กลุ่มอดีตพนักงานการท่าเรือ เฮ ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ยกฟ้อง พ้นผิดข้อกล่าวหาทุจริตเบิกเงินค่าล่วงเวลา-เบิกความเท็จ

กลุ่มอดีตพนักงานการท่าเรือ เฮ ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ยกฟ้อง พ้นผิดข้อกล่าวหาทุจริตเบิกเงินค่าล่วงเวลา-เบิกความเท็จ

วันที่ 18 มี.ค. 2568 เวลา 17:24 น.

ยกฟ้อง กลุ่มอดีตพนักงานการท่าเรือ 34 ราย ถูกกล่าวหาทุจริตเบิกเงินค่าล่วงเวลา-เบิกความเท็จ ชี้ พยานหลักฐานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยทำผิด ด้านทนาย เผย รอดูอัยการจะอุทธรณ์หรือไม่ วันนี้ (18 มี.ค.68) ที่ห้องพิจารณาคดี 303 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อท 150/2567 ที่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการฝ่ายคดีปราบปรามทุจริต 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายจงเด่น อายุ 62 ปี อดีตพนักงานปากเรือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย กับพวกเป็นจำเลยที่ 1-34 ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารรับเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสารอันเป็นเท็จ และเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต กรณีการท่าเรือแห่งประเทศไทย มอบอำนาจให้ นายโกมล ศรีบางพลีน้อย ผู้กล่าวหาร้องทุกข์กับ กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ให้ดำเนินคดีกับนายจงเด่น กับพวกพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่ถูกกล่าวหาว่า ทุจริตเบิกจ่ายค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดเพิ่มเติมในห้วงเวลา พ.ศ. 2545 – พ.ศ. 2555 และกล่าวหาว่า ร่วมกันจัดทำเอกสารใบเบิกเงิน เพื่อใช้เบิกเงินดังกล่าว ทั้งที่ไม่ได้ทำงานจริง และใช้เอกสารดังกล่าวเป็นหลักฐานในการฟ้องการท่าเรือแห่งประเทศไทยต่อศาลแรงงานกลาง เพื่อเรียกร้องค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดเพิ่มเติมในห้วงเวลา พ.ศ. 2545 – พ.ศ. 2555 ทั้งที่ไม่ได้ทำงานจริง ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1-34 กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่าที่โจทก์มีพยานขึ้นเบิกความในทำนองเดียวกันว่า หากหัวหน้าหน่วยทำเรื่องเบิกเงินค่าทำงานล่วงเวลาก็สามารถเบิกได้ตามระเบียบ อีกทั้งการเบิกจ่ายก็ไม่พบการทุจริต เท่ากับว่าผู้บังคับบัญชาสามารถขอเบิกเงินล่วงเวลาได้ตามระเบียบ โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานที่ระบุว่า จำเลยไม่มาทำงาน ฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1-34 ไม่มาปฏิบัติงาน การเบิกเงินทำงานล่วงเวลาเป็นไปตามระเบียบ จำเลยทั้งหมดจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง ส่วนความผิดฐานเบิกความเท็จนั้น เอกสารที่การท่าเรือฯ ยื่นต่อศาลแรงงานกลาง เป็นเอกสารชุดเดียวกับที่จำเลยนำมาใช้เป็นหลักฐานยื่นฟ้องต่อศาลแรงงานกลาง เท่ากับว่าการท่าเรือฯ ยอมรับความถูกต้องเรื่องการเบิกเงินค่าทำงานในวันหยุด การเบิกความของจำเลยที่ 1 ถึง 21 จึงไม่ใช่การเบิกความเท็จ และจำเลยอื่นก็ไม่ได้กระทำผิด พยานหลักฐานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานเบิกความเท็จ เมื่อพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์แล้วว่า จำเลยไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานของจำเลย พิพากษายกฟ้อง ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 34 คนส่งเสียงปรบมือด้วยความดีใจ ซึ่งจำเลยส่วนใหญ่อยู่ในวัยเกษียณ จากนั้นทั้งหมดได้ลงลายมือชื่อและทำเรื่องขอเบิกหลักประกันขอปล่อยชั่วคราวคืนจากทางศาล ต่อมา นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความของจำเลย เผยว่า ศาลมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมดทั้ง 2 ข้อกล่าวหา หลังจากนี้ต้องดูต่อไปว่าทางพนักงานอัยการจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ หากยื่นอุทธรณ์ก็ต้องสู้คดีกันต่อไป หากไม่ยื่นอุทธรณ์คดีก็ถึงที่สุด แต่ในขณะนี้ผู้ถูกกล่าวหาทุกคนถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์หมดแล้ว ส่วนจะมีการยื่นฟ้องกลับหรือไม่อยู่ที่สิทธิของแต่ละคน ซึ่งยังไม่ได้พูดคุยกันในเรื่องนี้