พระและอดีตชี เริงรักลานพญานาค
วันที่ 14 ม.ค. 2568 เวลา 11:03 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง - วงการผ้าเหลืองสะเทือนอีก อดีตแม่ชี แฉสัมพันธ์สวาท กับเจ้าอาวาสวัด ในจังหวัดมุกดาหาร นับ 10 ปี พฤติกรรมขั้นเริงรักกันครั้งแรก บริเวณลานพญานาค ซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือของชาวบ้านทางภาคอีสาน นอกจากนี้ยังมีการแฉแช็ตลับ ระหว่างเจ้าอาวาสกับแม่ชี เนื้อหาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ ต่อมา เจ้าอาวาส ออกมายอมรับว่า ทั้งแช็ตและคลิปเสียงเป็นของอาตมาจริง อ้างว่าแม่ชี ป่วยทางจิต จึงยอมพูดคุยในลักษณะนั้น เพื่อเป็นการรักษาบอกว่า แม่ชี พยายามสร้างเรื่องเท็จ ทำให้วัดและพระเสื่อมเสีย พระพล เจ้าอาวาส ที่ถูกกล่าวหา พร้อมคณะลูกศิษย์จำนวน 50 คน เดินทางมาถึงยังวัดเหล่าต้นยม จังหวัดมุกดาหาร เข้าชี้แจง ประเด็นฉาว กับคณะสงฆ์ผู้ปกครอง พระพล ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม บอกว่า ไม่กังวล เพราะไม่ใช่เรื่องจริง ก่อนที่ลูกศิษย์จะช่วยกันตัวออกไป อดีตแม่ชี คู่กรณีของพระพล ถูกเรียกมาให้ปากคำ ช่วงเช้า นานกว่า 2 ชั่วโมง เจ้าตัวได้มอบหลักฐานต่าง ๆ ให้กับคณะสงฆ์ มีพระครูวชิรธรรมพินิต เจ้าคณะอำเภอนิคมคำสร้อย เป็นประธานในการสอบปากคำร่วมคณะสงฆ์ประมาณ 10 รูป อดีตแม่ชี เล่าว่า เมื่อปี 2557 เธอไปดูดวงที่วัด ในจังหวัดมุกดาหาร เจอกับ พระพล เจ้าอาวาส ทักว่า เธอมีเคราะห์ ต้องอยู่ที่วัดเพื่อปฏิบัติธรรม 15 วัน จากนั้นก็ออกอุบายว่า อดีตชาติเราเป็นสามี ภรรยากัน ต้องมาอยู่วัดแก้กรรม ปี 2558 เธอจึงบวชชี ถูกหลอกให้ทำพิธีต่าง ๆ เลยเถิดมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง 10 ปี พระพล ให้เงินใช้เดือนละหลักพันบาทถึงหลักหมื่นบาท เมื่อรู้สึกผิด พยายามจะตีตัวออกหาก พระพล กลับด่าทอรุนแรง ขู่จะฆ่าตัวตาย ส่วนบรรดาลูกศิษย์ ก็จะมาพูดข่มขู่ จนเดือนเมษายน 2567 เธอจึงสึก ออกมาจากวัด แฉพฤติกรรมของ พระพล แต่ทาง พระพล กลับหาว่าเธอเป็น บ้า อ้างว่าคลิปเสียง เป็นการสอนธรรม จนเมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา เธอจึงเข้าแจ้งความ พระพล อดีตแม่ชี ยืนยันว่าที่ออกมาแฉเรื่องนี้เพราะสำนึกผิด อยากทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อไถ่บาป พร้อมยืนยันว่าเธอไม่ใช่ผู้ป่วยทางจิต ขณะเพจดัง เจ๊ม้อย V+ โพสต์ข้อความ ระบุ "สาวเผยสัมพันธ์กับอดีตเจ้าอาวาส เจ้าตัวยอมรับ บรรเลงเพลงสวาทกันจริง ครั้งแรก จัดกลางลานพญานาคในวัด แถมพระเปย์ฉ่ำ โอนไวกว่าแสง" ผู้สื่อข่าวไม่รอช้า ลงพื้นที่ไปสำรวจตรวจสอบ บริเวณลานพญานาค ที่มีการกล่าวอ้างการสัมพันธ์สวาทกันบริเวณลานพญานาค ซึ่งพบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นลานหินเป็นพื้นที่โล่ง มีต้นไม้ปลูกล้อมตกแต่งให้เกิดความสวยงาม ส่วนอีกมุมหนึ่ง ในพื้นที่ดังกล่าวมีพญานาคทั้งสีเขียว และสีทองแดง มีการตกแต่งด้วยพันธ์ุไม้ ปูพื้นสนามหญ้าแลดูสวยงามร่มรื่น ห่างจากที่พักของแม่ชีประมาณ 50 เมตร แต่เท่าที่สังเกต ก็ไม่เห็นมุมไหน ที่จะเป็นสถานที่ลับตาคน และยังอยู่ติดกับถนนทางเข้าวัด แต่ในเวลากลางค่ำกลางคืนไม่รู้ว่ามีไฟส่องสว่างเพียงพอหรือไม่ หรือ อาจจะดูซึ่งไม่ใช่สถานที่ลับตาคน ด้าน เจ้าคณะอำเภอนิคมคำสร้อย ต้นสังกัด บอกว่า จะต้องสอบพยานฝั่ง พระพล เพราะมีการกล่าวอ้างว่า ให้ลูกศิษย์พิมพ์แช็ตคุยกับแม่ชี ต้องรวบรวมหลักฐานอีกประมาณ 7 วัน จึงจะตัดสินได้ว่าจะออกมาแบบไหน ตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ขณะที่ผู้สื่อข่าวติดต่อไปทาง พระพล และอดีตแม่ชี ปฏิเสธให้ข้อมูลเพิ่มเติม