องคมนตรี ตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

องคมนตรี ตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

วันที่ 21 มี.ค. 2568 เวลา 20:05 น.

พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะ ไปตรวจเยี่ยมเรือนจำจังหวัดนราธิวาส สนองพระราชดำริ เพื่อสร้างการเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียมตามหลักมนุษยธรรม เรือนจำฯ แห่งนี้ ควบคุมผู้ต้องขังกำหนดโทษไม่เกิน 30 ปี  ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังชาย-หญิง 2,915 ราย มีโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย มีการตรวจสุขภาพผู้ต้องขังที่สัมผัสอาหาร ปีละ 1 ครั้ง มีโรงเลี้ยงอาหาร 7 แดน เป็นสัดส่วนและสะอาดตามมาตรฐาน มีพยาบาลวิชาชีพ 5 คน พยาบาลเทคนิค 1 คน นักจิตวิทยา 1 คน และ อสรจ. 120 คน โดยมีการตรวจรักษาโรคทั่วไป ทันตกรรม และโรคผิวหนัง เดือนละครั้ง, โรคติดต่อไม่เรื้อรัง สัปดาห์ละครั้ง, ด้านจักษุ ปีละครั้ง, ตรวจสุขภาพจิต เดือนละ 4 ครั้ง และตรวจด้วยระบบ Telemedicine แก่ผู้ต้องขังจิตเวช เดือนละครั้ง มีผู้ต้องขังที่มีปัญหาสุขภาพจิต 91 คน ได้รับการดูแลรักษาทุกคน, มีมุมสุขภาพราชทัณฑ์ปันสุข มีมุมราชทัณฑ์ปันสุขเคลื่อนที่ และมีเครือข่ายฯ เข้าไปพัฒนาพฤตินิสัย อาทิ กิจกรรมศาสนบำบัด อาชีวบำบัด และศิลปะบำบัด ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์ 2 ราย มีเด็กติดมารดาต้องโทษ 2 คน ส่วนสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนราธิวาส อำเภอเมือง มีเด็กและเยาวชน ในความดูแล 28 คน ส่วนใหญ่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และกับชีวิตและร่างกาย มีพยาบาลวิชาชีพ 3 คน, นักจิตวิทยา 2 คน มีโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย มีการคัดกรองและประเมินสุขภาพจิตด้วยแบบคัดกรองทุกคน มีเด็กและเยาวชนที่มีปัญหา 8 คน ได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลแม่ข่ายต่อเนื่อง มีการตรวจพิสูจน์หาสารเสพติดในปัสสาวะและเส้นผม โดยสุ่มตรวจปัสสาวะทุกเดือน และตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของเด็ก, เยาวชน และเจ้าหน้าที่ ทุก 3 เดือน ปัจจุบัน ไม่พบสารเสพติด ที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่แพทย์ พยาบาล และบุคลากร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ โดยเป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำกลางจังหวัดนราธิวาส และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนราธิวาส มีห้องราชทัณฑ์ปันสุขสำหรับรักษาผู้ต้องขังป่วย แยกจากผู้ป่วยทั่วไป เพื่อพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วยและความปลอดภัย ส่วนที่เรือนจำกลางยะลา ควบคุมผู้ต้องขังกำหนดโทษไม่เกิน 30 ปี มีผู้ต้องขังชาย-หญิง 2,068 คน มีโรงพยาบาลยะลา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย โอกาสนี้ องคมนตรี เปิดมุมสุขภาพราชทัณฑ์ ปันสุข เพื่อให้บริการหนังสือแก่ผู้ต้องขัง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโรงพยาบาลแม่ข่าย, อุทยานการเรียนรู้ TK Park, ศูนย์อนามัยที่ 12 ยะลา, วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนียะลา, ห้องสมุดประชาชน และภาคเอกชน จากนั้น เยี่ยมชมสถานพยาบาลฯ ซึ่งมีพยาบาลวิชาชีพ 6 คน, นักจิตวิทยา 2 คน และ อสรจ. 75 คน จะมีแพทย์ เข้าตรวจโรคทั่วไปเดือนละ 4 ครั้ง และจิตเวช เดือนละ1 ครั้ง, ทันตกรรม เดือนละ 4 ครั้ง และให้คำปรึกษาผ่าน Application Line กรณีฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง มีศูนย์ฟื้นฟูผู้ต้องขังติดยาเสพติดในเรือนจำ และติดตามดูแลผู้ต้องขังที่พ้นโทษที่มีปัญหาด้านสุขภาพจิต ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังป่วยจิตเวช 43 คน ได้รับการรักษาต่อเนื่องทุกคน ส่วนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนยะลา มีเด็กและเยาวชนชายในความดูแล 68 คน ส่วนใหญ่กระทำความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย และยาเสพติด มีพยาบาลวิชาชีพ 2 คน, นักจิตวิทยา 2 คน มีโรงพยาบาลยะลา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ตรวจรักษาโรคทั่วไป, ตรวจพิสูจน์หาสารเสพติดในปัสสาวะและเส้นผม มีการสุ่มตรวจปัสสาวะทุกเดือน และตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะเด็ก, เยาวชน และเจ้าหน้าที่ ทุก 3 เดือน  มีการคัดกรองสุขภาพจิตและประเมินสุขภาพจิตด้วยแบบคัดกรองทุกคน พบเด็กมีปัญหา 9 คน ได้รับยาต่อเนื่อง อาการดีขึ้น สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ หลังการปล่อยตัวจะส่งข้อมูลให้โรงพยาบาลตามภูมิลำเนาเพื่อรับการดูแลอย่างต่อเนื่อง และมีการจัดการศึกษาสายสามัญและสายอาชีพ และการฝึกวิชาชีพหลักสูตรระยะสั้นและระยะยาว จากนั้น เดินทางไปยังโรงพยาบาลยะลา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย สนับสนุนยาและเวชภัณฑ์แก่เรือนจำกลางยะลา และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนยะลา มีการตรวจรักษาด้วยระบบ Telemedicine สามารถรับการวินิจฉัยและตรวจรักษาจากแพทย์ และแพทย์เฉพาะทาง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ผู้ต้องขังที่เจ็บป่วย ได้รับการรักษาทันท่วงที และมีห้องสำหรับผู้ต้องขังป่วยแยกจากผู้ป่วยทั่วไป เพื่อพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วยและด้านความปลอดภัย ต่อจากนั้น เดินทางไปยังเรือนจำกลางปัตตานี ควบคุมผู้ต้องขังกำหนดโทษ ไม่เกิน 30 ปี มีผู้ต้องขังชาย-หญิง รวม 2,149 คน มีโรงพยาบาลปัตตานี เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ในการนี้ องคมนตรี เปิดสถานพยาบาลหลังใหม่ สร้างขึ้นทดแทนหลังเดิมที่เสียหายจากเหตุจราจลภายในเรือนจำเมื่อปี 2559 ปัจจุบัน มีพยาบาลวิชาชีพ 6 คน, นักจิตวิทยา 2 คน และ อสรจ.100 คน ดำเนินงานด้านสาธารณสุขแก่ผู้ต้องขัง เช่น ตรวจคัดกรองโรคติดต่อโรค และโรคไม่ติดต่อ ประเมินสุขภาพจิต คัดกรองการใช้สารเสพติด มีแพทย์ เข้าตรวจผู้ต้องขัง จากโรงพยาบาลแม่ข่าย ทุกเดือน และดำเนินงานตามมาตรฐานสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตสำหรับผู้ต้องขัง เช่น โรงเลี้ยง สูทกรรม และที่นอน ด้านการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค และฟื้นฟูสมรรถภาพพื้นฐานตามกลุ่มวัย มีการจัดพื้นที่ในการฟื้นฟูสมรรถภาพ เช่น พื้นที่ออกกำลังกาย, และคัดกรองโรคซึมเศร้าในผู้ต้องขังสูงอายุ สำหร้บโรงพยาบาลปัตตานี เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำกลางปัตตานี และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดปัตตานี มีห้องรักษาผู้ต้องขังป่วยแยกจากผู้ป่วยทั่วไป และมีบริการตรวจรักษาด้วยระบบ Telemedicine เพิ่มช่องทางการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ ไม่จำเป็นต้องไปที่โรงพยาบาล สามารถได้รับการวินิจฉัยและตรวจรักษาจากแพทย์ และแพทย์เฉพาะทาง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดปัตตานี มีเด็กและเยาวชนชาย-หญิง ในความดูแล 37 คน โดยส่วนใหญ่กระทำความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย และยาเสพติด มีพยาบาลวิชาชีพ 1 คน, นักจิตวิทยา 2 คน มีโรงพยาบาลปัตตานี เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย เข้าไปตรวจสุขภาพทั่วไป และตรวจสุขภาพจิต พบป่วยจิตเวช 2 คน มีการจัดทำแนวทางดูแลและการส่งต่อ ร่วมกับเครือข่ายสาธารณสุข, อบรมบุคลากรให้มีความรู้และทักษะในการดูแลเด็กและเยาวชนจิตเวช มีกิจกรรมศาสนบำบัด ทำกิจกรรมตามศาสนาที่นับถือ เช่น โครงการถือศีลอด และโครงการค่ายจริยธรรม