ทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึกสอบพยานแล้วเกือบ 100 ปาก

วันที่ 13 มี.ค. 2568 เวลา 16:21 น.
สอบปากคำแล้วเกือบ 100 ปาก ทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก “บิ๊กเต่า” จวกทำอุบาทว์ ดึงชาวบ้านเป็นเหยื่อ เร่งสอบให้ถึงปลายทาง พร้อมขยายผลถึง รพ.อื่น เหยื่อกินยาทั้งที่ป่วยทิพย์ ถึงตาย 1 คน อาการหนัก 1 คน ความคืบหน้าคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก วันนี้ (13 มี.ค.68) พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมประชุมหารือกับคณะพนักงานสอบสวน บก.ปปป. (กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ) ในคดีการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ของโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มีการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 80-90 ปาก ขณะนี้อยู่ในการรวบรวมพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อให้สำนวนมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ก่อนพิจารณาออกหมายจับดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง สำหรับข้อมูลที่คณะพนักงานสอบสวนมีอยู่ในขณะนี้ มีความน่าเชื่อว่าอาจจะมีโรงพยาบาลอื่นที่กระทำในลักษณะนี้เช่นกัน และถือว่าเคสนี้เป็นเคสที่น่าสนใจ เนื่องจากที่ผ่านมา ตำรวจยังไม่เคยเจอแผนประทุษกรรมในลักษณะนี้มาก่อน เป็นการนำเหยื่อจำนวนมากมาเบิกเงินจากบัญชีของรัฐออกไป เพื่อประโยชน์ต่อตนเองหรือผู้อื่น การกระทำเหล่านี้อุบาทว์มาก แต่เชื่อว่าการสืบสวนและสอบสวนจะเสร็จสิ้นเร็วกว่ากำหนด โดยจะมีการขยายผลไปถึงปลายทางของยา ว่านำไปที่ไหนอย่างไร ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานจะมีคำตอบที่ชัดเจน ในส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีอดีตแม่ทีมกลับใจ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ยืนยันว่าไม่ใช่แม่ทีมที่กลับใจ แต่บุคคลดังกล่าวเป็นพลเมืองดีที่เสียสละเข้าไปเก็บข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาให้ตำรวจ สำหรับคดีนี้ จากแผนประทุษกรรมพบว่าขบวนการนี้ทำอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2561 มีการเกณฑ์แม่บ้านหรือสมาชิกในครอบครัวทหาร ไม่ต่ำกว่า 700 คน ว่าจ้างให้มาเป็นผู้ป่วย โรคเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ ภูมิแพ้ โดยจัดรถตู้รับส่งให้เดินทางเข้ามาใช้สิทธิรักษาพยาบาล-เบิกยา ให้ค่าจ้างคนละ 1,500 บาท ต่อการเดินทาง 1 ครั้ง จัดเตรียมบทพูดให้ท่องจำ เพื่อพูดอธิบายอาการป่วยกับหมอและขอยาที่มีราคาแพง เมื่อตรวจรักษาเสร็จ ได้รับยามาจะส่งมอบให้ขบวนการทุจริตยา นำไปโพสต์ขายออนไลน์รายได้วันละหลายหมื่นบาท นอกจากนี้ ยังพบการเช่าห้องพักในคอนโดมิเนียมไว้เป็นยา รอการโพสต์ขาย รายงานข่าวจากแผนประทุษกรรมระบุด้วยว่า ในการเดินทางมาตรวจรักษาแต่ละครั้ง หมอที่ร่วมขบวนการจะแนะนำให้กินขนมของหวาน อาหารไขมันสูง ก่อนเจาะเลือด เพื่อให้ไขมันและน้ำตาลขึ้นสูง กรณีเป็นความดันโลหิตสูงจะจอดรถที่ปั๊มน้ำมันใกล้ รพ. ให้ผู้ป่วยเดินไปยัง รพ. ก่อนวัดความดัน การกระทำดังกล่าวทำให้มีคนเสียชีวิตแล้ว 1 คน และอาการหนักอาจเสียชีวิต 1 คน เพราะไม่ได้ป่วยเบาหวาน แต่กินยารักษาเบาหวาน