดแล้ว
เมื่อหลวงเดชมีสติมากขึ้นจึงได้ไปหาพิศที่อยู่ๆ ก็หายจากอาการเสียสติ หลวงเดชจึงบอกให้พิศย้ายกลับมาอยู่เรือนใหญ่เหมือนเดิม สร้างความเจ็บแค้นให้ซ่อนกลิ่น ในเวลานี้ที่พึ่งเดียวของซ่อนกลิ่นก็คือ อรพิลาศ ซ่อนกลิ่นจึงรีบหาทางให้อรพิลาศ และบวรยศ ได้แต่งงานกันโดยเร็วที่สุด
ซ่อนกลิ่นวางแผนให้อรพิลาศ ได้ใกล้ชิดกับบวรยศ จนหลายครั้งที่เนตรเองก็รู้สึกหวั่นไหวและพลอยโกรธบวรยศ ที่มีคนรักอยู่แล้วแต่ยังมาตามตอแยเธอ แต่จนแล้วจนรอด บวรยศก็พิสูจน์ให้เนตรรู้ว่าเขาจริงใจกับเธอมากแค่ไหน จนในที่สุดบวรยศตัดสินใจพามณีมารู้จักกับโฉมฉายและเนตร เมื่อมณีได้พบโฉมฉายก็จำได้ว่าเธอคือ ภรรยาของหลวงเดช ที่ตายไป 22 ปี นั่นเอง มณีจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับโฉมฉายฟัง ทำให้เนตรเสียใจมากที่รู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกที่แท้ของโฉมฉาย
มณีเอาเรื่องทั้งหมดไปเล่าให้พระยาราชรักษ์ฟัง เขาจึงตัดสินใจไปบอกความจริงกับหลวงเดช แต่ขณะนั้นเองซ่อนกลิ่นรู้เรื่องเสียก่อน ซ่อนกลิ่นจึงรีบไปหาโฉมฉายและหลอกโฉมฉายว่าจะพาไปหาอัครยศ ลูกชายของเธอ โฉมฉายหลงเชื่อจึงตามซ่อนกลิ่นไป แต่แล้วระหว่างทางซ่อนกลิ่นก็ให้ทองมาดักทำร้ายโฉมฉาย โดยที่โฉมฉายถูกท่อนไม้ทุบหัวจนสลบจมกองเลือด จากนั้นทองก็เอาร่างของเธอไปทิ้งไว้นอกเมืองแถวๆ นครปฐม โดยหารู้ไม่ว่าโฉมฉายยังไม่ตาย โชคดีที่หมออรรถกร ขับรถผ่านมาพอดี จึงได้ช่วยชีวิตของโฉมฉายไว้ได้ทันและให้เธอพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจังหวัดนครปฐม
ขณะที่หลวงเดชไปหาโฉมฉายที่ร้านขนมแต่ไม่เจอ อีกทั้งเนตรยังบอกอีกว่าโฉมฉายหายไปจากบ้านตั้งแต่เมื่อวานยังไม่กลับ ก็ยิ่งทำให้หลวงเดชเป็นห่วงมากขึ้น หลวงเดชกลับมาถามซ่อนกลิ่นว่ารู้เรื่องนี้หรือเปล่า แต่ซ่อนกลิ่นทำเป็นไม่รู้เรื่อง
ด้านบวรยศเองก็พยายามช่วยเนตรตามหาโฉมฉาย ทำให้อรพิลาศไม่พอใจที่บวรยศไปสนใจแม่ค้าขายขนมมากกว่าเธอ อรพิลาศจึงบอกให้ซ่อนกลิ่นช่วยจัดการกำจัดเนตร
คืนต่อมา ทองพาลูกน้องไปดักทำร้ายเนตร โชคดีที่บวรยศมาช่วยไว้ได้ทัน เขาเห็นว่าที่บ้านของเธอไม่ปลอดภัยอีกแล้ว จึงพาเนตรไปพักอยู่กับแม่ชีที่วัดของหลวงตาอุเทน ทำให้เนตรรู้ความจริงว่าบวรยศไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของพระยาราชรักษ์ และยิ่งได้รู้จากแม่ชีถึงชะตากรรมของบวรยศก่อนมาเจอหลวงตาก็ยิ่งทำให้เนตรสงสารบวรยศมากขึ้นไปอีก
ขณะเดียวกันโฉมฉายฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาล ในตอนนี้ความทรงจำของเธอกลับคืนมาเหมือนเดิมแล้ว สิ่งแรกที่เธอเรียกหาคือ ตั้มลูกชายของเธอที่พรากจากกันไป 22 ปี โฉมฉายจึงขอร้องให้หมออรรถกร พาเธอไปบ้านหลวงเดช เมื่อไปถึง หลวงเดชดีใจมากที่โฉมฉายยังไม่ตาย แต่เมื่อโฉมฉายได้รู้จากหลวงเดชว่าอัครยศตายไปเมื่อ 22 ปี ก่อน พร้อมๆ กับที่เธอหายไป โฉมฉายเสียใจจนใจแทบขาด ขณะที่อรพิลาศรู้เข้าก็รีบไปบอกซ่อนกลิ่น แต่ขณะที่ทั้ง 2 คนคุยกัน หมออรรถกรได้ยินเข้าพอดีทำให้คิดว่าซ่อนกลิ่นอาจะเป็นตัวการสั่งคนมาทำร้ายโฉมฉายก็ได้
