คดีรุมโทรมเด็ก 13 ปี ผู้กำกับยืนยันคดีไม่ล่าช้า รอเด็กสอบเสร็จจึงเรียกสอบ
วันที่ 3 มี.ค. 2568 เวลา 15:57 น.
พี่ชายเผยตกใจน้องถูกแชร์ภาพก่อเหตุรุมโทรมหญิง ยอมรับน้องชายเป็นคนดื้อ ติดเพื่อน เคยเป็นแฟนกับเด็กหญิง หลังเกิดเรื่องน้องสลดลงมาก สารภาพผิด อยากขอโทษ ผกก. ยืนยันคดีไม่ล่าช้า รอให้เด็กสอบเสร็จจึงเรียกมาสอบ รุมโทรมเด็กหญิง วันนี้ ( 3 มี.ค.68) ผู้ปกครองของเด็กชายเก้า อายุ 13 ปี และเด็กชายนนท์ อายุ 14 ปี แก๊งฟันน้ำนม รุมโทรมเด็กหญิงวัย 13 ปี เดินทางมายัง สภ.หนองแค เพื่อเข้าพบผู้กำกับการ สภ.หนองแค และพูดคุยกับผู้ปกครองของเด็กหญิงผู้เสียหาย นายมินพี่ชายของเด็กชายนนท์ เผยว่า ก่อนหน้านี้ เด็กหญิงบี ผู้เสียหาย เคยคบหากับน้องชายของตน แต่ได้เลิกรากันไปแล้ว ในวันเกิดเหตุ ตนไม่ทราบเรื่องมาก่อน เพิ่งมาทราบตอนที่เห็นคนแชร์ภาพโพสต์ประจานน้องชายกับกลุ่มเพื่อน ว่าได้ไปข่มขืนรุมโทรมเด็กหญิงบี ทำให้ตกใจ รีบมาสอบถามน้องชาย ซึ่งน้องชายสารภาพผิดทุกอย่าง พร้อมยอมรับว่ากระทำผิดร่วมกับเพื่อนจริง “หลังเกิดเรื่อง น้องชายก็อยู่ที่บ้าน มีท่าทีสลดลงอย่างเห็นได้ชัด นิสัยส่วนตัวเขาเป็นคนดื้อ เกเร ติดเพื่อนตามวัยของเด็ก ระยะหลังช่วงเวลากลางคืนออกไปแว้นรถจักรยานยนต์ ตอนนี้ตนยังไม่ได้พูดคุยกับพ่อแม่ของฝ่ายหญิง ส่วนตัวเป็นฝ่ายผิด อยากขอโทษอยู่แล้ว ซึ่งวันนี้ได้มาพูดคุยขอโทษครอบครัวของฝ่ายหญิงผู้เสียหาย เพื่อแสดงความรับผิดชอบ” นายมิน ระบุ ทางด้าน พ่อของเด็กชายเก้า เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เผยว่า เมื่อทราบเรื่องก็ได้ไปถามกับลูกชาย ซึ่งลูกชายยอมรับว่าทำจริง แต่ไม่บอกว่าทำไปเพราะอะไร ซึ่งลูกชายกับกลุ่มเพื่อน ใช้บ้านพักหลังเขียว ซึ่งเป็นบ้านอีกหลังของตน ในการกระทำชำเราเด็กหญิงบี ขณะเกิดเรื่องตนนอนอยู่ในบ้านอีกหลัง จนช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน เห็นลูกชายกับเพื่อนยังส่งเสียงดัง จึงเข้าไปดุว่า และเห็นเด็กหญิงบีอยู่ในห้อง แต่เด็กหญิงบีไม่ได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ หลังเกิดเรื่องลูกชายยังไปรวมตัวกับกลุ่มเพื่อน ตนพยายามด่าเตือนสติก็แล้ว แต่ลูกไม่ฟัง ส่วนประเด็นที่ว่านี่เป็นการลวงมาหรือไม่นั้น เท่าที่ได้ฟังจากคำพูดของเด็ก คิดว่าไม่ใช่การลวงมา ซึ่งข้อเท็จจริงหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ทางด้านพ.ต.อ.สุรเชษฐ์ แสนวงษ์ศิริ ผกก.สภ.หนองแค เผยว่า เบื้องต้นยังคงต้องรอผลการตรวจร่างกาย และต้องนัดสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเด็ก หากทำผิดจริงจะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งถ้าหลบหนีก็จะออกหมายจับ แต่ได้คุยกับผู้ปกครองแล้ว ซึ่งทางผู้ปกครองก็รับปากว่าจะดูแล แต่วันนี้ที่เรียกมาก็เพื่อไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกันอีก ซึ่งทางคดีลักษณะ จะตั้งข้อหา ร่วมกันอนาจาร ซึ่งผู้ปกครองจะตกลงกันอย่างไรก็จะให้ไปตกลงกันที่ศาล สุดแท้แต่ทางศาลจะว่าอย่างไร ในส่วนคดีแล้วไม่มีอะไรที่ล่าช้า เนื่องจากเด็ก ๆ กำลังจะสอบให้เขาสอบก่อน เมื่อสอบเสร็จ ก็นัดเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง มาให้หน่วยงานสหวิชาชีพเข้าสอบสวน สำหรับคดีนี้ “ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง” พร้อมทีมงานพา นางบัว (นามสมมติ) แม่ของเด็กหญิงบี วัย 13 ปี มาติดตามคืบหน้าคดีที่ สภ.หนองแค หลังเคยแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 19 ก.พ.68 ว่าลูกสาวถูกเพื่อนรุ่นพี่ต่างสถาบันและสถาบันเดียวกันลวงไปรุมโทรม โดยมีนางสุนิสา ไชยกุล เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และนายประภาวิน พื้นชมพู เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวสระบุรี เข้ารับฟังและปรับสภาพจิตใจเด็กหญิง