คนขับปาเจโร ปฏิเสธไม่ได้เมา แต่เบาหวานขึ้นตา
วันที่ 10 ม.ค. 2568 เวลา 16:29 น.
ปาเจโร ตีนผี พุ่งชนเด็ก ป. 1 เสียชีวิต พ่อบาดเจ็บสาหัส ด้านคนขับเปิดใจทั้งน้ำตา ปฏิเสธไม่ได้เมา แต่โรคประจำตัวกำเริบ อยากขอขมา พร้อมเยียวยาชดใช้ความสามารถ จากกรณีรถปาเจโรสีดำ เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ของ 2 พ่อลูก ทำให้นายชุมพล อายุ 55 ปี ผู้เป็นพ่อได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนเด็กชายชนากรณ์ อายุ 6 ขวบ นักเรียนชั้น ป.1 เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านรับซื้อของเก่าริมถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 58 หลังเกิดชาวบ้านช่วยกันจับกุมคนขับไว้ได้ ล่าสุดวันนี้ ( 10 ม.ค.68) ที่ สน.สายไหม ช่างเล็ก คนขับรถปาเจโร เปิดใจทั้งน้ำตา พร้อมเล่าช่วงเย็นเมื่อวาน (9 มค.68) ตนได้นำรถของลูกค้าออกมาทดสอบ เพราะตนเองเป็นช่างซ่อมรถ แต่ปรากฏว่าเมื่อขับมาใกล้ ซอยสุขาภิบาล 5 เริ่มมีอาการตาพล่ามัว อาการวูบ จากนั้นก็ไม่ได้สติอีกเลย กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งในตอนแรกตนเองก็ยังไม่รู้ว่าขับรถชนคน แต่เมื่อรถที่ตนเองขับมาหยุด และได้สติ ก็ยอมรับว่าตกใจ และไม่ได้จะหลบหนี ซึ่งในขณะที่ถูกตำรวจควบคุมตัวนั้น มีกลุ่มพลเมืองดีตามรถยนต์ที่ตนเองขับไป และทางพลเมืองดีเข้าใจว่าตนเองมีอาการเมา และตนเองก็ถูกชกเข้าที่บริเวณเบ้าตาได้รับบาดเจ็บ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ได้เสพสารเสพติด แต่มีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน โรคไขมันสูง โรคไตเรื้อรัง และโรคซีด มีประวัติการรักษา ขณะเกิดเหตุเหมือนน้ำตาลในเลือดตก ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยมีอาการแบบนี้เกิดขึ้น แต่เวลารู้ตัวว่าเริ่มมีอาการ จะต้องหาขนมหวาน หรือของหวานกินเพื่อเพิ่มน้ำตาลในเลือด แต่เมื่อวานนี้อาการหนักกว่าทุกครั้ง และไม่รู้จริง ๆ ว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เมื่อวานนี้ตนและภรรยา ได้ติดต่อไปยังญาติของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ เพื่อขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเสียใจ และไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น จึงอยากเข้าไปร่วมงานศพ และอยากขอขมาน้องผู้เสียชีวิต ส่วนเรื่องการชดใช้เยียวยา ตนเองจะเยียวยาอย่างเต็มที่ ตามกำลังที่ตนเองมี ส่วนความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ. รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก. สน.สายไหม เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาให้การว่า ขับรถมาแต่จู่ ๆ โรคประจำตัวก็กำเริบ เบาหวานขึ้นตาทำให้วูบ สายตาพร่ามัว ก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น และได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดซึ่งมีผลเป็น 0 ตรวจปัสสาวะก็ไม่เจอสารเสพติด เบื้องต้น ได้มีการแจ้ง 3 ข้อหา ฐาน ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส, ขับรถโดยประมาทไปเหตุให้ผู้อื่นรับความเสียหาย ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะให้ประกันตัวโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมหลบหนีมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งสามารถติดต่อได้