เลื่อนตรวจหลักฐานคดีทนายตั้ม ฉ้อโกงเจ๊อ้อย ชี้ เอกสาร 9 พันกว่าหน้า ทนายจำเลย เผยเรื่องประกัน ขอดูเวลาเหมาะสมก่อน

เลื่อนตรวจหลักฐานคดีทนายตั้ม ฉ้อโกงเจ๊อ้อย ชี้ เอกสาร 9 พันกว่าหน้า ทนายจำเลย เผยเรื่องประกัน ขอดูเวลาเหมาะสมก่อน

วันที่ 10 มี.ค. 2568 เวลา 15:14 น.

ศาลเลื่อนตรวจหลักฐานคดีทนายตั้มฉ้อโกงเจ๊อ้อย เป็น 28 เม.ย. ชี้ เอกสาร 9 พันกว่าหน้า ทนายจำเลย เผยเรื่องประกัน ขอดูความเหมาะสมช่วงเวลาอีกครั้ง วันนี้ (10 มี.ค.68) ที่ห้องพิจารณาคดี 711 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐานครั้งแรก คดีหมายเลขดำ อทย.109/2568 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรย, พี่สาวภรรยา และพวกรวม 7 คนเป็นจำเลย ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกง, ฟอกเงินฯ หลอกลวง น.ส.จตุพร หรือเจ๊อ้อย ซื้อลอตเตอรี่ออนไลน์ รถเบนซ์หรู มูลค่า 111 ล้านบาท ศาลได้สั่งเบิกตัว ทนายตั้ม กับพวกรวม 7 คน มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และทัณฑสถานหญิงกลาง ขณะที่วันนี้มีทนายความของนายษิทรา และจำเลยร่วม รวมถึงทนายความของฝั่ง น.ส.จตุพร มาร่วมกำหนดบัญชีพยาน ในการตรวจพยานหลักฐานด้วย นอกจากนี้ ยังมีญาติของจำเลยมาร่วมฟังการพิจารณาคดีด้วยเช่นกัน ขณะที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด มาให้กำลังใจทนายตั้ม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาในเวลา 10.15 น. นายษิทราถูกพาเข้ามาในห้องพิจารณาคดี โดยนายษิทราอยู่ในชุดผู้ต้องขังสีครีม รูปร่างซูบผอมลง และทักทายญาติ และในเวลา 10.17 น. นางปทิตตา ถูกพาขึ้นมาภายในห้องพิจารณาคดี โดยนางปทิตตา ยังคงมีหน้าตาที่สดใสขึ้นกว่าช่วงแรกที่มาศาล จากนั้น นางปทิตตา ได้เดินเข้าไปนั่งใกล้กับนายษิทราก่อนที่ทนายความจะเข้าไปพูดคุยด้วย ต่อมาเวลา 12.00 น. ศาลได้อ่านกระบวนพิจารณา เลื่อนการตรวจพยานหลักฐานคดีนี้ออกไปเป็นวันที่ 28 เม.ย. เวลา 09.00 น. เนื่องจากเอกสารหลักฐานในคดีนี้มีจำนวนมากประมาณ 9,000 กว่าหน้า ด้านนายเริงยศ ทรัพย์เงินทอง ทนายความของ นางปทิตตา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ตนได้พูดคุยกับนายษิทราและนางปทิตตาแล้ว โดยทั้งคู่และจำเลยอีก 5 คนยังคงยืนยันให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอต่อสู้คดีเช่นเดิม ส่วนเรื่องการยื่นประกันตัวตนได้พูดคุยกับนายษิทราแล้ว ทางทีมทนายความจะขอดูความเหมาะสมของช่วงเวลาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นจึงจะพิจารณาว่าจะยื่นประกันตัวนายษิทราและนางปทิตตาหรือไม่ ตนยืนยันว่าทั้งนายษิทราและนางปทิตตายังมีกำลังใจดีและพร้อมที่จะต่อสู้คดีตามเอกสารที่มี โดยหลังจากนี้จะเหลือการตรวจหลักฐานของฝ่ายโจทก์อีก