ตัดไฟเมียนมา ได้ไม่คุ้มเสีย ยังมีโทรศัพท์-อินเทอร์เน็ต

วันที่ 7 ก.พ. 2568 เวลา 10:34 น.

ตัดไฟเมียนมา เทพไทมองได้ไม่คุ้มเสีย ยังมีสัญญาณโทรศัพท์-อินเทอร์เน็ต โทร.มาหลอกเหยื่อ รัฐบาลต้องมีมาตรการต้องเบ็ดเสร็จเด็ดขาด พุ่งเป้าไปที่แก๊งคอลเซนเตอร์ ตัดไฟชายแดน วันนี้ (7 ก.พ.68) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีรัฐบาลมีมาตรการตัดไฟฟ้าที่ส่งไปยัง 5 พื้นที่ ในประเทศเมียนมา ทำให้หลายฝ่ายเฝ้ามองว่า จะประสบความสำเร็จในการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ได้หรือไม่ แม้แต่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงพื้นที่ไปดูสถานการณ์ด้วยตนเอง นายเทพไท ระบุว่า ตนในฐานะผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง ได้เฝ้าดูผลที่เกิดขึ้นหลังจากการตัดไฟส่งไปประเทศเมียนมาแล้ว เห็นว่ามีผลอยู่บ้าง แต่ยังไม่เห็นผลที่ชัดเจน จึงเห็นว่ามาตรการตัดไฟของรัฐบาลครั้งนี้ แม้จะมีประโยชน์บ้าง แต่เมื่อชั่งน้ำหนักแล้ว น่าจะเกิดผลเสียมากกว่า สำหรับผลได้ มีอยู่ 5ข้อ ดังนี้ 1.ได้ภาพทางการเมือง ว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังกับการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์ 2.ได้ภาพความร่วมมือกับรัฐจีน ที่ส่งระดับผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ มาปักหลักบัญชาการอยู่ที่เมืองไทยหลายวัน ไปดูสถานการณ์ชายแดนที่แม่สอดด้วย 3.ได้ผลทางจิตวิทยา ทำให้ผู้ถูกคุกคามจากแก๊งคอลเซนเตอร์ มีความสบายใจขึ้น  ไม่ต้องหวาดระแวงกับแก๊งคอลเซนเตอร์อีก 4.ได้มีประเด็นให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำไปคุยกับรัฐบาลจีน ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศจีน 5.ได้รับคำชมจากนายสีจิ้นผิง และได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทย ที่ตัดไฟเพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซนเตอร์ ส่วนผลเสียที่ได้รับ มีอยู่ 5 ข้อ ดังนี้ 1.เกิดความเสียหายทางธุรกิจ และเศรษฐกิจการค้าชายแดน ระหว่างไทยกับเมียนมา 2.ทำให้ประชาชนผู้ไม่มีส่วนได้เสีย หรือเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้รับความเดือดร้อนในการใช้ชีวิตประจำวัน  บ้านอยู่อาศัยไม่มีไฟฟ้าใช้ 3.หน่วยงานราชการของเมียนมา และโรงพยาบาล มีผลกระทบต่อผู้ป่วย ห้องผ่าตัด ห้องICU 4.รัฐบาลสูญเสียรายได้ปีละ 600 ล้านบาท ตามข้อมูลของ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 5.รัฐบาลเสี่ยงถูกบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นคู่สัญญา และเป็นบุคคลภายนอก ไม่ได้ทำผิดสัญญา เมื่อถูกตัดกระแสไฟฟ้าย่อมกระทบต่อธุรกิจ ซึ่งอาจจะมีการฟ้องร้องเรียกค่าโง่จากรัฐบาลได้ นายเทพไท ระบุด้วยว่า ถ้าถามว่าการที่รัฐบาลมีมาตรการตัดไฟครั้งนี้ มีผลต่อแก๊งคอลเซนเตอร์หรือไม่ ก็ต้องยอมรับความจริงว่า มีผลบ้างแต่ไม่มากนัก เมื่อชั่งน้ำหนักระหว่างผลได้กับผลเสียแล้ว น่าจะมีผลเสียมากกว่าผลได้  ซึ่งรัฐบาลจะต้องตัดสินใจว่า การแก้ปัญหาแกงคอลเซนเตอร์จากการตัดไฟฟ้าจะหมดไปจริงหรือไม่ “หลังจากตัดไฟไปแล้ว 2 วัน ยังมีแก๊งคอลเซนเตอร์อาละวาดอยู่ แม้แต่ผมก็ยังมีแก๊งคอลเซนเตอร์โทรเข้ามาอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงใด ๆ เลย การตัดไฟน่าจะเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด หรือที่เรียกว่าเกาไม่ถูกที่คัน เพราะต้นเหตุที่แท้จริง น่าจะมาจากการใช้อินเทอร์เน็ต สัญญาณโทรศัพท์ ที่โทรมาหลอกเหยื่อ จึงควรจะตัดสัญญาณโทรศัพท์ ก่อนที่จะตัดกระแสไฟฟ้า” นายเทพไท ระบุว่า รัฐบาลควรจะใช้มาตรการอื่นเพิ่มเติม ในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ ให้ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดมากกว่านี้ การแก้ปัญหาควรโฟกัสไปยังแก๊งคอลเซนเตอร์โดยตรง  เพื่อไม่ให้กระทบกับความเดือดร้อนของประชาชน และสร้างความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