ข่าวดี! “อิสราเอล” เพิ่มโควตาแรงงานไทยปี 2568 อีก 13,000 คน
วันที่ 15 ม.ค. 2568 เวลา 10:13 น.
"พิพัฒน์" เผยข่าวดี “อิสราเอล” เพิ่มโควตาจ้างแรงงานไทย ภาคการเกษตรและปศุสัตว์ ปี 2568 อีก 13,000 คน ส่วนแรงงานไทย 6 คนที่ถูกจับตัวนานกว่า 1 ปี 3 เดือน ยังไม่มีความคืบหน้า วันนี้ (15ม.ค.68) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน หารือข้อราชการร่วมกับ Mr. Avi Dicter (อาวิ ดิคเตอร์) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร ณ นครเยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล โดย Mr. Avi Dicter ได้แจ้งให้ทราบว่า โควตาการจ้างแรงงานไทยในภาคเกษตรเข้ามาทำงานในรัฐอิสราเอลในปี 2568 เพิ่มอีก 13,000 อัตรา ขณะที่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานมีความพร้อมที่จะจัดส่งแรงงานไทยมาทำงานในภาคเกษตรในรัฐอิสราเอล โดยขอให้ฝ่ายอิสราเอลพิจารณาจัดส่งความต้องการแรงงานจากนายจ้างแยกเป็นกลุ่มนายจ้างภาคเกษตร และภาคปศุสัตว์ เพื่อให้กรมการจัดหางานสามารถจัดส่งคนงานได้ตรงความต้องการของนายจ้าง ทั้งยัง ช่วยให้แรงงานไทยได้ทำงานตรงกับความสามารถ ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง มีรายได้ สามารถส่งเงินกลับไปให้ครอบครัวที่เมืองไทยได้มากยิ่งขึ้น และ ยังเป็นการแก้ปัญหาแรงงานหลบหนีนายจ้างไปเป็นแรงงานผิดกฎหมายได้อีกด้วย ซึ่งฝ่ายอิสราเอลเห็นด้วย และพร้อมจะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ PIBA ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักเข้ามาช่วยดำเนินการ ทั้งนี้ ฝ่ายไทยขอให้ฝ่ายอิสราเอลติดตาม แรงงานไทยที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว 6 คน เป็นเวลากว่า 1 ปี 3 เดือน และ ดูแลสิทธิประโยชน์ของนายนิสันต์ มีรัมย์ ที่เสียชีวิตขณะทำงานอยู่ในเขตเมตุลา ทางภาคเหนือของอิสราเอล เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 ด้วย นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ และคณะ ยังได้เดินทางไปที่โมชาฟ Beit Hilkia เพื่อเยี่ยมชมฟาร์ม Leafresh (ฟาร์มปลูกผักไฮโดรโปนิกส์) พร้อมพบปะตัวแทนแรงงานไทย 15 คน ที่ได้เรียนรู้การเกษตรอัจฉริยะ เป็นการผลิตและจำหน่ายผักสดสุขภาพที่ปลูกในโรงเรือนที่มีลักษณะเฉพาะการใช้เทคโนโลยี จุดวัดค่าคุณภาพน้ำซึ่งควบคุมโดยระบบคอมพิวเตอร์ ประมวลผล คุมอุณหภูมิ ใส่ปุ๋ยและสารอาหาร และ เยี่ยมชมฟาร์ม Agrivoltaics เกษตรพลังงานสีเขียวในทุ่งหญ้าโดรัล บนพื้นที่ประมาณ 94 ไร่นายจ้าง จ้างแรงงานทำงานในฟาร์มเกษตร และฟาร์มวัว รวม 74 คนแรงงานไทยมีรายได้ ประมาณเดือนละ กว่า 60,000 บาท (ยังไม่รวมค่าล่วงเวลา) โดยสามารถส่งเงินกลับให้ครอบครัวที่เมืองไทยประมาณเดือนละ 30,000 -40,000 บาท