ลอบวางระเบิด พ่อ-ลูก ครู ตชด.เสียชีวิต 2 นาย

วันที่ 14 ม.ค. 2568 เวลา 16:31 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คนร้ายลอบวางระเบิดครูตำรวจตระเวนชายแดน พ่อเป็น “พันตำรวจโท” ทำหน้าที่ครูใหญ่ พลีชีพพร้อมลูกชายที่เป็นนายดาบตำรวจ ลอบวางระเบิด พ่อ-ลูก ครู ตชด. เสียชีวิต 2 นาย เมื่อเวลา 09.50 น. ตำรวจ สภ.ศรีสาคร รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด บนถนนศรีสาคร-จะแนะ พื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านไอกือเด ตำบลศรีบรรพต จังหวัดนราธิวาส จุดเกิดเหตุเป็นถนนสายรอง รถวิ่งสวนทางกัน สองข้างทางเป็นสวนและป่า พบรถกระบะสีขาวพลิกคว่ำจากแรงระเบิด กลางถนนยังพบหลุมขนาดใหญ่จากแรงระเบิด พบผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นตำรวจ ตชด. ทราบชื่อคือ พันตำรวจโท สุวิทย์ ช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 56 ปี ครูใหญ่โรงเรียน ตชด.ตืองอ และดาบตำรวจ โดม ช่วยเทวฤทธิ์ อายุ 35 ปี ครูสอนวิชาเกษตร และเป็นคุรุทายาทครู ตชด. รุ่น 8 คุรุทายาท คือ ครูที่เป็นศิษย์เก่าโรงเรียน ตชด. แล้วได้สิทธิ์การสอบเป็นครู ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นพ่อลูกกัน จากการบินโดรนสำรวจจากฝ่ายทหาร พบว่ารถกระบะคันดังกล่าวเป็นรถของโรงเรียน ตชด.บ้านตืองอ ซึ่งพ่อ-ลูกขับรถออกมากัน 2 คน เพื่อจะไปซื้อของในตลาด ตรวจสอบเบื้องต้น คนร้ายใช้ระเบิดบรรจุถังก๊าซ น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 20 กิโลกรัม ใช้วิธีลากสายแล้วจุดชนวนเมื่อทั้งคู่ขับรถผ่าน ก่อนจะเดินมาจ่อยิงซ้ำทั้งคู่เป็นเหตุให้เสียชีวิต อาลัย “ครูใหญ่” เป็นที่รักของทุกคน สิบตำรวจโท ยุสรอน มามะ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 เป็นเจ้าหน้าที่ชุด รปภ. โรงเรียนบ้านตืองอ และเป็นเพื่อนของดาบตำรวจโดม ที่เสียชีวิต บอกกับทีมข่าวว่าครูใหญ่สอนที่โรงเรียนบ้านตืองอมานานกว่า 20 ปี ที่โรงเรียนบ้านตืองอมีครู ตชด. ทั้งหมด 13 นาย นักเรียน 120 คน ก่อนเกิดเหตุ ทั้ง 2 คนขับรถออกไปซื้ออุปกรณ์ก่อสร้าง เพื่อมาซ่อมแซมโรงเรือนเลี้ยงไก่ ก่อนจะถูกคนร้ายที่ดักซุ่มอยู่ จุดชนวนระเบิดสังหาร สิบตำรวจโท ยุสรอน บอกด้วยว่าครูใหญ่เป็นที่รักของทุกคนในชุมชนและเป็นที่รักของนักเรียน เปิดประวัติน่าสรรเสริญ “สองพ่อลูก” ครู ตชด. สำหรับประวัติของ พันตำรวจโท สุวิทย์ เป็นครูใหญ่โรงเรียน ตชด.บ้านตืองอ เคยได้รับรางวัลผู้ปิดทองหลังพระ จากงานประกาศรางวัล คนค้นฅน อวอร์ด ครั้งที่ 9 พลังของแผ่นดิน เมื่อปี 2560 เว็บไชต์ของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เคยเผยแพร่บทสัมภาษณ์ของ พันตำรวจโท สุวิทย์ เมื่อครั้งเป็นร้อยตำรวจโท โดยเริ่มต้นการเป็นครู ตชด. สอนหนังสือในชั้นอนุบาล 3 ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านละโอ อำเภอศรีสาคร ชุมชนกลางป่าลึกของเทือกเขาคีรีบรรพต โดยได้สิทธิ์สอบบรรจุครูคุรุทายาท เมื่อสอบได้จึงเลือกทำงานในพื้นที่นราธิวาสที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากมา ส่วนลูกชายที่ปัจจุบันเป็น “คุรุทายาท” สมัครใจทำงานเป็น ครู ตชด. เพื่อช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ เช่นเดียวกับพ่อผู้เป็นต้นแบบ ข้อมูลจากตำรวจพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่อีโอดีที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและสภาพศพ พบว่า พันตำรวจโทสุวิทย์ มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ 1 นัด และบาดแผลจากสะเก็ดระเบิดแสวงเครื่องที่บริเวณร่างกายหลายแห่ง ส่วนลูกชายถูกยิงที่ศีรษะเช่นกัน ส่วนจุดเกิดเหตุพบว่าคนร้ายใช้วิธีขุดเจาะเป็นท่อลอดผิวถนน ลึก 1 เมตร กว้าง 2 เมตร พบสายไฟฟ้าลากยาวเข้าไปในป่ารกทึบ มีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบในถังแก๊สปิกนิกตกกระจายเกลื่อน หลังเกิดเหตุคนร้ายยังได้ขโมยอาวุธปืนขนาด 11 มม. ของพันตำรวจโทสุวิทย์ และปืนพก ขนาด .357 ของบุตรชายไปด้วย รวม 2 กระบอก ก่อนอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป เหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการกระทำของสมาชิกกลุ่มก่อเหตุรุนแรง เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความปั่นป่วน ในช่วงที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ในวันที่ 16 มกราคมนี้ ด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งข้อมูลสิทธิประโยชน์เบื้องต้น กรณีการเสียชีวิตของนายตำรวจทั้ง 2 ท่าน โดย พันตำรวจโทสุวิทย์ ได้เงินสวัสดิการและเงินช่วยเหลือ โดยประมาณ 3,519,970 บาท เลื่อนเงินเดือนกรณีพิเศษไม่เกิน 7 ขั้น และเลื่อนยศสูงขึ้นเป็น พลตำรวจเอก ส่วน ดาบตำรวจโดม ได้รับเงินสวัสดิการและเงินช่วยเหลือ โดยประมาณ 2,722,970 บาท เลื่อนเงินเดือนกรณีพิเศษไม่เกิน 7 ขั้น และเลื่อนยศสูงขึ้นเป็น พลตำรวจตรี ด้วยความทุ่มเทและเสียสละ เพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนด้อยโอกาส ในพื้นที่ทุรกันดารห่างไกล และเสี่ยงภัยอันตราย ทำให้ได้รับการเสนอชื่อ เป็นครูผู้สมควรได้รับพระราชทาน “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี”และผ่านการพิจารณาให้ได้รับรางวัลในระดับ “ครูยิ่งคุณ” ประจำปี 2558 ของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และกระทรวงศึกษาธิการ อย่างไรก็ตาม ร่างของ 2 พ่อลูกที่เสียชีวิต ทางผู้บังคับบัญชาและครอบครัว จะได้นำกลับบ้านเกิดที่อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง เพื่อประกอบพิธีตามหลักศาสนาอิสลามต่อไป.