หนุ่มบ้านเช่าคลั่ง บุกยิงเพื่อนบ้าน 3 คนพ่อแม่ลูกหนีตายสุดชีวิต ก่อนจบปัญหายิงตัวเองดับ

วันที่ 16 ม.ค. 2568 เวลา 08:31 น.

เพื่อนบ้านคลั่ง บุกพังบ้านรัวยิง 3 คนพ่อแม่ลูกหนีตาย ก่อนกลับเข้าบ้านยิงตัวเองดับ ตำรวจยังไม่ทราบแรงจูงใจก่อเหตุ กลางดึกวานนี้ (15ม.ค.68)  ตำรวจสภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีเหตุชายคลั่งใช้อาวุธปืนไล่ยิงเพื่อนบ้านก่อนจะใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองตาย ที่เกิดเหตุภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี  หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ  ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวเฮ้าส์ปลูกติดกัน จุดเกิดเหตุนั้นอยู่ช่วงกลางซอยของหมู่บ้าน มีผู้อาศัย 3 คน ผู้เป็นสามีอายุ 44 ปี ภรรยาอายุ 34 ปี และ ลูกชายอายุ 16 ปี ทุกคนอยู่ในอาการตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รอให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ และ บริเวณที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 2 ปลอก บริเวณประตูเหล็กดัดหน้าบ้านมีร่องรอยการงัด ภายในบ้านชั้น 1 พบหัวกระสุนตกอยู่จำนวน 2 หัว ที่บริเวณหน้าทางเดินชั้น 2ของบ้าน พบเหล็กหมุนยางอะไหล่รถยนต์ตกอยู่ พร้อมปลอกกระสุนจำนวน 3ปลอก ประตูห้องนอนซึ่งทำจากไม้มีร่องรอยการถูกยิง 2 รู และ รอยทุบด้วยประแจไขยางอะไหล่ ส่วนภายในห้องนอนมีร่องรอยการลากตู้เสื้อผ้า และตู้เย็นมาดันประตูห้องไว้  ขณะที่ บ้านหลังข้างกัน บริเวณห้องนอนชั้น 2 บนเตียงนอนพบผู้เสียชีวิต1 คน เป็นผู้ก่อเหตุ และ ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต ทราบชื่อต่อมานายสุรชัย  อายุ 45ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน อาศัยอยู่ใน ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ โดยพบปืนกล๊อกตกอยู่ที่หว่างขา1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไปตรวจสอบ สอบสวนเบื้องต้น ภรรยาเจ้าของบ้าน เล่าว่า ผู้ก่อเหตุได้มาพังประตูหน้าบ้าน ก่อนใช้อาวุธปืนยิงใส่ โดยผู้ก่อเหตุเพิ่งมาเช่าอยู่บ้านหลังติดกันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา  แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุ ได้มายืนที่หน้าบ้าน แล้วพูดว่า “ผมขอโทษนะลุงที่เสียงดังผมจะซื้อกระเช้ามาไหว้” เจ้าของบ้านก็งง เพราะที่นี่ไม่มีลุง แต่ก็ตอบไปว่าไม่เป็นไร กระทั่งวันเกิดเหตุ ป้าเจ้าของบ้านเช่าเดินมาถามว่า  มีปัญหาอะไรกับข้างบ้านหรือเปล่า ทะเลาะอะไรกันไหม ตนเอง ก็ยืนยันว่า ไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน ระหว่างพูดคุยผู้ก่อเหตุเดินออกมาพอดี และ ยื่นโทรศัพท์ให้ป้าคุยกับเพื่อนของเขา ป้าบอกกับปลายสายว่า "เคลียร์ให้แล้วนะ" จากนั้น ผู้ก่อเหตุก็พูดว่า “ผมได้ยินว่าจะพาเพื่อนเอาปืนมายิงหรอ”  เมื่อได้ยินแบบนั้น ตนเองจึงเดินกลับเข้าบ้าน แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังตามเข้ามา แล้วถามหากุญแจรถของตนเอง สร้างความมึนงงให้กับเจ้าของบ้าน แฟนของตนเองจึงบอกไปว่า “ไม่มีนะครับ” ผู้ก่อเหตุจึงบอกว่า “ผมนึกว่าผมลืมไว้ที่นี่โทษทีครับ” จากนั้นก็เดินกลับไป ตนเองรู้สึกท่าจะไม่ดี จึงนำสายล็อกจักรยานมาล็อกประตูหน้าบ้านเอาไว้ กระทั่งเวลา 22.00น. ตนเองได้ยินเสียงคนเขย่าประตูเหล็กหน้าบ้าน จึงเรียกให้แฟนลุก จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ยิงเข้ามา โดยที่ยังยืนอยู่หน้าบ้าน เพราะเข้ารั้วมาแล้ว แต่เข้ามาในตัวบ้านยังไม่ได้  ลูกชายที่นอนอยู่อีกห้องหนึ่ง ได้ยินเสียงและตกใจ รีบวิ่งมาห้องนอนตนเอง ก่อนที่จะใช้ตู้เสื้อผ้า และตู้เย็นมาดันประตูห้องนอนเอาไว้ เพื่อกันผู้ก่อเหตุเปิดเข้ามา จากนั้น ก็ได้ยินเสียงปืนอีกครั้ง ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะกลับไปบ้านเช่าแล้วกลับมาใหม่ พร้อมพังประตูเหล็กเข้าไปในบ้าน โดยเพื่อนบ้านที่เป็นลุงสูงวัยได้ตะโกนบอกว่า คนก่อเหตุเข้าไปในบ้านได้แล้วนะ  เจ้าของบ้าน 3 คน พ่อแม่ลูกจึงช่วยกันดันตู้เสื้อผ้าขวางประตูไว้ ก่อนที่คนก่อเหตุจะเปิดประตูทุกห้อง และ มาที่ห้องนอนที่ตนเองอยู่รวมกัน พยายามใช้เท้าถีบแต่ก็เข้าไม่ได้ ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงใส่จนเป็นรูโหว่ แต่ก็ยังเข้าไม่ได้ ผู้ก่อเหตุจึงเดินกลับบ้านไป เมื่อเสียงเงียบแล้ว ตนเองจึงโทรหาเพื่อนบ้าน เพื่อดูความปลอดภัยด้านล่าง จนทราบว่าผู้ก่อเหตุเข้าไปในบ้านเช่าแล้ว ตนเองจึงวิ่งออกมา และไปหลบที่บ้านเพื่อนบ้าน ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จากนั้นเหตุการณ์ก็สงบลง เจ้าของบ้าน ยืนยันว่า ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน และ ครอบครัวอยู่ที่นี่มานานแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุเพิ่งมาเช่าอยู่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาโดยอาศัยอยู่คนเดียว จึงคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะมีอาการทางจิต ส่วนเจ้าของบ้านเช่า เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุมาขอเช่าและเข้าพักอาศัยเมื่อวันที่ 11ม.ค. ที่ผ่านมา ในราคาเดือน7,000บาท ทำงานอยู่ร้านขายยางรถยนต์แต่ไม่ทราบว่าที่ไหน  ผู้ก่อเหตุ บอกว่า มาอยู่คนเดียว เพราะทะเลาะกับแฟน เครียดมาก เพิ่งเลิกกัน "แต่ยังไงผมก็ต้องอยู่คนเดียวให้ได้" และ ขนของออกมาหมดแล้ว  ขณะที่ คุณลุงวัย 71 ปี ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า หลังผู้ก่อเหตุออกจากบ้านที่เกิดเหตุแล้ว ตนเองได้เข้าไปจับแขนผู้ก่อเหตุไว้ แต่ผู้ก่อเหตุสะบัดหลุด และ ถามว่า “ลุงโทรแจ้งตำรวจหรอ ไม่ต้องยุ่งหลอก เดี๋ยวผมก็ยังตัวตายแล้ว” จากนั้นก็เดินกลับบ้านเช่าไป เวลาผ่านไปไม่ถึง 3 นาทีก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดจากนั้นก็เงียบไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ บันทึกภาพเป็นหลักฐาน สอบปากคำพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐาน และ ให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่งรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อรอญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป