ขู่ฟันผู้ร่วมขบวนการทุจริตยา จากพยานอาจตกเป็นผู้ต้องหา

วันที่ 6 มี.ค. 2568 เวลา 16:08 น.
"บิ๊กเต่า" ลั่นให้เวลาผู้ร่วมขบวนการถึงแค่วันพุธที่ 12 มีนาคมนี้ ไม่งั้นจะตีตกจากพยานเป็นผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมเตรียมขยายผลไปยังโรงพยาบาลอื่นที่มีการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ วันนี้ ( 6 มี.ค.68 ) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมคณะพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เชิญตัวพยานผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ ในคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ที่สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญพยานในฐานะเป็นผู้ป่วย ที่ถูกเชิญให้ร่วมขบวนการ รวมประมาณ 70 คน มาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ตอนนี้สอบปากคำในฐานะพยานที่เคยเป็นทหาร หรือครอบทหารผ่านศึก ก่อนแกล้งเป็นผู้ป่วยทิพย์เข้าไปรับการรักษาและขอยา หลังจากนี้ต้องตรวจสอบว่าเป็นเหยื่อที่ถูกหลอกจริงหรือไม่ โดยจะต้องนำหลักฐานข้อมูลต่าง ๆ ไปพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งแผนพฤติกรรมพบว่าขบวนการดังกล่าวอาจจะทำให้เหยื่อถึงขั้นเสียชีวิตหรือไม่ ที่เกี่ยวกับอาการของคนไข้ที่เป็นเบาหวานแล้วให้มีการกินไขมันจำนวนมาก เพื่อไปรักษาถึงขั้นช็อกทำให้เสียชีวิต ซึ่งจะเข้าข่ายค้ามนุษย์ด้วยหรือไม่ จึงมีหลายประเด็นที่จะต้องตรวจสอบให้ครบถ้วน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุอีกว่า พยานที่อ้างว่าไม่มีความรู้เรื่องข้อกฎหมาย หรือบางคนที่เต็มใจยอมเข้าร่วมขบวนการเพื่อหวังเงิน ส่วนจะมีเจตนาหรือไม่มีคณะกรรมการจะต้องมาแยก เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนจะต้องรู้กฎหมายหรือไม่ แต่ความถูกต้องของสังคมจะต้องมี โดยเฉพาะคนที่เป็นเหยื่อจริง ๆ ก็ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ ซึ่งเรื่องทั้งหมดกำลังแยกว่าใครมีเจตนาหรือใครเป็นเหยื่อ แต่ส่วนตัวรู้สึกเวทนาด้วยปัญหาความยากจน และด้อยความรู้ของชาวบ้าน ส่วนกรณีแพทย์ที่มีการจ่ายยาในกับคนไข้เป็นจำนวนมาก ในขั้นตอนส่วนนี้จะต้องแยกในการพิจารณากับกลุ่มพยานเหล่านี้ โดยยืนยันว่าจะทำทุกมิติเพื่อแยกให้รู้ว่าใครเป็นตัวการใหญ่ของขบวนการดังกล่าว ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐาน เนื่องจากพนักงานสอบสวนมีการรวบรวมครบทุกประเด็น คาดว่ามีการทุจริต โดยคณะกรรมการจะมีการร่วมกันกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อสืบสวนสอบสวนทุกมิติกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ร่วมกันเอายา รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่พบเส้นทางการเงิน และแชทไลน์ต่าง ๆ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ส่วนตัวการกลุ่มคนที่ไปรับยาเป็นเพียงคนที่ได้รับผลประโยชน์ส่วนน้อย ยืนยันว่า ยาที่มีการเบิกออกไปยังหมุนเวียนอยู่ในประเทศ ซึ่งยาที่เจอส่วนใหญ่เป็นยานอกระบบที่เจ้าหน้าที่มีการรวบรวมพยานหลักฐานไว้หมดแล้ว ซึ่งเป็นยาที่แพทย์เจาะจงสั่งจ่ายให้กับผู้ป่วยแต่ละรายที่ครอบคลุมเกี่ยวกับโรคที่ลงในระบบไว้ แต่การจ่ายยามันผิดข้อสังเกต อาการป่วยคนไข้ยังไม่ถึงขั้นตอนต้องจ่ายยานอกบัญชีทันทีที่มีการวินิจฉัยโรคครั้งแรกส่วนพยานที่ต้องเข้าให้ข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีจำนวนมากแต่ไม่ระบุตัวเลข ซึ่งจะเร่งรัดสอบให้แล้วเสร็จ เพื่อส่งต่อให้กับ ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการต่อ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีการข่มขู่พยาน จึงขอความร่วมมือให้พยานทุกคนเข้ามาให้ข้อมูล โดยไม่ต้องมีหมายเรียกเพราะเจ้าหน้าที่รู้อยู่แล้ว รู้ข้อมูลตามเวชระเบียบทั้งหมด เพราะการเข้ามาให้ข้อมูลโดยไม่มีหมายเรียกจะทำให้มีเจตนาที่ดีกว่า โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้เวลาถึงวันพุธที่ 12 มีนาคม ภาพยานหรือผู้ร่วมขบวนการยังไม่เข้ามาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่จะถือว่าเป็นผู้ต้องหาทั้งหมด ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย