จ่อฝากขัง ดำเนินคดีข้อหาหนัก หลังจับสึกเจ้าอาวาสตุ๋ยเด็ก 12
วันที่ 19 มี.ค. 2568 เวลา 13:47 น.
จ่อฝากขัง ดำเนินคดีข้อหาหนัก หลังจับสึกเจ้าอาวาสตุ๋ยเด็ก 12 แม่ฐานะยากจน พาลูกมาฝากวัดหวังให้ได้บวชเรียน ไม่คาดคิดถูกล่วงละเมิด เจ็บปวดจนไข้ขึ้นไปเรียนไม่ไหว แม่สุดช้ำร้องปวีณา พระตุ๋ยเด็ก คดีที่นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี รับเรื่องร้องทุกข์ผ่านสายด่วน 1134 จากแม่ของเด็กชายวัย 12 ขวบ ที่มีฐานะยากจน จึงฝากลูกชายไว้กับวัดแห่งหนึ่ง ในอ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี แต่กลับถูกเจ้าอาวาสวัดดัง ข่มขืนกระทำชำเรา หลังรับเรื่อง นางปวีณาได้ประสาน พ.ต.อ.วิชาญ สุธรรมแปง ผกก.สภ.กุมภวาปี ให้แม่พาลูกชายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าอาวาส พร้อมประสาน นางเยาวพรรณ แช่มพุดซา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี รับเด็กชายเข้ารับการคุ้มครอง พาไปตรวจร่างกาย และสอบปากคำจากสหวิชาชีพ โดยเด็กชายให้การชัดเจน ล่าสุดวันนี้ (19 มี.ค.68) นางปวีณา ได้รับแจ้งจาก พ.ต.อ.วิชาญ ว่าได้ออกหมายจับเจ้าอาวาส ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กชายอายุไม่เกิน 13 ปี และกระทำอนาจารเด็กชายอายุไม่เกิน 13 ปี หลังจับกุมตัวได้นำตัวไปสึก ต่อหน้าเจ้าคณะอำเอภกุมภวาปี จะได้นำตัวไปฝากขังต่อศาลในวันที่ 20 มี.ค.68 พร้อมคัดค้านการประกันตัวต่อไป คดีนี้ เมื่อวันที่ 25 ก.พ.68 ครูที่โรงเรียน โทร.มาหาแม่บอกว่าลูกชายขาดเรียนไป 1 วัน เมื่อกลับมาโรงเรียน เด็กเล่าให้ครูฟังว่าถูกเจ้าอาวาสข่มขืนกระทำชำเราทางทวารหนักจนไข้ขึ้น จนต้องหยุดเรียน เด็กมีอาการซึมเศร้าสภาพจิตใจย่ำแย่ แม่จึงรีบเดินทางไปหาลูกที่โรงเรียนเพื่อรับตัวลูกชาย แล้วโทรฯ ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ แม่ของเด็กแยกทางกับอดีตสามี มีลูกชาย 2 คน คนโตอายุ 19 ปี คนเล็กอายุ 12 ปี ด้วยฐานะยากจน จึงมีคนแนะนำให้พาลูกชายไปบวชเรียนที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี แต่เด็กกำลังเรียนอยู่ชั้น ป.6 ยังบวชเณรไม่ได้ ต้องรอให้จบป.6 ก่อน ระหว่างนี้เด็กจึงอาศัยอยู่ที่วัดและไปเรียนหนังสือด้วย สำหรับสถิติรับเรื่องราวร้องทุกข์ของมูลนิธิปวีณาฯ ประจำปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. - 31 ธ.ค.67 จำนวน 5,647 ราย ปัญหาข่มขืน/อนาจาร มากถึง 790 ราย โดยช่วงอายุที่ถูกข่มขืนมากสุด อันดับ 1.อายุ 11-15 ปี จำนวน 373 ราย คิดเป็น 47.22 % อันดับ 2.อายุ 16-20 ปี จำนวน 161 ราย คิดเป็น 20.38 % อันดับ 3.อายุ 0-10 ปี จำนวน 110 ราย คิดเป็น 13.92 % และอื่นๆ 146 ราย 18.48 % ซึ่งผู้ที่ก่อเหตุมากสุดเป็น คนรู้จัก ปู่เลี้ยง ตาเลี้ยง พ่อเลี้ยง จึงฝากเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองควรดูแลเอาใจใส่ลูกหลานอย่างใกล้ชิด