จับมาเฟียรัสเซีย ข่มขู่เก็บค่าคุ้มครองเพื่อนร่วมชาติ อ้างรู้จักเจ้าหน้าที่ระดับสูง

จับมาเฟียรัสเซีย ข่มขู่เก็บค่าคุ้มครองเพื่อนร่วมชาติ อ้างรู้จักเจ้าหน้าที่ระดับสูง

วันที่ 10 มี.ค. 2568 เวลา 18:47 น.

ตำรวจท่องเที่ยว บุกรวบมาเฟียรัสเซียคุมเกาะพะงัน ข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองเพื่อนร่วมชาติ ถ่ายรูปใส่เอกั๊ก-สะพายอาวุธปืนโชว์ อ้างสนิทเจ้าหน้าที่ไทยระดับสูง เจ้าตัวรับสารภาพ ส่วนอุปกรณ์ทั้งหมดซื้อจากร้านออนไลน์ วันนี้ (10 มี.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ค่ำวานนี้ ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาเที่ยวในเกาะพะงันว่า มีชายต่างชาติชอบถ่ายรูปสวมใส่เสื้อกั๊ก สะพายอาวุธปืน อวดโชว์เพื่อนต่างชาติ และมีพฤติกรรมชอบข่มขู่ชาวรัสเซียด้วยกัน นอกจากนี้ ยังเรียกเก็บค่าคุ้มครอง โดยอ้างตัวว่าทำงานกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทย สามารถช่วยไกล่เกลี่ยหรือช่วยเหลือในด้านคดีได้ เนื่องจากรู้จักเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง จึงรายงานให้ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. และสั่งการให้ พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.สทท.5 กก.2 บก.ทท.3 นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน ไปจับกุมชายคนดังขณะยืนขายกัญชาอยู่ในร้าน สอบสวนชื่อ นายวลาดิสลาฟ เคลนอฟ อายุ 27 ปี สัญชาติรัสเซีย ให้การว่า ตนทำงานเป็นพนักงานร้านขายกัญชา ได้รับเงินเดือนหักจากยอดขายทั้งหมด จำนวน 17% แต่ละวันก็จะพักอาศัยฟรีภายในร้าน ส่วนกรณีที่ถูกนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมทำตัวเป็นมาเฟียนั้น ยอมรับว่า มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง และได้นำเสื้อกั๊ก ปืนอัดลม M4A1 และกุญแจมือ ที่ใส่ถ่ายรูปข่มขู่เพื่อนร่วมชาติมาให้กับตำรวจด้วย โดยทั้งหมดสั่งซื้อมาจากเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ชื่อดัง ตำรวจท่องเที่ยว จึงแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน)” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดี ขณะที่ ตำรวจท่องเที่ยวประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เคยถูกบุคคลดังกล่าวข่มขู่ เรียกเอาทรัพย์ หรืออื่นใด ที่เห็นว่าทำให้เกิดความเสียหายเสื่อมเสียต่อทรัพย์ให้เดินทางมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบส่วน สภ.เกาะพะงัน หรือติดต่อมายังตำรวจท่องเที่ยว สายด่วน 1155 ได้ตลอด  ทั้งนี้ พล.ต.ท.ศักย์ศิรา กำชับหัวหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวนำร่อง และพื้นที่ไกล้เคียงเร่งกวาดล้างการกระทำผิดของกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัวก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ ให้ดำเนินคดีเด็ดขาดไม่เว้นทุกกรณี เพื่อสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซันอย่างจิงจังและเด็ดขาด