3 สาว 3 แบบ แสบคนละสไตล์
แสบหนึ่ง... เซลล์เกิร์ล สวยแสบ จอมกะล่อน
แสบสอง... อาจารย์สาวทรงเสน่ห์ สุขุมนุ่มลึก
และแสบที่สาม นางแบบไฮโซ สุดเซ็กซี่
กับกลยุทธพิชิตใจสาวเหล่านี้ของมาเฟียหนุ่ม
ที่มีพรสวรรค์สามารถได้ยินความคิดของผู้หญิงได้นี่สิ.....
เรื่องราวจึงอลวนอลเวง นัวเนียไปกับมุกเด็ดๆที่จัดมาให้ฮากันอย่างสร้างสรรค์ .....
ไม่มีตบตี.....ไม่มีด่าทอ......มาลุ้นกันว่า...
ใครจะเป็นคนที่เขาเลือก????
ธนา ทายาทคนเดียวของกุ่ย ราชวงศ์ มาเฟียหนุ่มรุ่นสุดท้ายที่จะต้องสืบทอดกิจการของตระกูล ต่อไป ..อย่างที่รู้กันดีว่านี่มันหมดยุคมาเฟียไปตั้ง 3 – 40 ปีแล้วจะต้องมาสืบทอดหาพระแสงอะไร นี่ก็เป็น ความคิด ที่ตรงกันของ ชาลี ผู้เป็นอา ที่กำลังจะส่งต่ออำนาจให้หลาน เขาคิดจะมุ่งเข็มชีวิตสู่เส้นทางการเมือง ด้วยการ ลงสมัคร สส. เพราะต้องการที่จะลงหลังเสือแบบมีอำนาจที่ถูกกฎหมายรองรับ เพื่อปลอดภัยจาก มาเฟียคู่ปรับ คือ แก๊งท่าน้ำดูเม็กซ์มาเฟีย ที่ชื่อ พงษ์พิพัฒน์ แซ่จึง หรือที่ชาลีชอบเรียกเขาว่า ไอ้เสียม ทั้งสองฝ่าย เป็นไม้เบื่อไม้เมามาตลอด เสียมต้องการช่วงชิงความเป็นหนึ่ง
กระทั่งวันหนึ่ง ชาลี ได้ยกพวกไปเคลียร์กับเสียม แต่เคลียร์กันไม่ลงตัวจึงเกิดการตะลุมบอนกัน และในช่วงนี่เองที่ธนาได้พบกับวิรงรอง แต่มันเป็นการพบกันแบบไม่มีความประทับใจเลยเพราะว่าธนา ไปทำสินค้าที่วิรงรองเอามาจัดแสดงพังหมด หลังจากนั้น ธนาก็ขับรถไปช่วยแต่ก็ต้องพบกับอุบัติเหตุ รถคว่ำ....โชคดีที่เขาไม่เป็นอะไรเลยนอกจาก รถพังยับและความจำเสื่อม..(นี่หรือวะโชคดี)...
ชาลีแทบจะคลั่งที่หลานชายสุดที่รักของเขากลายมาเป็นแบบนี้ ซึ่งนอกจากจะจำเขาไม่ได้แล้ว ยังมา เรียกเขาว่าหมีแพนด้าอีก...เขาจึงตัดสินใจเสี่ยงที่จะรักษาด้วยการใช้คลื่นไฟฟ้าช๊อตสมองธนา การรักษาเป็น ไปอย่างระมัดระวังและในที่สุดธนาก็หายเกินปกติ(หมายความว่ามันมีสิ่งที่เกินออกมา) .......
เช้าวันรุ่งขึ้นธนาก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้อีกครั้งท่ามกลางความดีใจของชาลี แต่มันมีสิ่งผิดปกติ เกิดกับเขานั่นคือ ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนจะคิดอะไร เขาจะได้ยินหมด ในตอนแรกเขารู้สึกรำคาญแต่ไม่นานนัก เขาก็ชิน และถ้าไม่อยากได้ยินใครคิดก็อุดหูซะ สาเหตุมาจากการใช้คลื่นไฟฟ้าช็อตสมองมากไปนั่นเอง ...เรื่องนี้เขาไม่ได้บอกให้ใครรู้นอกจากหมอที่รักษาเขาเท่านั้น
ธนาเป็นมาเฟียที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมชั้นสูง เขาได้มาดูเดินแบบแฟชั่นการกุศลและได้พบกับรันย่า นางแบบอาชีพที่มาร่วมเดินด้วย รันย่าเกิดหลงรักเขาตั้งแต่แรกพบ ธนาเองก็ถูกใจรันย่าเหมือนกันแต่ติด ที่นิสัยบางอย่าง เช่น ความเป็นตัวของตัวเองสูง เป็นต้น แต่ธนาก็ลองคบไปก็ไม่น่าจะเสียหาย ทั้งๆ ที่นล นักแสดงและนายแบบหนุ่มก็กำลังเป็นแฟนกับรันย่าอยู่ กำลังจะหมั้นกันในไม่ช้า และมักมีข่าวซุบซิบทาง หนังสือพิมพ์และทีวีเสมอ แต่รันย่าก็ไม่สนใจกับกระแสเหล่านี้อีกทั้งรันย่าคิดว่าเธอก็มีสิทธิ์เลือก นี่เป็นข้อ ดีของเธอที่นลชอบ แต่ที่คาใจธนาอยู่ก็คือ ธนาไม่ได้ยินเสียงคิดของรันย่า จนธนารู้สึกว่าตัวเองผิดปกติถึง ขนาดต้องไปปรึกษาจิตแพทย์เลยทีเดียว
ชาลีตั้งใจว่าจะต้องสืบทอดตำแหน่งหัวหน้ามาเฟียให้ธนาต่อไป ส่วนตัวเองคิดอยากทำสิ่งที่ชอบคือ การช่วยเหลือผู้อื่นแต่เป็นมาเฟียมันก็ช่วยได้ระดับหนึ่งแต่ถ้าเป็นตัวแทนประชาชนล่ะ..???? เขาจึงเบนเข็มสู่ วงการการเมืองด้วยการลงสมัคร สส. แต่มันมีกฎหมายบังคับไว้ว่าต้องจบปริญญาตรี ชาลีจึงต้องไปเรียน หนังสือ ที่มหาวิทยาลัย โดยมีธนาเป็นผู้ปกครองและคนคอยรับส่ง รวมถึงต้องคอยเอาอาหารกลางวันไปส่งด้วย (อย่างกับเด็กอนุบาล) และปกปิดเรื่องการเป็นมาเฟียเอาไว้เพื่อป้องกันคนแตกตื่น
ที่มหาวิทยาลัย ธนาได้พบกับภารดี อาจารย์สอนวิชาเศรษฐศาสตร์ แล้วนึกชอบ เขาอาศัยว่าเขาได้ยินความคิดของเธอจึงรู้ใจไปเสียทุกอย่างเขาจึงตีสนิทและสร้างความสนิทสนมกับเธอได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงกลายเป็นเพื่อนรู้ใจในเวลาต่อมา คนสวยก็ย่อมเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มเป็นธรรมดาโดย เฉพาะชาลี ที่หลงรักภารดีตั้งแต่แรกพบ แต่ด้วยบุคลิกที่เป็นอาจารย์ทุกตารางนิ้วจึงไม่มีใครอยากจะมา พัวพันด้วย แม้ว่าภารดีจะเคร่งเครียดและดุไปหน่อยตามประสาอาจารย์แต่ธนาก็พอใจที่จะคบ และพยายาม หาโอกาสบอกความจริงกับชาลีว่าภารดีไม่ได้ชอบชาลีเลย
