พิรญาณ์ หรือ
พิณ (แซมมี่ เคาวเวลล์) ลูกสาวคนโตของ
พีระเดช (สันติสุข พรหมศิริ) ปลัดกระทรวงฯ และ
มัทนา (กชกร นิมากรณ์) เจ้าของธุรกิจอัญมณี ได้แต่งงานกับ
ปาณัท หรือ
นนท์ (ธันวา สุริยจักร) ลูกชายคนโตของ
เปรมสุดา (มัณฑนา หิมะทองคำ) เลขาฯ ของพีระเดช อย่างเรียบง่ายตามพิธีกรรมทางศาสนาในโบสถ์แห่งหนึ่งในอเมริกา ปาณัทแอบชอบพิรญาณ์ ตั้งแต่เธอยังเด็ก แต่เมื่อเริ่มโตก็ห่างๆ กันไป ทั้งคู่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งที่เมืองพอร์ตแลนด์ ขณะนั้นปาณัท กำลังเรียนเฉพาะทางด้านศัลยแพทย์หัวใจ ที่มหาวิทยาลัยของรัฐออริกอน ในพอร์ตแลนด์ ได้ 2 ปี เมื่อพิรญาณ์ จะมาเรียนต่อที่เมืองเดียวกัน พีระเดช ผู้เป็นพ่อของพิรญาณ์ มาหาเขาด้วยตัวเองเพื่อฝากให้เขาดูแลเธอด้วย เขาดูแลให้เธอได้เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับเขาและบริการเป็นอย่างดี จนกระทั่งตอนนี้พิรญาณ์เรียนจบแล้วและสมัครเรียนการออกแบบเครื่องประดับพร้อมกับฝึกงานที่บริษัทออกแบบอัญมณีเล็กๆ เพื่อรอปาณัท ที่ต้องทำงานอีก 1 ปี และวางแผนร่วมกันว่าจะกลับไปจัดพิธีแต่งงานกันอีกครั้งที่เมืองไทย
ทั้งคู่ไปฮันนีมูนกัน 3 สัปดาห์ เวลาผ่านไปอย่างมีความสุข แต่เมื่อทั้งคู่กลับมาที่บ้านของพิรญาณ์ ก็พบว่าที่บ้านมีแขกคือ
พศิน หรือ
พัฒน์ (ปรัชญ์ ปรมิน) น้องชายของปาณัท ซึ่งมาอาศัยอยู่ที่นี่กับ
พศิกา หรือ
พันช์ (เซฟฟานี่ อาวะนิค) น้องสาวของพิรญาณ์ ตลอด 3 สัปดาห์ แต่พศิน ยืนยันว่าเขานอนนอกห้องและไม่ได้ล่วงเกินพศิกาใดๆ อย่างไรก็ตามผู้เป็นพี่ทั้ง 2 คน สังเกตเห็นว่าน้องสาวและน้องชายของตนกำลังชอบพอกันอยู่ ปาณัทจึงเล่าความลับที่เป็นเหตุผลที่พศินกับพศิกาไม่ควรรักกันให้กับพศินฟัง และจำต้องเล่าให้พิรญาณ์กับพศิกาฟังด้วยเมื่อพศิกาจับได้ว่าพศินนามสกุลเกียรติดำรงกุล เหมือนกับเธอ
ความจริงนั้นคือ เปรมสุดา เป็นบ้านเล็กของพีระเดช และมีลูกชายด้วยกันคนหนึ่งคือ พศิน พศินเองทราบว่ามารดาของตนเองเป็นบ้านเล็ก แต่ไม่เคยรู้จักบ้านใหญ่มาก่อน ในขณะที่บ้านใหญ่นั้นไม่เคยทราบมาก่อนว่าพีระเดช มีบ้านเล็กนี้อยู่ ปาณัทเองรู้สึกผิดมาตลอดที่รักพิรญาณ์ แต่เขาก็รักเธอจนไม่อาจห้ามใจตัวเองได้จริงๆ จึงตั้งใจจะแต่งงานก่อน แล้วจึงบอกความจริงเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน แต่หลังจากที่ 2 สาว ได้ทราบเรื่องก็โกรธและขับไล่ปาณัทกับพศินไปอย่างไม่ใยดี
พศิกาซึ่งมีอารมณ์ร้อนเอาแต่อาละวาดไม่หยุด โทรศัพท์ไปหาพ่อ แต่เปรมสุดา ผู้เป็นเลขาฯ รับสายตามหน้าที่ จึงโดนพศิกาด่าทอไปชุดใหญ่ ก่อนจะวางสายและติดต่อไปหาแม่ เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง มัทนาได้ทราบความจริงก็หัวใจวาย เข้าโรงพยาบาลไป
พิรญาณ์ และพศิกา กลับมาที่เมืองไทย พบว่ามัทนาฟื้นขึ้นมาจากอาการหัวใจวายแล้ว แต่มีอาการป่วยทางจิต อาละวาดไล่ทุกคนที่มาเยี่ยมออกไป แม้กระทั่งลูกสาวทั้ง 2 พีระเดชมาถึงก็ถูกด่าและขว้างปาข้าวของใส่เขา จึงไม่กลับมาที่บ้านอีก พศิกา ก็เอาแต่ก่นด่าผู้เป็นพ่อกับเปรมสุดา ที่เป็นต้นเหตุให้แม่ป่วย และโกหกไปว่าเธอมีอะไรกับพศินไปแล้ว เพื่อให้พ่อของเธอรู้สึกผิดและเจ็บปวดบ้าง แม้ว่าพศิน จะปฏิเสธ แต่ทุกคนเชื่อว่าพศิกา เป็นผู้หญิงจะต้องพูดความจริงแน่นอน ยกเว้นเพียงเปรมสุดา ที่เชื่อมั่นว่าลูกชายของเธอเป็นสุภาพบุรุษ ไม่มีวันทำเช่นนั้น แต่ไม่กี่วันต่อมา พศิกาก็เก็บข้าวของหนีออกจากบ้านไป พิรญาณ์ จึงต้องทำหน้าที่บริหารธุรกิจอัญมณีแทนแม่
เวลาผ่านไปปีกว่าๆ หลังจากมัทนา ล้มป่วย ธุรกิจอัญมณีที่เคยเฟื่องฟูก็เริ่มตกลง
วิวัฒน์ (เชื้อชาติ วงษ์สวัสดิ์) คู่แข่งธุรกิจก็มาแย่งตัวนักออกแบบเก่งๆ ของเธอไปจนเกือบหมด เหลือเพียง
กรกฎ หรือ
กุ้ง (ชวนภ โพธิ์ประเสริฐ) คนเดียวเท่านั้นที่ยังทำงานอยู่เพราะรักมัทนา
ด้วยความสวยของเธอทำให้มีลูกค้าระดับมหาเศรษฐีหลายคน เช่น
เหวินเฉียง หรือ
คุณสุเมธ (ธัญวิสิฎฐ์ เสียงหวาน) เศรษฐีนักธุรกิจเชื้อสายจีน
รามาน (อิทธิกร สาธุกรรม) นักธุรกิจชาวอินเดีย ฯลฯ เข้ามาเสนอให้เธอแต่งงานกับเขาเพื่อให้เขาช่วยประคับประคองกิจการที่ดูจะไปไม่รอดของเธอ แต่เธอก็ปฏิเสธทั้งหมด จนทุกอย่างเริ่มจะไร้ทางออก
ฝ่ายปาณัท ก็ได้กลับมาทำงานที่โรงพยาบาลในไทยแล้ว
"หมอนนท์" กลายเป็นหมอหนุ่มเนื้อหอมมากกว่าเดิมเมื่อได้พิสูจน์ความเก่งในการเป็นมือ 1 ผ่าตัดเคสของรัฐมนตรีแทน
อาจารย์หมอสมชาติ (สุรศักดิ์ ชัยอรรถ) ที่ผ่าตัดหนักมาตลอดคืน 1 ในบรรดาสาวๆ ที่มาหลงเสน่ห์ปาณัทนั้น รวมไปถึง
