ยายหลง โทร.แจ้งตำรวจถูกกักขัง

ยายหลง โทร.แจ้งตำรวจถูกกักขัง

วันที่ 7 เม.ย. 2568 เวลา 11:22 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - เรื่องราวของผู้สูงอายุที่ต้องอยู่กับบ้าน โดดเดี่ยวลำพัง แจ้งตำรวจว่าถูกกักขังให้อยู่ในบ้าน ร้องขอให้ตำรวจพาไปส่งที่บ้านเพื่อน สายตรวจสภ.เมืองชัยนาท เกลี้ยกล่อมยายอยู่นาน กว่ายายจะยอมกลับเข้าบ้าน คือ ตอนแรกยายโทรแจ้งตำรวจว่าถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ให้อยู่ในบ้านทาวน์เฮาส์ ในตัวเมืองชัยนาท พอมาถึงยายอายุ 67 ปี แต่งตัวหิ้วตะกร้าข้าวของออกมายืนรอหน้าบ้านแล้ว ยายยืนกรานว่าจะออกจากบ้าน อยู่ที่บ้านนี้ไม่ได้ เพราะถูกขังไว้ในบ้าน แถมถูกขับไล่ จนไม่อยากจะอยู่ที่นี่แล้ว บอกตำรวจให้ไปส่งที่บ้านเพื่อน ยืนกระต่ายขาเดียว ไม่ยอมเข้าบ้าน บอกหลาน ๆ ไม่รัก ไม่ดูแล เพราะหมดเงิน ไม่มีเงินให้พวกหลาน ๆ เสียใจ ขอให้ตำรวจไปส่งบ้านเพื่อนหน่อย เล่นเอาสายตรวจปวดขมับ จะไปกลางดึกให้ได้  ตำรวจจึงพยายามเกลี้ยกล่อมอยู่นานมันดึกแล้ว ให้ยายอึ่งใจเย็นลง จนยายอึ่งยอมเข้าไปนอนในบ้าน พร้อมขนสัมภาระกลับไปให้เพื่อความอุ่นใจ เพราะยายอึ่งบอกว่า ในตะกร้ามีทั้งพลอยพม่า และของขลังจากครูบาฯ ทางตำรวจพอเข้าไปส่งเสร็จ คุณยายอึ่งก็ให้ของดีติดไม้ติดมือ เป็น ภาพใบโพธิ์ และรูปถ่ายของครูบาฯ ไปบูชาให้แคล้วคลาดปลอดภัย ทีนี้ไปฟังหลานสาวเล่าว่า ยายมีอาการป่วยทางจิตใจ ต้องกินยาระงับประสาท ยายเป็นคนคิดมาก ฟุ้งซ่าน และมีอาการเพ้อถามว่า หลาน ๆ ไม่ได้ทิ้งไปไหน อยู่บ้านเดียวกัน แต่ต้องไปทำงาน ยายคิดไปเองว่าหลานทิ้ง จริง ๆ แล้วยายทำกุญแจล็อกหน้าบ้านหายก็โทรแจ้งตำรวจว่าถูกขัง การดูแลผู้สูงอายุ อย่างถูกวิธี กรมกิจการผู้สูงอายุ หรือ พม.ระบุว่า ภาวะเจ็บป่วยทางใจ ทำให้ผู้สูงอายุ วิตกกังวล วิงเวียน นอนไม่หลับ อีกทั้งโรคเรื้อรัง รักษาไม่หาย ทำให้เกิดปัญหาทางจิตใจ มีผลต่อการทำงานของสมอง ทำให้ หลง เพ้อสับสน วุ่นวาย และระแวง แต่ถ้าได้บำบัดรักษาจะดีขึ้น วิธีง่าย ๆ เริ่มจากที่ลูกหลาน ถ้าเปลี่ยนไป ให้ความเคารพนับถือ ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่ามีคุณค่ากับคนในครอบครัว ต้องหมั่นทำกิจกรรม พาไปออกกำลังกาย ไปเดิน ไปรำไทเก๊ก ไปทำบุญที่วัด และฝึกสมาธิเป็นประจำ แก้ปัญหานอนไม่หลับได้