สำหรับวิรงรอง แล้วการขายของและการพบลูกค้าเป็นอาชีพและหน้าที่ที่จะต้องทำทุกวันตั้งแต่ เช้ายันเย็น เธออาศัยอยู่บ้านหลังเก่าๆที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ก่อนจะเสียชีวิตกับน้องสาวชื่อกรองแก้ว ซึ่งนอกจาก จะทิ้งบ้านเอาไว้ให้แล้วยังทิ้งหนี้ก้อนโตไว้ให้อีกด้วย วิรงรองเอาของไปเสนอขายที่บ้านธนา แต่มีพวกลูกน้อง กันไว้ วิรงรองไม่ยอมแพ้จึงใช้ความกะล่อน และ 18 มงกุฎจนลูกน้องหัวปั่นแล้วยอมให้ไปขายของ ธนากับ วิรงรองได้พบกัน วิรงรองไม่ค่อยสนธนาเท่าไหร่เพราะดูภายนอก ธนาก็เหมือนตี๋ฮ่องกงทั่วๆ ไป และที่สำคัญ เธอคิดว่าเขาไม่รวย วิรงรองมักใช้ความกะล่อนหลอกผู้ชายไปเรื่อย แต่สำหรับธนาเธอใช้ไม่ได้ผล เพราะเขา ได้ยินทุกอย่างที่เธอคิดจะทำกับเขา ทำให้วิรงรองตกหลุมรักธนาทันที
มีแก๊งรุ่นพี่ปี 4 ชื่อ แจ๊ค ที่มหาวิทยาลัย ที่ชอบทำตัวเป็นขาใหญ่ มักจะมาล้อและรังแกชาลี ชาลีพยายาม อดกลั้นและอดทน แต่ไม่ทนอด เขาพยายามไม่ยุ่งกับใครและไม่มีเพื่อน แต่กรองแก้วที่มาเรียน ที่นี่เหมือนกันก็ มาเป็นเพื่อนกับชาลี นอกจากนี้ยังมีรุ่นพี่ที่ชื่อโจอี้ ที่เป็นคนเงียบขรึม คอยช่วยดูแลแบบห่างๆ ซึ่งจะว่าไปแล้ว โจอี้ก็รู้สึกชอบกรองแก้วเหมือนกันแต่เก็บไว้ในใจ
ตอนกลางวันธนาจึงมีหน้าที่เอาอาหารมาส่งเหมือนเด็กอนุบาล นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ชาลีโดนล้อ ภารดีมา พบเข้าจึงเห็นใจและปกป้องชาลี เขาจึงนึกชอบภารดี จนวันหนึ่งความอดทนอดกลั้นหมดลง ชาลีจึงมีเรื่องกับ แจ๊ค จนมีการทำทัณฑ์บนและเรียกผู้ปกครองมาพบชาลีพาธนามา ภารดีตกใจมากที่ ผู้ปกครอง ของชาลีเด็กกว่า และเป็นหลานอีกต่างหาก ชาลีบอกว่าเขามีกันสองคนอยู่บ้านเขาเป็นผู้ปกครอง ธนา แต่เวลาอยู่โรงเรียนธนา เป็นผู้ปกครองเขา
วิรงรองพยายามเข้าหาธนาแต่ธนาก็ไม่ค่อยจะสนใจเท่าไหร่เธอจึงใช้วิธีผ่านชาลีโดยการนำของมาขาย ให้ชาลีบ้าง ใช้วิธีตีสนิทอย่างอื่นๆ บ้าง จนชาลีรู้สึกเอ็นดู
แม้แต่ในวงการนางแบบ วิรงรองก็สอดแทรกเข้าไปได้อย่างกลมกลืน ด้วยการนำเอาสินค้าประเภท สวยๆ งามๆ ส่งเสริมหุ่นให้สวยตลอดเวลา ฯลฯ จนรันย่ากลายเป็นลูกค้าชั้นดีของเธอภายในเวลาอันรวดเร็ว
สำหรับเรื่องรัก....วิรงรองก็มีคนมาจีบเหมือนกัน แต่เป็นลักษณะเพื่อนมากกว่า เขาผู้นั้นชื่อเพชร เจ้าของมหาวิทยาลัยที่ภารดีสอนอยู่ เพชรเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุด ขนาดกรองแก้วน้องสาวของวิรงรอง ยังสนับสนุนเลย แต่ในใจวิรงรองคิดกับเพชรแค่เพื่อน