วาสิตา หรือ
คุณหวา (อธิชนัน ศรีเสวก) ลูกสาวผู้อำนวยการโรงพยาบาล ซึ่งตัดความสัมพันธ์กับ
นายแพทย์ณัฐวุฒิ หรือ
หมอณัฐ (กฤษฎา สุภาพพร้อม) อย่างไม่ไยดีเมื่อพบหมอนนท์ ขณะที่หมอนนท์ ก็ยังคงรักพิรญาณ์ จนไม่เปิดใจให้ใคร วาสิตาไม่เคยมีผู้ชายคนไหนปฏิเสธมาก่อนจึงยิ่งต้องการเอาชนะด้วยการใช้อิทธิพลของบิดา ขอให้อาจารย์หมอสมชาติ เป็นพ่อสื่อ
เวลาผ่านไปหลายเดือนขณะที่พิณ ปิดใจไม่ยอมรับความห่วงใยของหมอนนท์ ด้วยความแค้นใจว่าหมอนนท์ คือ ลูกของคนที่สูบเงินทองและความสุขไปจากครอบครัวเธอ หมอนนท์ กลับค่อยๆ สนิทสนมกับวาสิตา จนกลายเป็นเงาของกันและกัน เปรมสุดา ชอบวาสิตา และขอร้องให้พีระเดช เป็นผู้ใหญ่ไปสู่ขอ ด้วยสินสอดเงินเก็บของหมอนนท์เอง บวกกับของเปรมสุดาที่เก็บอย่างยากลำบาก ส่วนเรือนหอนั้น วาสิตาจัดการให้หมอนนท์ซื้อได้ในราคาถูกเป็นพิเศษ
ขณะที่พิรญาณ์ กำลังท้อแท้จนคิดถึงความอบอุ่นใจที่ได้รับจากพี่นนท์ อยากกลับไปคืนดี ก็ได้เห็นข่าวในโทรทัศน์ว่า
"พี่นนท์" ของเธอ กำลังจะแต่งงานกับไฮโซลูกค้าร้านเพชรของเธอเอง เธอแค้นใจที่พี่นนท์กำลังจะได้มีชีวิตสุขสบายเป็นเขยมหาเศรษฐี ในขณะที่เธออยู่อย่างยากลำบาก ทั้งถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรีจากลูกค้าเจ้าชู้ยักษ์ ถูกโกง ซ้ำมารดายังมีแต่ทรงกับทรุด เธอจึงวางแผนช่วงชิงความสุขกลับคืนมา
ในวันหมั้นของหมอนนท์กับวาสิตา ที่บ้านของฝ่ายหญิง ขณะที่กำลังจะสวมแหวนนั้นเอง พิรญาณ์ในชุดราตรีสีแดงก็ปรากฏตัวขึ้น ประกาศลั่นว่าหมอนนท์ ไม่สามารถหมั้นหมายกับใครได้อีก เพราะเขาเป็นสามีของเธอที่ผ่านพิธีแต่งงานมาแล้วถูกต้อง เกิดความชุลมุนขึ้น วาสิตาเองก็ไม่ยอม ลุกขึ้นต่อปากต่อคำผลักพิรญาณ์ พิรญาณ์รู้จุดอ่อนหมอนนท์ แกล้งล้มเป็นลมในอ้อมแขนหมอนนท์ จนหมอนนท์ ก็ต้องออกมาจากงานนั้นพร้อมกับพิรญาณ์
ทั้ง 2 ไปอยู่ด้วยกันที่บ้านที่ควรจะเป็นเรือนหอของวาสิตา โดยไม่จดทะเบียนสมรส หมอนนท์ยังรักพิรญาณ์อยู่ทุกลมหายใจและดีใจเหลือเกินที่พิรญาณ์ ให้อภัยเขา จึงยอมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เธอไม่ยอมจดทะเบียนสมรส และไม่ยอมมีลูก แต่พิรญาณ์นั้นยังคงเต็มไปด้วยความโกรธเกลียด ยิ่งมองเห็นว่าเขามีชีวิตที่ดีเท่าไร เธอยิ่งต้องการแก้แค้นมากเท่านั้น แม้เธอจะแสดงออกว่ารักเขามาก แต่เธอก็มุ่งมั่นที่จะทำลาย เธอเริ่มต้นจากการขอเงินสินสอดจำนวน 11 ล้านนั้น มาใช้ลงทุนในการสั่งซื้ออัญมณี แล้วก็ขอเอาเครื่องเพชรของหมั้นไปขายเอาเงินมาใช้ในบริษัท ในทางกลับกัน ยิ่งเมื่อหมอนนท์เห็นว่ามัทนา ป่วยหนักเพียงใด เขาตระหนักว่าแม่ของเขาเป็นต้นเหตุทั้งหมด จึงตั้งใจที่จะช่วยเหลือเธอให้เต็มที่ เขายอมขายเรือนหอของวาสิตาหลังนี้ และย้ายไปอยู่เรือนเล็กๆ ในบ้านใหญ่ของพิรญาณ์ ที่เหลือแต่บ้าน เพราะเธอขายเครื่องลายครามและเครื่องเรือนราคาแพงๆ ไปหมดแล้ว
หมอนนท์จ้างพยาบาลชื่อ
ดารณี (ธมลพรรณ์ ภานุชิตพุทธิวงศ์) มาดูแลมัทนาที่บ้าน แต่มัทนาก็ยังคงเกลียดหมอนนท์ จนพาลไปเกลียดลูกสาวตัวเองที่แต่งงานกับลูกชายของคนที่ทำลายชีวิตของเธอ แล้วยังพาเข้ามาอยู่ด้วยกันในบ้านของเธออีก
ฝ่ายพีระเดช เมื่อเห็นว่าลูกสาวของตนพยายามแย่งชิงนนท์กลับมา ก็เข้าไปตักเตือน แต่ถูกพิรญาณ์ ต่อว่าและชี้ให้เห็นความย่ำแย่ของกิจการที่เคยรุ่งเรืองว่าเกิดขึ้นเพราะความมักมากหลายใจของพ่อเป็นต้นเหตุ พีระเดช จึงถามจำนวนเงินที่เธอต้องการเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่จะให้เธอเลิกยุ่งกับหมอนนท์ เธอขอเงิน 10 ล้านจากเขา เขาจึงต้องจำนองบ้านของเขากับเปรมสุดา เพื่อนำเงินจำนวนนั้นมาให้เธอ
หมอณัฐ ขอให้พิรญาณ์ จดทะเบียนสมรส เพื่อวาสิตา จะได้เลิกหวังในตัวหมอนนท์ และกลับมาคบกับเขาเหมือนเดิม แต่นอกจากเธอจะไม่ทำตามคำขอของหมอณัฐแล้ว เธอยังได้ใช้เขาเป็นเครื่องมือด้วยการแกล้งปล่อยข่าวที่หมอนนท์เป็นบ้านเล็กและกอบโกยสมบัติไปจากแม่ของเธอจนเป็นบ้า วันต่อมาเรื่องนี้ก็เป็นประเด็นดังในโซเชียล จนเปรมสุดา ถูกสอบ ด้วยความอับอายเธอจึงลาออก ส่วนพีระเดช ก็จัดการให้กลายเป็นเรื่องใส่ร้ายกันและทำงานต่อไปได้ หมอนนท์เข้าใจว่าเป็นฝีมือวาสิตา
วาสิตาสืบประวัติของพิรญาณ์ ได้ไม่ยาก ด้วยประวัติทางการแพทย์ของเธอที่เคยปรึกษาจิตแพทย์เกี่ยวกับอาการเครียด ซึ่งจิตแพทย์คนเดียวกันนี้เองก็เป็นผู้รักษามัทนา และจ่ายยาระงับความเครียดกับพิรญาณ์ วาสิตา ผู้เคยเอาแต่ใจกลายเป็นผู้ที่เข้าใจปัญหาทั้งหมด และคาดเดาได้ว่าพิรญาณ์ กลับมาหาหมอนนท์ครั้งนี้เพื่อแก้แค้น วาสิตาเตือนหมอนนท์ แต่เขาปฏิเสธความหวังดีของเธอและเลือกจะเชื่อภรรยาของเขาเพียงคนเดียว
ทางด้านมัทนาจากที่เกลียดนนท์ ก็เริ่มใจอ่อนลงเรื่อยๆ เพราะความดีของเขา อาการของเธอดีขึ้นเรื่อยๆ สามารถช่วยเลือกแบบภาพสเกตช์ของเครื่องประดับที่กุ้งออกแบบ จนกระทั่งสามารถช่วยสเกตช์แต่งเติมแบบอุบะจนสวย ทุกคนตื่นเต้นมาก พิรญาณ์อยากทำตามแบบที่มัทนาทำมาให้ แต่เธอไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อเพชรพลอยตามแบบได้ครบ มัทนาจึงเข้าไปเปิดตู้เซฟและนำเพชรพลอยออกมาวางเรียงตามแบบนั้นครบถ้วน พิรญาณ์ดีใจมาก นำเพชรพลอยเหล่านั้นไปทำเป็นอุบะตามแบบที่แม่ของเธอแต่งเติมและนำไปแสดงในงานแสดงเครื่องเพชร ประมูลขายไปได้ทั้งชุดในราคาเป็นร้อยล้าน บริษัทของเธอจึงกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง ลูกค้าเก่าที่เคยหายไปก็กลับมา มัทนาฟื้นฟูร่างกายจนกลับมาบริหารกิจการต่อได้
พิรญาณ์เห็นแม่ใจอ่อนกับหมอนนท์ ก็เกือบจะเลิกเคียดแค้นอาฆาต แต่เมื่อเห็นหมอนนท์สนิทสนมกับวาสิตา ก็เข้าใจว่าหมอนนท์นอกใจ แต่ไม่ถามเพราะเกรงจะเสียเหลี่ยม วาสิตาเมื่อไม่รู้ว่าพิรญาณ์ สงสัยตน ก็ยิ่งใกล้หมอนนท์มากขึ้น เพราะไม่ต้องการให้หมอณัฐ มาเกาะแกะอีก
พิรญาณ์หลอกถามพาสเวิร์ดหมอนนท์ เพื่อล็อคอินเข้าระบบข้อมูลคนไข้ของโรงพยาบาล ทำให้บังเอิญเจอเคสของดาราสาวแท้งลูกที่เกิดกับรัฐมนตรี ความลับนี้หลุดไปถึงหมอณัฐ หลังจากนั้นเรื่องนี้ก็ออกข่าวดัง โรงพยาบาลโดนเรียกร้องค่าเสียหาย หมอปาณัท หรือหมอนนท์ ถูกเรียกสอบ
จากการตรวจสอบการเข้าฐานข้อมูลคนไข้ของโรงพยาบาล พบว่าปาณัท ได้ล็อกอินเข้าระบบไปหลายครั้ง มากกว่าที่เขาเข้าจริงๆ เขาจึงรู้ได้ว่าเป็นภรรยาของเขาที่มักมาใช้คอมพิวเตอร์ของเขานั่นเอง ที่ปล่อยข่าวนี้ หมอนนท์เข้าใจแล้วว่าที่ผ่านมาพิรญาณ์ ต้องการแก้แค้น และตอนนี้เธอได้ทำสำเร็จแล้ว
เปรมสุดาเสียใจกับลูกชาย บ้านติดจำนองกำลังจะถูกยึด หมอนนท์ตัดสินใจเก็บข้าวของออกจากบ้านของพิรญาณ์ไป และแม้พิรญาณ์คิดไว้แล้วว่าเรื่องจะต้องจบแบบนี้แต่เธอก็เสียใจมาก