หมออรรถกร กลับมาบอกเรื่องนี้กับบวรยศ จนเนตรได้รู้ว่าโฉมฉายปลอดภัยดี แต่เธอไม่กล้าไปหาโฉมฉาย เพราะในเวลานี้ โฉมฉายไม่ได้เป็นแม่ของเธออีกต่อไปแล้ว อีกทั้งยังเป็นภรรยามหาเศรษฐีอย่างหลวงเดชอีกด้วย เนตรจึงบอกกับบวรยศว่าเธอขออยู่ที่วัดอย่างนี้ต่อไปจะดีกว่า
ขณะที่ลูกน้องของทองไปเจอเนตรที่วัดก็รีบมาบอกทอง ทองจึงสั่งให้มาทำร้ายเนตร แต่ในตอนนั้นหลวงตาอุเทนสั่งเด็กวัดให้มาช่วยเนตรไว้ได้ วันต่อมาบวรยศมากราบหลวงหลวงตาและมาเยี่ยมเนตร หลวงตาอุเทนบอกกับบวรยศว่าเนตรอยู่ในอันตราย บวรยศจึงกลับไปบอกมณีว่าเขาอยากแต่งงานกับเนตร จะได้ดูแลเนตรอย่างเต็มที่มากกว่านี้ แต่มณีติดที่ว่าเนตรไม่มีผู้ใหญ่ที่จะสู่ขอด้วยเลย บวรยศจึงให้มณีไปสู่ขอกับโฉมฉาย
ต่อมาพระยาราชรักษ์ และมณี ไปที่บ้านของหลวงเดชเพื่อไปสู่ขอเนตรให้กับบวรยศจากโฉมฉาย ทันทีที่อรพิลาศรู้ก็เสียใจมาก อรพิลาศจึงให้ทองลักพาตัวเนตรไปซ่อนที่กระท่อมนอกเมือง
เนตรถูกอรพิลาศตบตีและทรมานสารพัดก่อนจะถูกมัดตัวทิ้งไว้ที่นั่นเพียงลำพัง ขณะที่อรพิลาศกลับบ้านไปก็แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ด้านบวรยศพยายามตามหาเนตรแต่ก็หาไม่พบ จนกระทั่งเรื่องนี้รู้ถึงหูของอรรถกร อรรถกรรู้ดีว่าต้องเป็นฝีมือของอรพิลาศอย่างแน่นอน แต่เพราะไม่อยากให้คนที่เขารักต้องโดนกฎหมายลงโทษ เขาจึงไปพูดกับอรพิลาศให้ปล่อยตัวเนตร ทั้ง 2 คนทะเลาะกันอย่างหนักจนอรรถกรสารภาพไปว่าเพราะเขารักอรพิลาศและไม่อยากให้อรพิลาศทำผิดมากไปกว่านี้ แต่อรพิลาศยืนยันว่าเธอไม่ได้ลักพาตัวเนตรไป อรรถกรจึงขู่ว่าจะแจ้งความ
อรพิลาศคิดหนักเรื่องนี้จึงบอกซ่อนกลิ่นให้ช่วย ซ่อนกลิ่นจึงให้ลูกน้องของทองไปฆ่าอรรถกร แต่ในระหว่างนั้นเอง อรพิลาศเปลี่ยนใจไม่อยากให้อรรถกรตาย เธอจึงรีบไปบอกอรรถกรไว้ก่อน ทำให้อรรถกรดีใจที่อรพิลาศไม่ได้เกลียดเขาอย่างที่คิด อรรถกรขอร้องให้อรพิลาศปล่อยตัวเนตรไป แต่อรพิลาศยืนยันว่าเธอไม่ได้พาตัวเนตรไปเพราะยังกลัวความผิดอยู่
นพที่เริ่มรู้เรื่องนี้และก็คิดเหมือนคนอื่นว่าซ่อนกลิ่นอาจจะรู้เห็นในหลายๆ เรื่อง จึงรีบมายับยั้งซ่อนกลิ่นแต่ซ่อนกลิ่นก็ไม่ฟังและขู่ทำร้ายเมียของนพหากเขายังคิดจะยุ่งเรื่องของเธอ
ต่อมาตำรวจบอกกับบวรยศว่าได้เบาะแสจากชาวบ้านว่าเห็นทอง ลักพาตัวหญิงสาวคนหนึ่งไป สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นเนตร บวรยศจึงบอกกับโฉมฉายว่าจะตามไปช่วยเนตร ขณะที่ซ่อนกลิ่นได้ยินก็รีบไปหาทองที่บ้านแต่ลูกน้องทองกลับบอกว่าทองไปที่กระท่อม ซ่อนกลิ่นกลัวว่าทองจะถูกจับและอาจซัดทอดมาถึงเธอ จึงรีบไปที่กระท่อมก่อนที่ตำรวจจะตามไปถึง
ขณะที่ทองตั้งใจจะไปข่มขืนเนตร แต่แล้วก็ถูกซ่อนก