ทางด้านวงการมาเฟียเสียมคิดการใหญ่ที่คิดจะฮุบวงการมาเฟียทั้งหมดให้เป็นของแก๊งตัวเอง เขาพยายามมาเจรจากับชาลี แต่ชาลีปฎิเสธ และบอกให้เลิกกิจการไปเลย เสียมไม่พอใจคิดว่าชาลีอยากจะ ควบรวมกิจการไว้คนเดียว จึงหาเรื่องส่งพวกมากวนบ่อยๆ หนักๆ เข้าก็ต้องมีต่อยตีกัน เดือดร้อนตำรวจต้อง มาเคลียร์ทุกครั้งไป แต่งานหลังมันใหญ่มาก จนต้องโอนคดีไปที่ดีเอสไอ เพราะมีรัฐมนตรีจีนคนหนึ่งเดิน ทางมาแล้วถูกดักทำร้าย ดีที่บังเอิญ ธนาช่วยเอาไว้ได้ เพราะการได้ยินเสียงผู้หญิงคิดนั่นเอง แต่ไม่มีใครเชื่อ คิดว่าธนาเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แต่สอบสวนแล้วไม่มีหลักฐานเขาจึงรอด ดีเอสไอ จึงส่ง สมิธ นักสืบมือดีมา ติดตามคดีนี้ ไอ้หมอนี่เกลียดมาเฟียเข้าไส้อยู่แล้วจึงกัดไม่ปล่อย.. นอกจากนี้ยังมาพัวพันเรื่องความรัก สามเส้าของธนาอย่างชุลมุลไปหมด
สมิธเป็นนักสืบที่เก่งหล่อและคม จบหลักสูตร FBI จากอเมริกา แต่เป็นคนประเภทรักไม่ยุ่งมุ่งแต่งาน จนวันหนึ่งเบื้องบนได้ส่งคู่หูมาให้เขาช่วยทำคดีนี้ แองจี้ คือชื่อของหล่อน หล่อนเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียน ตำรวจ แองจี้จึงเรียกสมิธว่ารุ่นพี่ แองจี้เป็นคนติ๊งต๊องทำอะไรเป็นพลาดไปหมด แต่เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องกลับทำ สำเร็จทุกครั้ง เวลาทำอะไรพยายามจะให้รอบคอบ ทุกครั้งที่ซื้อของต้องขอใบเสร็จ ร้านข้าวแกงข้างทางก็ยังขอ นัยว่าเคยจับคนร้ายแล้วพลาดไปทำข้าวของเขาเสียหาย จึงมีบิลมาแจ้งเก็บเป็นหางว่าว เธอหลงรักสมิธ แต่สมิธ ไม่ค่อยเล่นด้วย แต่บางครั้งเธอก็ทำให้ชีวิตสมิธสดชื่นขึ้นจนสมิธรู้สึก เหตุที่แองจี้ทำงานพลาดบ่อยๆ เพราะว่า ทุกครั้งที่จะสาวเรื่องสำคัญของธนา ธนาจะได้ยินความคิดของแองจี้ทุกครั้ง และรู้ว่าแองจี้แอบรัก สมิธ ...ธนา จึงมักพูดเป็นนัยๆบ่อยๆ กับสมิธ
ชื่อเสียงของมาฟียทั้งสองฝ่ายเริ่มเสียและเป็นที่จับตามองว่าเกเรและทำให้เสียชื่อประเทศ ทั้งคู่จึงร่วมมือ กันชั่วคราวสืบหาผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำครั้งนี้
ธนากำลังมีความสุขกับสามสาวที่เขาต้องสับราง ไม่ให้ชนกันเพราะเขาได้ยินความคิดของแต่ละคน นั่นเอง ในคราวแรกสามสาวไม่รู้ว่าธนาคบสามคนพร้อมกัน มาภายหลังจึงรู้และพยายามหาทางช่วงชิง ธนามา เป็นแฟนโดยใช้วิธีตามสไตล์ของตัวเอง คนกะล่อนก็ใช้ความกะล่อน คนสวยก็ใช้ความสวย และมารยาส่วน คนเป็นอาจารย์ก็ใช้ความสุมขุมและความฉลาดบวกวิชาการ....
แต่คนที่ธนาสนใจที่สุดก็คือ ผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยเลิศเลอเพอร์เฟค ที่สำคัญ คือ รู้ใจผู้ชายทุกอย่าง นั่นคือ รันย่า .....และชื่อนี้ทำให้ธนาต้องจดจำไปตลอดชีวิต ....ทั้งคู่พอใจและคบกันไปพักหนึ่ง ซึ่งสิ่งที่ทำให้ ธนาไม่เบื่อก็คือเขาต้องค้นหาตัวเธอตลอดเวลาเพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาไม่ได้ยินความคิดของเธอ อีกทั้งเธอ เป็นคนใจกว้างทั้งที่รู้ว่ามีผู้หญิงมาพัวพันถึงสองคน...จนในที่สุดธนาก็รู้ความจริงว่าทำไมเขาไม่ได้ยินความคิดของรันย่า ทำไมรันย่าถึงเข้าใจผู้ชายทุกอย่าง..ก็เพราะเธอเป็นผู้ชาย...เคยเป็นมีสทิฟฟานี่เมื่อ 7 ปีที่แล้ว แล้วย้ายไป อยู่กับครอบครัวที่อเมริกา ..ในบัตรประชาชนระบุว่าชื่อ นายศักดา นันต๊ะ...ทั้งคู่จึงต้อง จบความสัมพันธ์แบบชู้ สาว มาเป็นชู้ทางใจแทนเพราะมันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว แต่ยังเป็นเพื่อนกันได้นี่.... จริงไหมศักดา??? และคนที่ เหมาะสมกับเธอที่สุดก็คือ นล เพราะนลเป็นเกย์
บางทีสิ่งที่อยากได้ยินได้รับรู้เรื่องคนอื่นมันกลับไม่ได้ยิน แต่สิ่งที่ไม่อยากได้ยินได้ฟัง มันกลับได้ยิน ชัดเจน ชัดพอที่จะทำให้ธนารู้สึกว่าอยากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ธนาได้เปรียบผู้หญิงพวกนี้เพราะเขา ได้ยินสิ่งที่พวกเธอคิด แต่อยู่มาวันหนึ่งเขากลับไม่ได้ยินซะอย่างนั้น มันกลายเป็นเรื่องไม่ปกติสำหรับเขา ไปซะแล้ว เขาไปปรึกษาหมอแววตา หมอจิตแพทย์ที่รักษาเขา หมอแววตาบอกว่าถ้าทดลองใช้ไฟฟ้าช๊อต อาจจะกลับมา แต่มันกลับมาไม่กี่นาทีแล้วก็หายไป ธนาแก้ไขด้วยการพกเครื่องช๊อตไฟฟ้าติดตัวตลอดเวลา ...ทำให้เขาสามารถควบคุมการได้ยินความคิดของผู้หญิงได้.... วันที่เขาจำเป็นต้องใช้มันช๊อตตัวเองเพื่อที่จะ ได้ยินความคิดของรันย่า แบตเตอรี่เครื่องช๊อตเกิดหมด เขารู้สึกมืดแปดด้านแล้วทำอะไรไม่ถูกต้องปล่อยให้ มันเป็นไปตามธรรมชาติอะไรมันจะซวยขนาดนั้น..คราวหลังอย่าลืมพกถ่านอัลคาไลน์ด้วยล่ะตี๋เอ๊ย....
แต่ในที่สุดธนาก็ได้รับการรักษาจนหาย เขาไม่ได้ยินเสียงผู้หญิงอีกแล้ว...แต่คราวนี้เขากลับได้ยิน เสียงผู้ชายแทน...ยุ่งไปกันใหญ่เลย...และชาลีก็รู้เรืองนี้ในที่สุด
ย้ง เยาวราชคู่แค้นเก่าของพ่อของธนาออกจากคุก และต้องการมาล้างแค้นจึงร่วมมือกับเสียม กวาดล้าง แกงค์ของธนาและชาลี ทั้งหมดได้ต่อสู้กันจนในที่สุด แกงค์ของธนาก็ยังอยู่ แต่มันกำลังจะสลายไป เมื่อชาลี เรียนจบ
การที่เป็นคนพิเศษกว่าคนอื่น มันอาจจะได้เปรียบ จนกลายเป็นการเอาเปรียบไป แต่บางครั้งเขา อาจจะไม่รู้ความจริงสักอย่างเลยก็...นั่นก็คือใจของตัวเอง รันย่า ภารดี วิรงรอง ใครกันแน่ที่เขารักจริงๆ วันหนึ่งธนาก็ได้รับการรักษาจนเป็นเหมือนคนปกติเขาไม่ได้ยินใครคิดอีกแล้ว...สิ่งหนึ่งที่เขาค้นพบก็คือ แม้ว่าเขาจะได้ยินเสียงผู้หญิงคิด แต่ไม่มีใครสักคนที่คิดตรงกับปากและการกระทำ...มีเพียงคนเดียวเท่า นั้น...นั่นคือ วิรงรอง แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงคิดของวิรงรองอีกแล้วแต่เขาก็มั่นใจว่า วิรงรองคือคนที่ใช่ สำหรับเขา ส่วนวิรงรองเองก็รู้ว่าเธอรักเขาอยู่เต็มหัวใจ