เวลาต่อมาพิรญาณ์พบว่าเธอท้อง เธอตัดสินใจไม่บอกพี่นนท์ ตั้งใจจะเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง แม้จะเห็นจากข่าวในโทรทัศน์แล้วว่าหมอนนท์นั้นได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดอยู่ที่นราธิวาส แต่เธอก็ยังคงใจแข็งและไม่ยอมสนใจเขาเลย ตรงข้ามกับวาสิตา ที่เดินทางไปตามเขากลับมาทันที แต่เขาก็ไม่ยอมกลับ
วาสิตารู้ดีว่ามีเพียงพิรญาณ์คนเดียวเท่านั้นที่จะพาเขากลับมาได้ จึงได้ไปขอร้องให้พิรญาณ์ อภัยหมอนนท์ เพราะเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเขาเลย แต่เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่มันผ่านไปแล้ว 2 สาวเถียงกันจนพิรญาณ์เป็นลมไปต่อหน้าต่อตา วิสิตาอยากจะคิดว่ามารยา แต่เมื่อพาเธอไปโรงพยาบาลจึงได้ทราบว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกของหมอนนท์อยู่
วาสิตาตัดสินใจบอกเปรมสุดา เรื่องพิรญาณ์ท้องเพื่อให้เปรมสุดานำข่าวนี้ไปบอกกับหมอนนท์ แต่แม้จะทราบข่าวนี้แล้วเขาก็ยังคงไม่กลับมาเพราะคิดว่าพิรญาณ์ไม่มีวันให้อภัยความผิดของเขาและเขาเองก็ยังเสียใจในการกระทำของพิรญาณ์เช่นกัน
เปรมสุดาตัดสินใจเลิกกับพีระเดช และเตรียมย้ายไปอยู่อเมริกากับพศิน เธอมากราบขอโทษมัทนา รวมถึงขอร้องให้พิรญาณ์ มองว่าเธอเป็นแม่ของปาณัทเท่านั้น ไม่ใช่ภรรยาของพีระเดชอีกต่อไป
มัทนายกโทษให้เปรมสุดา และเตือนสติพิรญาณ์ เพื่อให้เธอให้อภัย จะได้ไม่จบลงที่การเป็นบ้าเช่นเดียวกับที่มัทนาเองเคยเป็นมาก่อน
พิรญาณ์คิดได้แล้วจึงตัดสินใจจะไปหาปาณัท ก่อนไปเธอได้บอกกับวาสิตาว่าความจริงแล้วเธอเป็นคนตั้งใจชี้โพรงให้กระรอก ให้หมอณัฐ เป็นคนสืบค้นข้อมูลเรื่องดาราสาวนั่นและปล่อยข่าวออกไป เพื่อดิสเครดิตหมอนนท์ เธอแนะให้วาสิตาลองตรวจสอบในระบบคอมพิวเตอร์ดูว่าใครเป็นคนเข้าไปในไฟล์ข้อมูลนั้น เพื่อใช้เป็นหลักฐานให้หมอนนท์ พ้นข้อกล่าวหาได้
แต่พิรญาณ์ก็ไม่สามารถติดต่อหมอนนท์ได้ในทันที เพราะเกิดอุบัติเหตุขณะที่เขากำลังเดินทางไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุระเบิด รถของเขาถูกแรงระเบิดอัดจนคว่ำ ซ้ำแล้วยังถูกยิง กระสุนถากศีรษะของเขานัดหนึ่ง และอีกนัดหนึ่งนั้นทะลุปอด พิรญาณ์ทราบข่าวรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาลที่นราธิวาสทันที
เมื่อหมอนนท์ฟื้นขึ้นมา ทั้ง 2 ก็ทำความเข้าใจกันได้ในที่สุด เปรมสุดาที่ตามเข้ามาก็ได้บอกว่าเธอจะย้ายไปอยู่กับพศิน ส่วนวาสิตาก็เข้ามาแสดงความยินดีที่พิรญาณ์กับปาณัท ได้รักกันสักที ทั้งคู่ก็รู้สึกขอบคุณวาสิตา ที่เป็นคนสำคัญที่ทำให้ทั้งคู่ได้กลับมารักกัน
มัทนาและพิรญาณ์ เดินทางไปหาพศิกา ที่อเมริกาตามที่อยู่ที่พศินได้บอกกับเปรมสุดา พศิกาเล่าว่าเธอได้มาเรียนการโรงแรมที่นี่โดยมี คุณอนุพงศ์ เจ้าของโรงแรมอันดามันเพิร์ล ที่ภูเก็ต เป็นคนส่งเสีย เขาบอกว่าเมื่อเธอเรียนจบแล้วจะต้องไปทำงานที่โรงแรมของเขาเป็นการตอบแทน ซึ่งเธอก็ตอบตกลง เธอบอกว่าอนุพงศ์นั้นรักเธอเหมือนเธอเป็นลูก ไม่ได้เป็นเรื่องชู้สาว คุณอนุพงศ์เองก็มีภรรยาและลูกอยู่แล้ว เธอตั้งใจจะกลับไปทำงานโรงแรมนั้นเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นความบริสุทธิ์ใจระหว่างเธอและคุณอนุพงศ์ ว่าไม่ได้มีอะไรเกินเลยจริงๆ เธอปฏิเสธที่จะกลับมาอยู่กับมัทนาที่ไทย เพราะเธอได้ตั้งใจไว้อย่างนั้นแล้ว
หมอนนท์กลับมาสู้คดี เขาให้การปฏิเสธว่าเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องดาราสาวที่ชื่อ
มุกระวี (ปริษา ทนาวิวัฒน์) วาสิตาช่วยค้นข้อมูลและพบว่าหมอณัฐวุฒิ เป็นผู้พิมพ์ไฟล์ข้อมูลมุกระวี ออกมาจากระบบคอมพิวเตอร์ หมอณัฐ โยนความผิดให้พิรญาณ์ เขาได้บันทึกเสียงบทสนทนาทางโทรศัพท์ไว้ว่าพิรญาณ์ เป็นคนพูดเองว่าหมอนนท์บอกเธอ แต่เขาพลาดไปเพราะในบันทึกบทสนทนานั้นพิรญาณ์ ไม่ได้เอ่ยชื่อมุกระวี พิรญาณ์จึงพ้นข้อกล่าวหา แต่ต่อมากลับกลายเป็นว่ามุกระวี ถอนฟ้องแล้วบินไปต่างประเทศเงียบๆ
วาสิตาไม่ให้โอกาสเปิดใจกับณัฐวุฒิอีก เธอเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สุขุม ใจเย็นกว่าเดิม เปิดรับรักรั้งใหม่อย่างมีสติกับบุตรรัฐมนตรีที่มารักษาที่โรงพยาบาล
และเมื่อไม่มีหลักฐานมัดการกระทำผิดของหมอนนท์ คณะกรรมการของโรงพยาบาลก็อนุญาตให้เขากลับมาทำงานดังเดิม ปัญหาทุกอย่างในอดีตจบลง และหมอนนท์ สามารถล้างมลทินให้กับตัวเองได้อย่างขาวสะอาด
พีระเดชยังคงทำงานในกระทรวงต่อไป ได้บ้านกลับคืนมาแต่ไม่มีทั้งมัทนา หรือเปรมสุดา
พิรญาณ์ได้คลอดบุตรชาย และตกลงกันกับปาณัท ว่าจะมีอีกสักหลายๆ คน
.................................. จบบริบูรณ์ .................................