องค์การอนามัยโลกเผย 8 ประเทศอาจไม่มียารักษาโรค HIV

องค์การอนามัยโลกเผย  8 ประเทศอาจไม่มียารักษาโรค HIV

วันที่ 18 มี.ค. 2568 เวลา 10:54 น.

องค์การอนามัยโลกเผย 8 ประเทศอาจไม่มียารักษาโรค"เอชไอวี" (HIV) ใช้ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ สั่งตัดงบประมาณ"ยูเซด" (USAID) (18 มี.ค.68) นาย"ทีโดรส อัดฮานอม กรีบรีเยซุส" ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก แถลงเมื่อวานนี้ว่า (17 มี.ค.)  การตัดสินใจของรัฐบาลประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" ของสหรัฐฯ ที่จะระงับความช่วยเหลือในต่างประเทศนั้น จะส่งผลให้การจัดหายารักษาโรค"เอชไอวี" (HIV) ใน 8 ประเทศหยุดชะงักลง ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า  โดยเฉพาะ เฮติ เคนยา เลโซโท ซูดานใต้ บูร์กินาฟาโซ มาลี ไนจีเรีย และยูเครน และยังอาจส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าในการรักษาโรค "เอชไอวี" ที่ดำเนินมาต่อเนื่องเป็นเวลา 20 ปี โดยอาจทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 10 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้ เพิ่มขึ้นอีก 3 ล้านคน นอกจากนั้น ความพยายามในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อ"เอชไอวี"  โปลิโอ มาเลเรีย และวัณโรค ได้รับผลกระทบไปด้วย ทั้งนี้ เครือข่ายห้องปฏิบัติการโรคหัด และหัดเยอรมันระดับโลก ที่ประสานงานโดยองค์การอนามัยโลก ซึ่งมีศูนย์มากกว่า 700 แห่งทั่วโลก อาจต้องปิดตัวลงในเร็วๆ นี้เช่นกัน ซึ่งโรคหัดกำลังกลับมาระบาดอีกครั้งในสหรัฐอเมริกา  สำหรับ "ยูเซด" (USAID) มีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและผู้ลี้ภัยกับโครงการสังคมทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย ซึ่งทรัมป์กับอีลอน มันก์ กำลังจะสั่งยุบหน่วยงานนี้ โดยการขาดแคลนเงินทุนอาจทำให้บริการดูแลสุขภาพที่จำเป็นที่องค์การอนามัยโลกสนับสนุนในอัฟกานิสถานถึง 80% ต้องปิดตัวลง ขณะที่  โทมัส แอนดรูว์ส ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติด้านสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมา เปิดเผยว่า ที่นคร"เจนีวา" ว่า การตัดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสหรัฐฯ ยังส่งผลกระทบร้ายแรงต่อประชาชนในเมียนมา ที่ความรุนแรงมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น พร้อมกล่าวเตือนว่า   สถานการณ์ที่ไม่มั่นคงเหล่านี้จะบีบบังคับให้ผู้คนตกเป็นเหยื่อทางเพศ ค้ามนุษย์ และจะหลั่งไหลข้ามพรมแดนเมียนมาไปยังบังกลาเทศ หรือพื้นที่อื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น