ชนวินาศสันตะโร ดับ 1 เจ็บ 8 รถเสียหาย 5

ชนวินาศสันตะโร ดับ 1 เจ็บ 8 รถเสียหาย 5

วันที่ 5 เม.ย. 2568 เวลา 08:50 น.

ชนวินาศสันตะโร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บ 8 คน รถเสียหายทั้งหมด 5 คัน วันที่ 5 เมษายน 2568 ร.ต.ท.สรวีย์ แจ่มแจ้ง ร้อยเวร สส.สภ.เมืองสระบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่าเกิดอุบัติเหตุ รถชนกันหลายคัน มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณถนนพหลโยธิน(ขาเข้ากรุงเทพฯ) กม.104 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิสว่างรัตนตรัยธรรมสถานสระบุรี ในที่เกิดเหตุพบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ ในสภาพล้มถูกรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ชนลากมามาเป็นทางยาว หมวกกันหลุดกระจายเกลื่อนพื้นถนน บนถนนยังพบร่างผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์นอนเสียชีวิตอยู่ริมถนน ในที่เกิดเหตุยังพบว่ามีรถชนกัน อีก 3 คันเป็นรถบัสรับส่งพนักงานที่กำลังไปส่งพนักงานเข้ากะ ชนกับรถบรรทุกเทรลเลอร์ 22 ล้อ และรถบรรทุก 6 ล้อของไปรษณีย์ ถูกรถเทรลเลอร์ชนท้ายได้รับความเสียหาย มีพนักงานซึ่งนั่งมาในรถบัสรับส่งพนักงาน ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 ราย  ส่วนหญิงที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณขาขวาหัก เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ. รวมผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงทั้งหมด 8 ราย ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุและบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมเชิญตัวผู้ขับขี่รถบัส รถบรรทุก และรถเทรลเลอร์ไปสอบสวนยัง สภ.เมืองสระบุรี เพื่อหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนผู้เสียชีวิตแพทย์แพทย์ได้ชันสูตร และส่งผ่าพิสูจน์ยัง รพ.สระบุรี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ทางด้านนายวิสิฐ อายุ 56 ปี คนขับรถบรรทุกไปรษณีย์ เล่าว่า ตนเองเห็นว่ามีบรรทุก 6 ล้อรถชนรถจักรยานยนต์จนล้มจากนั้นมีรถเทรลเลอร์ที่อยู่ด้านหน้ารถของตนเบรกตนเองจึงได้เบรกตาม จานนั้นรถเทรลเลอร์ที่ขับตามตนเองมาได้พุ่งเข้าชนท้ายรถตนเอง แต่ว่ารถบัสได้ชนท้ายรถ บรรทุก 6 ล้อที่ชนรถจักรยานยนต์ก่อน ทางด้านนายมงคล อายุ 34 ปี คนขับรถบรรทุกเทรลเลอร์ 22 ล้อ เล่าว่าตนเองขับรถบรรทุกปูนมาจาก อ.แก่งคอย เพื่อที่จะไปส่งปูนที่กรุงเทพฯ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ตนเองได้ขับตามมาคันท้ายสุดมีรถกระบะจอดอยู่เลนกลางจากนั้นรถไปรษณีย์ได้ขับเข้ามาเบรกและหักหลบเข้ามาซึ่งตนเองขับตามรถไปรษณีย์มา เมื่อรถไปรษณีย์เบรกตนเองก็เบรกแต่เบรกไม่อยู่จึงทำให้ตนเองชนท้ายรถไปรษณีย์ ส่วนรถรับส่งพนักงานขับสวนขึ้นมาจึงทำให้เฉี่ยวชนทางด้านฝั่งขวารถของตนเอง ทางด้านคนขับรถบัสรับส่งพนักงาน เล่าว่า  ขณะที่ตนเองขับรถเพื่อที่จะไปส่งพนักงานเข้ากะเช้า ได้มีรถชนกันอยู่ด้านหน้าซึ่งตนเองก็วิ่งมาตามปกติ และเมื่อเห็นว่าด้านหน้ามีรถชนกันตนจึงได้ขับออกมาทางด้านขวามือมาหน่อยแต่เมื่อออกขวามารถเทลเลอร์ได้เบี่ยงมาหน่อยตนเองเอาไม่อยู่จึงได้เฉี่ยวชนกัน