รวบหนุ่มโปแลนด์ หลังใช้มือตีก้นหญิงสาว ขณะอยู่ในร้านสะดวกซื้อ
วันที่ 15 ม.ค. 2568 เวลา 11:39 น.
รวบหนุ่มโปแลนด์ หลังใช้มือตีก้นหญิงสาว ขณะอยู่ในร้านสะดวกซื้อ หลังผู้เสียหายแจ้งความ หนุ่มโปแลนด์ อ้าง ไม่ได้ตีแรง เคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง ไม่เห็นมีใครว่าอะไร และคิดว่าสิ่งที่ทำไม่ใช่ความผิด การกระทำแค่นี้กฎหมายไม่สามารถเอาผิดอะไรได้ เดี๋ยวก็บินกลับประเทศ เมื่อวันที่ 14 ม.ค.68 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันสืบสวนจับกุมตัว นายปิโอเตอร์ อายุ 31 ปี สัญชาติ โปแลนด์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น เกิดต่อหน้าธารกำนัล” (สน.ทุ่งมหาเมฆ) โดยจับกุมตัวได้ที่ บริเวณหน้าห้องพัก ชั้น 36 คอนโดแห่งหนึ่ง ริมถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์กล่าวคือ ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่านสาทร ผู้เสียหายเป็นผู้หญิง กำลังเลือกซื้อสินค้าภายในร้านสะดวกซื้ออยู่ ได้มีผู้ต้องหาเป็นชายชาวต่างชาติ เดินมาตีก้นผู้เสียหายอย่างแรง ผู้เสียหายตกใจ จึงหันมองว่าเป็นใคร ในใจคิดว่าเป็นเพื่อนที่รู้จักมาแกล้งเล่น แต่เมื่อมองไปกลับเป็นชายชาวต่างชาติที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ขณะนั้นผู้เสียหายหันไปดูรอบๆ เห็นลูกค้าคนอื่นๆ และพนักงานร้านสะดวกซื้อยืนจ้องมาที่ผู้เสียหาย ทำให้เธอรู้สึกถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ว่าผู้เสียหายเป็นผู้หญิงไร้ค่า จึงรีบเดินออกจากร้านสะดวกซื้อไปด้วยความอับอาย จากนั้นผู้เสียหายได้ปรึกษาคนรู้จัก จนทราบว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิด จึงเดินทางไปยัง สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อเข้าแจ้งความ แต่ผู้เสียหายไม่ได้ต้องการสิ่งใดนอกจากคำว่า “ขอโทษ” จากผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนหญิง สน.ทุ่งมหาเมฆ จึงออกหมายเรียกผู้ต้องหาคนดังกล่าว และแจ้งผ่านเอเจนท์ที่ผู้ต้องหาเช่าห้องอยู่ เพื่อให้มีชี้แจงและไกล่เกลี่ยให้ผู้ต้องหามาขอโทษผู้เสียหาย ตามที่เธอต้องการ แต่ผู้ต้องหาไม่มา กลับบอกผ่านเอเจนท์ว่า “ตนเองไม่ได้ตีแรง และเคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง ตอนไปเที่ยวสถานบันเทิง ไม่เห็นจะมีใครว่าอะไร และคิดว่าตนเองไม่ได้กระทำความผิด การกระทำแค่นี้กฎหมายไม่สามารถเอาผิดอะไรได้ เดี๋ยวตนเองก็บินกลับต่างประเทศแล้ว” ด้วยคำพูดของผู้ต้องหา ที่ไม่ได้สำนึกกับการทำผิด คิดว่าจะทำแบบนี้กับใครก็ได้ ประกอบกับความอับอายที่ผู้เสียหายรู้สึก จึงแจ้งความประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนหญิง สน.ทุ่งมหาเมฆ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลได้รับประสานให้ช่วยจับกุมตัวผู้ต้องหา จึงสืบสวนและเดินทางไปที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านสาทรที่ผู้ต้องหาพักอยู่ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นผู้กองโชแปง ได้แสดงหมายจับและแจ้งสิทธิผู้ต้องหาเป็นภาษาอังกฤษให้ทราบ จนผู้ต้องหาเข้าใจ จากนั้นจึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาไม่ขอให้การเกี่ยวกับคดี แต่ยอมรับว่าบุคคลตามภาพกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูเป็นตนเองที่เดินไปตีก้นผู้หญิงตามภาพจริง เคยตีก้นลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้งตามสถานบันเทิง แต่ครั้งนี้ที่ไม่ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียกเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย และไม่ผิดกฎหมายหลังจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป