ตามรวบทันควัน! หนุ่มเมียนมาโหดแทงสาว 5 แผล ก่อนนำศพไปทิ้งป่าข้างทาง

วันที่ 10 มี.ค. 2568 เวลา 16:52 น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจวังน้อย ตามรวบหนุ่มเมียนมาโหดแทงสาวเพื่อนร่วมชาติ 5 แผล แถมนำไปกดน้ำ ก่อนนำศพไปทิ้งหมกป่ากกข้างทาง วันนี้ (10 มี.ค. 68) พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย เผยว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงเวลา 23.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา พบรถจักรยานยนต์ตกอยู่ในคลองชลประทานในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ไม่พบคนบริเวณนั้นซึ่งเป็นที่มืด จึงได้นำรถจักรยานยนต์กลับมาตรวจสอบที่ สภ.วังน้อย พบว่าเจ้าของรถเป็นคนไทย จึงได้เรียกตัวมาให้ข้อมูลกับเจ้าพนักงานสอบสวน เบื้องต้นพบว่า ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ คือ น.ส.ซาซ่า สัญชาติเมียนมา อายุ 30 ปี ทำงานอยู่ภายในนิคมแฟคตอรี่แลนด์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ ทางญาติของ น.ส.ซาซ่า แจ้งว่า “ซาซ่า” หายตัวไปยังไม่กลับที่พัก จึงสอบถามเพื่อนสนิทของผู้ตายพบว่าผู้ตายได้หายไปและมีการติดต่อกับ นายปาย อายุ 23 ปี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังน้อย จึงนำกำลังเข้าไปกดดันจน นายปาย เข้ามามอบตัว พร้อมยอมรับสารภาพว่าตนใช้อาวุธมีดแทง น.ส.ซาซ่า เสียชีวิต แล้วนำศพไปโยนทิ้งไว้ในป่ากกข้างทาง ซึ่งไม่ห่างจากจุดที่พบรถจักรยานยนต์ หลังจากนั้นได้ให้ นายปาย นำไปชี้จุดที่ทิ้งศพ จึงพบร่าง น.ส.ซาซ่า ถูกฆ่าหมกไว้ในป่ากกข้างทางจริง จึงให้อาสากู้ภัยมูลนิธิพุทไธสวรรย์ นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาตรวจสอบพบว่า มีบาดแผลถูกอาวุธมีดแทงทั่วตัว 5 แผล จากนั้นมอบร่างให้อาสากู้ภัยนำส่งชันสูตรต่อที่สถาบันนิติเวชจังหวัดปทุมธานี เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอย่างละเอียด ทางเจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นายปาย มาทำการสอบสวนอย่างละเอียด โดยผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพผ่านล่าม โดยอ้างว่าตนกับผู้ตายเป็นแฟนกันและรู้จักกันประมาณ 1 เดือน เมื่อคืนวันเกิดเหตุ ผู้ตายได้ยืมเงินตนไป 5,000 บาท จากนั้นผู้ตายได้โทรศัพท์นัดตนไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งตนคิดว่าผู้ตายจะคืนเงินจึงเดินเท้าไปรอ จนกระทั่งผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มามีการยืนพูดคุยอยู่ซักพักจากนั้นก็มีปากเสียงกัน เนื่องจากผู้ตายคว้าโทรศัพท์ของตนไปลบข้อมูลแล้วปาทิ้งลงพื้นทำให้ตนโมโหและมีการเถียงกัน ต่อมาผู้ตายเอามือไปจับที่เอวของตนก็พบมีดที่พกมา จึงดึงมีดออกมาจากเอวและมีการยื้อแย่งมีดกัน ทางผู้ตายกัดมือตน (พร้อมโชว์แผลที่มือที่ถูกกัดและถูกมีดบาด) ตนจึงคว้ามีดแทงเข้าไปที่ตัวผู้ตายหลายแผล ซึ่งตอนนั้นยังไม่ทราบว่าตาย ตนจึงพาไปตรงป่ากกข้างทาง และกลัวว่าจะส่งเสียงดัง จึงนำผู้ตายไปกดน้ำ พอผู้ตายแน่นิ่งก็ปล่อยร่างทิ้งไว้ในป่ากก และเข็นรถจักรยานยนต์ทิ้งลงคลอง จากนั้นก็ไปทำงานปกติ เบื้องต้น จากการสอบปากคำผ่านล่าม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ก่อเหตุเนื่องจาก ผู้ตายเป็นคนค่อนข้างมีเงินและจะปล่อยโทรศัพท์มือถือให้คนสัญชาติเดียวกันผ่อน และยังมีโทรศัพท์มือถือของผู้ตายจำนวน 3 เครื่อง ที่เพิ่งไปซื้อมา ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง เบื้องต้นตั้งข้อหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนา”