แก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท
วันที่ 13 ม.ค. 2568 เวลา 06:45 น.
เช้านี้ที่หมอชิต - แก๊งคอลเซนเตอร์มามุกใหม่อีกแล้ว รอบนี้เนียนมาก ใช้เบอร์โทรของธนาคารหลอก ครูสาวตกเป็นเหยื่อ สูญกว่า 1.2 ล้านบาท ครูสาว อายุ 42 ปี เล่าด้วยเสียงสั่นเครือ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท ให้กับแก๊งคอลเซนเตอร์ เพราะเบอร์ที่โทรเข้ามา เหมือนเบอร์คอลเซนเตอร์ของธนาคารชื่อดัง เตือนว่า มือถือของผู้เสียหายกำลังถูกมิจฉาชีพแฮ็ก ดูดเงินออกจากบัญชี ต้องรีบทำตามที่ธนาคารแนะนำ ก่อนที่เบอร์ดังกล่าวจะโทร.มา ผู้เสียหายเพิ่งจะวางสายจากแก๊งคอลเซนเตอร์ที่อ้างตัวเป็น อบต. ผู้เสียหายเคยซื้อที่ดินไว้ อ้างว่า มีปัญหาที่ทับซ้อนกับที่ดินข้างเคียงรู้ข้อมูลที่ดินของผู้เสียหายทุกอย่าง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่ามีปัญหาจริง แต่สุดท้ายระแคะระคายว่าเป็นมิจฉาชีพ จึงวางสายไป จากนั้นมือถือของผู้เสียหาย เริ่มช้า ค้าง เมื่อมีเบอร์เหมือนเบอร์ธนาคารโทรมาบอกว่ามือถือถูกมิจฉาชีพแฮ็ก แนะนำให้เข้าไปตั้งค่ารักษาความปลอดภัยบัญชี ตรวจสอบแอปฯ แปลกปลอมในมือถือ จึงเชื่อโดยสนิทใจรีบทำตาม เมื่อปลายสายบอกให้รีบโอนเงินออกจากบัญชีธนาคาร ไปยังบัญชีชื่อบุคคล ที่ธนาคารจัดไว้ป้องกันมิจฉาชีพ แล้วค่อยไปแจ้งความ นำสลิปการโอนเงินไปรับเงินคืนที่ธนาคาร เธอโอนเงินไป 5 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1.2 ล้านบาท หลังตั้งสติได้ ติดต่ออายัดบัญชี แจ้งความ และย้อนมาดูแอปฯ แปลกปลอมในมือถือ พบจริง ๆ แต่เธอไม่รู้ว่า ติดตั้งตั้งแต่ตอนไหน เพราะลูกสาวมักจะยืมมือถือไปเล่นเป็นประจำ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด บอกว่า เคยได้ยินมาบ้างว่า มิจฉาชีพใช้เบอร์ธนาคาร แต่เพิ่งเห็นหลักฐานเคสนี้เคสแรก ต้องเตือนประชาชน ไม่ว่าใครจะโทรมาอ้างอะไร ห้ามโอนเงินไปบัญชีบุคคลอื่นโดยเด็ดขาด