โจรชิงทองหนัก 138 บาท ก่อเหตุเป็นสันดาน

โจรชิงทองหนัก 138 บาท ก่อเหตุเป็นสันดาน

วันที่ 10 เม.ย. 2568 เวลา 16:14 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - "ยี บุน ลง" โจรชิงทอง 138 บาท ไม่อยากใช้คำนี้ แต่ต้องยอมรับว่าเป็นโจรโดยสันดานจริง ๆ ข้อมูลจากปากของเขา พูดชัดเจนว่าก่อเหตุมาตั้งแต่อายุ 17 จนตอนนี้ อายุ 62 ปี ติดคุกแล้ว พ้นโทษแล้ว ก็ยังไม่หยุดคิดที่จะทำผิดอีก แถมปืนที่เจอในตัว เขายังบอกด้วยว่า "ไว้ใช้สู้จนตัวตาย" ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ "ศจีตีคดี" คำพูดที่ชวนตกใจนี้ มาจากตัวผู้ต้องหาที่ยอมรับอย่างหมดเปลือก ที่สำคัญไขข้อข้องใจตำรวจได้หลายข้อทีเดียว เริ่มจากอาวุธปืน ผู้ต้องหายอมรับว่า ได้สั่งซื้อปืนพร้อมกระสุน มาจากคนในพื้นที่หาดใหญ่ ราคาหลักแสนบาท และเขาเองก็พร้อมสู้เต็มที่ แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าทำไมตอนที่ถูกจับกุมถึงยอมให้จับโดยละม่อม ถ้าให้เดาอาจเป็นเพราะ ตัวกับกระเป๋าอยู่ห่างกัน ไม่ทันตั้งตัว และเจ้าหน้าที่มีเยอะกว่า เลยถูกจับกุมได้โดยง่าย แล้วทำไมต้องมาที่จังหวัดนนทบุรี ผู้ต้องหายอมรับว่าเพราะลูกชาย ทำงานอยู่ที่นี่ เดิมก็ตั้งใจจะให้ลูกเอาทองไปกระจาย ขายไปตามที่ต่าง ๆ แต่เพราะลูกเห็นข่าว แล้วไม่ยอมทำตาม เลยเปลี่ยนใจจะกลับไปที่หาดใหญ่ เพื่อลักลอบหลบหนีข้ามไปประเทศมาเลเซีย ส่วนบัตรประจำตัวประชาชนที่ได้มา รับว่าบัตรใบแรกซื้อมาราคา 200,000 บาท ใบที่ 2 ซื้อมาราคา 40,000 บาท ซึ่งทุกประเด็นที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ตำรวจจะไปขยายผลให้หมด แล้วเอาเรื่องนี้เป็นบทเรียน ในการอุดช่องว่างต่อไป หลังการแถลงข่าว และส่งมอบตัวผู้ต้องหา ตำรวจคุมตัว นาย "ยี บุน ลง" ไปถึงที่หาดใหญ่ ตอนประมาณ 14.30 น. แล้วก็เริ่มพาตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพชี้จุดเกิดเหตุทันที ไล่มาตั้งแต่ จุดแรก จุดจอดรถจักรยานยนต์หน้าร้านข้าวขาหมู ในห้างทอง แสดงพฤติการณ์ชิงทอง จากถาดโชว์ทอง แล้วไปจุดทิ้งรถจักรยานยนต์กับเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะกลับไปแมนชั่น และจุดสุดท้าย สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอหาดใหญ่แห่งที่ 1 ซึ่งระหว่างทำแผนฯ นาย "ยี บุน ลง" ไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน และชี้จุดต่าง ๆ อย่างคล่องแคล่ว ด้านเจ้าของห้างทอง ขอบคุณตำรวจที่จับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ยอมรับว่า ระบบป้องกันรักษาความปลอดภัยยังไม่เข้มงวดจริง ๆ ก่อนหน้านี้ก็ให้ช่างเข้ามาประเมินเพื่อเตรียมปรับปรุงร้านแล้ว เพราะเปิดมานานกว่า 40 ปี แต่ยังไม่ทันได้ดำเนินการ ก็มาเกิดเหตุขึ้นเสียก่อน ซึ่งก็ไม่ได้มีแค่ร้านทองร้านนี้เท่านั้น ยังมีร้านค้าทอง อีกหลายร้าน ที่ไม่ติดลูกกรง ยังใช้ระบบรักษาความปลอดภัยเดิม ๆ ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจจะไปหารือกับร้านค้าทองต่าง ๆ ให้ปรับปรุงแก้ไข จะได้ลดช่องว่างในการก่อเหตุของคนร้ายในอนาคต