พยาบาลเสียรู้มิจฉาชีพถูกหลอกซ้ำซ้อน สูญเงินกว่า 2.7 ล้าน
วันที่ 15 ม.ค. 2568 เวลา 20:48 น.
ซอกซ้ำหลอกซ้อน คอลเซนเตอร์หลอกเป็นหมอ ทนาย และตร.ไซเบอร์ ตุ๋นพยาบาลสาวลงทุนออนไลน์ และเทรดหุ้น สูญเงินรวมกว่า 2.75 ล้าน วันที่ 15 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางบี นามสมมติ อายุ 48 ปี ชาว จ.อุดรธานี ว่า โดนแก๊งคอลเซนเตอร์ โทรมาหลอกร่วมลงทุนร้านค้าออนไลน์ สูญเงินไปครั้งแรก 1.8 ล้าน ซึ่งแจ้งความไว้แล้วกับ พ.ต.ท.พีระ ราศี สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2567 และล่าสุดถูกหลอกซ้ำไปอีก 9.5 แสนบาท รวม 2.75 ล้าน ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว เงินเก็บทั้งชีวิต ต้องกู้หนี้ยืมสินเพิ่มเติมอีก โดยนางบี เล่าว่า ตนเป็นพยาบาลวิชาชีพ ทำงานที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ต้นเดือนธันวาคม 2567 มีโทรศัพท์เบอร์แปลกโทรมาหา ก่อนจะแนะนำตัวว่าเป็นหมอชื่อเนม เป็นหมอสมอง อยู่ รพ.แห่งหนึ่งในกรุงเทพ ฯ สอบถามว่าต้องการซื้อที่ดิน ที่ จ.นนทบุรี แต่ตนเองไม่ได้มีที่ดินดังกล่าว หลังจากนั้นก็โทรมาหาอีก พร้อมกับขอไลน์ โทรมาพูดคุยสอบถามความเป็นอยู่ ชีวิตส่วนตัว และการทำงาน คุณหมอเนมชักชวนไปขายของออนไลน์ แอป Tik Tok ช็อป ทั้งเสื้อผ้า เครื่องสำอาง น้ำหอม ให้ลงทุน 3 หมื่น ได้กำไร 1 หมื่น ตนหลงเชื่อ จึงโอนเงินไปลงทุน 3 หมื่นบาท ได้คืนมา 1 หมื่นจริง ก่อนจะโอนเงินเพิ่มอีกเรื่อยมา เป็น 4 แสนบาท 7 แสนบาท ก่อนจะอ้างว่าสินค้ายังไม่มา ทำให้ตนรู้สึกเอะใจ เพราไม่ได้สินค้า ตนคิดว่าถูกหลอกแล้วจึงหยุดโอนเงินลงทุน และพบว่าร้านในแอปถูกปิด จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ ต่อมาวันที่ 14 มกราคม 2568 ได้มีเฟซบุ๊กเด้งขึ้นมา ชื่อว่าทนายนันทภัทร ทักข้อความว่า จะอาสาเป็นทนายช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์ สามารถช่วยเอาเงินคืนได้ ด้วยความที่อยากได้เงินคืน จึงเอ็ดไลน์กับทนายความ ต่อมาทนายความ ได้ส่งไลน์ พล.ต.ท.ชลิต ทิพย์ธำรง ตำแหน่งรองผู้กำกับ ตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้ตนติดต่อ ตำรวจแจ้งว่าถ้าจะเอาเงินคืนได้ ต้องเข้าไปเทรดหุ้น ผ่านแอปพิเคชันตนหลอกเชื่อโอนเงินไปให้ 1 แสนบาท ปรากฎว่าได้กำไรกลับคืน 6 หมื่นบาท แต่ต้นทุน 1 แสนบาท ก็ยังคงไว้ในบัญชี จากนั้นคนร้ายหลอกสอบถามจำนวนเงินในบัญชี และหลอกให้โอนลงทุนเพิ่ม ยอมรับว่าตอนนั้นอยากได้เงินทั้งหมดคืน จึงหลงเชื่อโอนให้ แต่สุดท้ายพบว่าเงินทั้งหมดที่หลงเชื่อโอนให้กับมิจฉาชีพ รวมทั้งสิ้น 2.75 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่เก็บหอมรอมริมมาทั้งชีวิต และเก็บไว้รักษาแม่ที่ป่วยติดเตียง รวมถึงเตรียมไว้ให้ลูกสาวเรียนมหาวิทยาลัย ส่วนตัวแล้วคิดว่าหมอเนม ทนายนนทภัทร และ พล.ต.ท.ชลิต เป็นแก็งคอลเซ็นเตอร์แก็งเดียวกัน จึงโทรหาตำรวจภาค 4 ให้ช่วยเหลือ เพราะตนโดนหลอกซ้ำซ้อน ซึ่งธนาคารได้อายัดบัญชีทั้ง 3 บัญชีเรียบร้อย ตนสูญเงินเก็บ 2 ล้าน และเป็นหนี้อีก “อยากให้ตำรวจตามจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย อยากให้เอาพวกมันไปฆ่าทิ้งให้หมด และอยากเตือนให้เป็นอุทาหรณ์ อย่าเชื่อเรื่องการลงทุนทางไลน์และเพจที่เขาแนะนำมาเด็ดขาด จะสูญเงินเก็บมาทั้งชีวิต และยังหนี้เหมือนกับตน โดนหลอกซ้ำซาก จนหมดตัว”