จับแล้ว โจรมารยาทดีไหว้ชิงทอง

วันที่ 16 ก.พ. 2568 เวลา 05:04 น.

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - หนีไม่รอด โจรมารยาทดีที่ก่อเหตุชิงทองคำน้ำหนัก 1 บาท 50 สตางค์ ที่ร้าน ไม่ทันข้ามวัน ตำรวจตามจับตัวได้แล้ว จับแล้ว โจรมารยาทดีไหว้ชิงทอง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายเป็นชาย รูปร่างท้วม ใส่หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า มาขอดูสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท จังหวะเจ้าของร้านไม่ทันระวังตัว คนร้ายเปิดประตูเข้าไปหลังเคาน์เตอร์ หยิบโทรศัพท์มือถือ ยกมือไหว้เจ้าของร้าน จากนั้นเจ้าของร้านกดสัญญาณฉุกเฉิน คนร้ายตกใจ กระชากเราเตอร์หลบหนี เพราะคิดว่าเป็นเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่สืบสวนหาเบาะแส ใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง จับตัวผู้ก่อเหตุได้ คือ นายชญานนท์ อายุ 26 ปี มีอาชีพเป็นกุ๊กที่ร้านในอาหารแห่งหนึ่ง และทำอาชีพเสริมเป็นไรเดอร์ หลังก่อเหตุนำทองไปขายที่ร้านทองย่านสำโรง มาถูกจับกุมตัวได้ ระหว่างที่เอาเงินมาซ่อนไว้ที่ป่าหญ้าด้านหลังคอนโดเพื่อหวังตบตาตำรวจ แต่ตำรวจที่ดักซุ่มรออยู่รวบตัวได้ทันควัน ก่อนคุมตัวไปชี้จุด ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าของร้านทองบอกผู้ก่อเหตุว่า ไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ เพราะพูดจาดี สุภาพ ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ทำหน้าเศร้า พูดว่า ไม่ได้อยากทำแต่ถึงทางตันแล้วจริง ๆ เป็นหนี้นอกระบบจำนวน 20,000 บาท ไม่มีทางเลือก รวบหนุ่ม กระชากสร้อยคอคุณป้ารถ จยย.ล้ม ส่วนโจรคนนี้ก็ไม่รอดเหมือนกัน ทำทีถามทาง ก่อนก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท จากคอ นางนวลจันทร์ อายุ 54 ปี ผู้เสียหายที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา ทำให้ผู้เสียหายล้มหน้าคว่ำได้รับบาดเจ็บ ช่วงเช้าของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ชุดสืบสวน สภ.บางปะกง นำหมายศาลเข้าจับกุม นายฤทธิเกียรติ อายุ 24 ปี ได้ที่โรงงานภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ต้องการเงินไปผ่อนค่างวดรถจักรยานยนต์ และหาซื้อของขวัญให้แฟนวันวาเลนไทน์ จึงขี่รถตระเวนหาเหยื่อ ครั้งแรกก่อเหตุในพื้นที่สเม็ด จังหวัดชลบุรี แต่เป็นทองคำปลอม จนมาเจอนางนวลจันทร์ ได้สร้อยคอทองคำ น้ำหนักแค่ 2 สลึง ไม่ใช่ 1 บาท ขายได้เงิน 18,000 บาท จากนั้นก็ไปวิ่งราวยายคนหนึ่ง ได้เงินสดมาอีก 5,000 บาท ก่อเหตุ 3 ครั้ง ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ตำรวจคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย