“ปริญญา” ย้ำรัฐบาล ติดตามสวัสดิภาพความปลอดภัยของชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับไปอย่างจริงจัง

“ปริญญา” ย้ำรัฐบาล ติดตามสวัสดิภาพความปลอดภัยของชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับไปอย่างจริงจัง

วันที่ 1 มี.ค. 2568 เวลา 09:38 น.

“ปริญญา”  แนะรัฐบาลมีทางเดียวที่จะหลุด ปมอุยกูร์ คือ ติดตามสวัสดิภาพความปลอดภัยของ 40 ชีวิตที่ส่งกลับจีน ชี้เรื่องนี้คนลำบากสุด คือ “นายกฯ อิ๊งค์” วันนี้ (1 มี.ค.68) นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า ”#ข้อสังเกตเรื่องการส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน การที่รัฐบาลไทยส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนกลับประเทศจีน จนกลายเป็นข่าวใหญ่ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ผมมีข้อสังเกต และหลายข้อก็เป็นข้อสงสัยด้วย ที่ผู้ที่เกี่ยวข้องควรทำให้คนหายสงสัย ไม่งั้นจะเป็นเรื่องใหญ่กว่านี้ ดังต่อไปนี้ครับ 1. ข้อสังเกตแรกคือ ทำไมต้องมีการปิดบังการส่งตัวกลับ? คล้ายกับเกรงว่าจะถูกคัดค้าน หรือมีการต่อต้านจนส่งกลับไม่ได้ ตรงนี้ทำให้คนสงสัย เพราะหากว่าเขาเต็มใจกลับจริงๆ และทางการจีนรับรองความปลอดภัยไม่มีการทำอันตรายเขาจริงๆ  ก็ควรส่งกลับเขากลับอย่างเปิดเผยโปร่งใส ซึ่งก็จะทำให้ไม่มีใครตำหนิประเทศไทยได้ 2. ท่ามกลางความขัดแย้งที่กำลังหนักหน่วงมากขึ้นระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน ประเทศไทยควรเอาใจทั้งสองประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในเรื่องการค้ากับทั้งสองฝ่าย ทำไมในเรื่องนี้เราจึงเลือกเอาใจแต่ประเทศจีน แล้วถูกสหรัฐอเมริกาประณาม? 3. ประเทศไทยได้รับเลือกเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ โดยดำรงตำแหน่งตามวาระปี 2568 – 2570 นั่นแปลว่า หลังจากรัฐประหาร 2557 เราได้รับความยอมรับในเรื่องสิทธิมนุษยชนในระดับสากลกลับมาแล้ว ทำไมจึงไปทำเรื่องที่จะสุ่มเสี่ยงต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเรื่องสิทธิมนุษยชนอีก? 4. ที่สำคัญคือพรบ.ป้องกันและปราบปรามการอุ้มหายทรมาน มาตรา 13 บัญญัติว่า “ห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐขับไล่ ส่งกลับ หรือส่งบุคคลเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปยังอีกรัฐหนึ่ง หากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบุคคลนั้น จะไปตกอยู่ในอันตราย …“ การจะส่งบุคคลที่ขอลี้ภัยกลับไป ต้องมีหลักประกันมั่นใจว่า จะไม่ทำให้เขาตกอยู่ในอันตราย หาไม่แล้วจะเท่ากับว่าเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กระทำผิดตามมาตรานี้ รวมถึงอาจผิดกฎหมายระหว่างประเทศอื่นๆ อีกด้วย 5. ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตาม พรบ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มาตรา 6) รวมถึงในฐานะประธาน สมช. (ตาม พรบ. สภาความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2559 มาตรา 6) จะปฏิเสธความรับผิดชอบ หรือปัดเรื่องให้พ้นตัวได้อย่างไร? 6. ข้อสงสัยที่สุดของผมคือ ทั้งๆ ที่กำลังจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี โดยฝ่ายค้านยื่นญัติติอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ซึ่งเรื่องที่จะถูกอภิปรายก็มีมากพออยู่แล้ว ทำไมจึงไปสร้างเรื่องใหม่ที่จะเป็นจุดอ่อนให้นายกฯ เพิ่มเข้าไปอีก? เรื่องนี้ดูแปลกมาก เพราะอยู่ดีๆ ก็ไปเพิ่มแต้มบุกให้ฝ่ายค้าน ราวกับโดนของหรือถูกใครวางยา รัฐบาลมีทางเดียวที่จะหลุดจากเรื่องนี้ได้คือ ต้องติดตามสวัสดิภาพความปลอดภัยของชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับไปอย่างจริงจัง ให้คนเห็นว่า ทุกคนที่ถูกส่งกลับปลอดภัยจริงๆ รัฐบาลจีนให้เขากลับไปอยู่กับครอบครัวเขาโดยไม่ทำอะไรเขาจริงๆ ครับ ไม่งั้นประเทศไทยจะลำบาก แล้วรัฐบาลก็จะลำบากแน่ และคนที่จะลำบากที่สุดคือ คุณแพรทองธารในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครับ“