สาวเทศบาล สุดช้ำ! ไม่ใช่คนดัง จึงไม่มีใครช่วย หลังถูกมิจฉาชีพ แฮกโทรศัพท์ ดูดเงินไปจากบัญชี 1.7 ล้าน จนหมดตัว

สาวเทศบาล สุดช้ำ! ไม่ใช่คนดัง จึงไม่มีใครช่วย หลังถูกมิจฉาชีพ แฮกโทรศัพท์ ดูดเงินไปจากบัญชี 1.7 ล้าน จนหมดตัว

วันที่ 24 มี.ค. 2568 เวลา 14:29 น.

สาวเทศบาล สุดช้ำ! ไม่ใช่คนดัง จึงไม่มีใครช่วย หลังถูกมิจฉาชีพ แฮกโทรศัพท์ ดูดเงินไปจากบัญชี 1.7 ล้าน จนหมดตัว แจ้งตำรวจไว้ 11 เดือนคดีไม่คืบถามความคืบหน้าก็โยนกันไปมา ระหว่างตำรวจท้องที่กับตำรวจ สอท. ตัดพ้อ ไว้ใจฝากเงินไว้กับธนาคาร แต่ทำไมธนาคารปล่อยให้เงินหายไปง่ายๆแบบนี้ เมื่อเวลา11.30 น. วันที่ 24 มีนาคม 2568 นางกัลยาภัสร์ อายุ 50 ปี ข้าราชการเทศบาล เล่าว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2567 เวลาประมาณ 12:29 น.ตนได้รับข้อความทางโทรศัพท์มือถือจากการไฟฟ้า ว่าค้างชำระค่าไฟฟ้าสองเดือน ตนแจ้งว่าตนชำระแล้วไม่ได้ค้าง หลังจากนั้นถูกหลอกให้กดลิงค์ เพื่อให้ส่งใบเสร็จ ยืนยันว่าชำระเงิน เมื่อตนเองกดลิงค์ สักพักโทรศัพท์ตนค้าง ต่อมาบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า แจ้งว่า ตรวจสอบแล้วไม่มียอดค้าง แต่จะทำเรื่องคืนเงินค่ามิเตอร์ไฟให้ จึงให้ตนเองสแกนหน้า ตนก็บอกว่าไม่สแกนกลัวเงินหาย หลังจากนั้นเขาก็แจ้งว่า เงินไม่ออกหรอก เขาเป็นเจ้าหน้าที่ไฟฟ้า คุยกับทางธนาคารแล้ว ให้สแกนหน้าเพื่อรับค่ามิเตอร์คืนด้วย ตนจึงสแกน จากนั้นเงินก็ทยอยออกเลย รอบที่1 เวลา16.04 น. ยอด 279,097 บาท รอบที่2 เวลา 16.25 น. 788,148 บาท รอบที่3 เวลา17.09น. ยอด 630,516บาท รอบที่ 4 เวลา 17.50น ยอด 91,000 บาท ดึงเงินจากบัตรเครดิต รวมแล้วเป็นยอดเงิน1,788,761 บาท (หนึ่งล้านเจ็ดแสนแปดหมื่นแปดพันเจ็ดร้อยหกสิบเอ็ดบาทถ้วน) จากนั้นตนไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ห้วยโป่ง ร้อยเวรบอกว่า ยอดสูง ส่งให้ เจ้าหน้าที่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.)  ตำรวจห้วยโป่งก็ส่งข้อมูลทั้ง ไปรษณีและส่งเข้าระบบ ตนโทรไปตามที่ สอท .เขาก็บอกว่า ยังไม่ได้รับเอกสาร ตนก็ขอร้องเขาว่า ถ้ายังไม่ได้ทำ ทำไมไม่ไปปริ้นในระบบ ผู้เสียหายระบุว่า เธอรู้สึกอัดอั้นมาก เมื่อได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบนี้ "เราเลือดสีกากีเหมือนกัน ช่วยทำคดีให้หน่อย เขาบอกไม่ใช่ เขาเลือดสีแดง" ตนจึงโมโห จึงบอกใช่ มันเป็นเงินของตนไม่ใช่เงินของญาติเขา เขาจึงไม่สนใจ พอกลับมาถามตำรวจห้วยโป่ง เขาก็บอกว่า ส่งให้ สอท.แล้ว ซึ่งตนก็ถามและรอมา11เดือน แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย ตนเองไม่ใช่คนดังเลยไม่มีใครสนใจ นี่เป็นเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตที่ตนเก็บไว้สำหรับเกษียณอายุราชการ ไม่อยากเป็นภาระให้ลูกๆ แต่มาโดนมิจฯแบบนี้ แถมตำรวจไม่สนใจทำคดีให้อีก ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว  และก็สงสัยทำไมธนาคารไม่เก็บเงินให้ตนอยู่ในความปลอดภัย ตนไว้ใจฝากเงินไว้ สุดท้ายโดนมิจฯเอาไปหมดเลย ตนก็หวังว่าจะมีเทวดาหรือผู้ใหญ่ใจดีช่วยตนจับมิจฯให้ได้ เงินจะได้คืนหรือไม่ แทบจะไม่มีหวังแล้ว ผ่านมานานมาก  แต่ถ้าได้คืนบ้างก็ยังดี