อึ้ง ! เหยื่อโผล่เพิ่ม ขบวนการจีนต้มจีนแลกคริปโท สูญ 4.5 ล้าน
วันที่ 10 ม.ค. 2568 เวลา 11:11 น.
อึ้ง ! ขบวนการจีนต้มจีน ตุ๋นแลก-ซื้อ เหรียญคริปโท โผล่อีกที่มักกะสัน เหยื่อสูญเงิน 4.5 ล้านบาท ตำรวจทั้ง 2 พื้นที่อยู่ระหว่างเร่งประสานข้อมูล ส่วนมูลค่าความเสียหาย 3 คดี รวม 17.5 ล้าน วันนี้ ( 10 ม.ค.68 ) ความคืบหน้ากรณี ที่คนจีนหักซื้อขายเงินดิจิทัลกับคนจีนกันเอง โดยโบรกเกอร์ซึ่งเป็นคนกลางการซื้อขายเชิดคริปโตไป ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายมีปัญหากันเองถึง 3 คน เหตุเกิดเมื่อวาน ( 9 ม.ค.68) ในท้องที่ สน. ห้วยขวาง 2 คดี และในท้องที่ สน. มักกะสัน อีก 1 คดี รวมความเสียหายทั้งหมดเป็นเงิน 17.5 ล้านบาทนั้น พันตำรวจเอก ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยความคืบหน้าว่า ในส่วนของคดีที่ สน. ห้วยขวางทั้ง 2 คดีนั้น ตำรวจยึดเงินของกลางกลับคืนมาได้ทั้งหมด คือ 13 ล้านบาท และเก็บไว้เป็นของกลาง จนกว่าการทำสำนวนคดีแล้วเสร็จ จึงคืนให้แก่ผู้เสียหาย โดยสรุปทั้ง 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นายเฉินซึ่งเป็นโบรกเกอร์ในการซื้อขายแลกเปลี่ยน เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง โดยก่อนหน้านี้นายเฉินจะเป็นตัวกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการซื้อขายกันได้จริง โดยผู้ขายจะต้องโอนเงินดิจิทัลเข้าบัญชีนายเฉินก่อน เนื่องจากให้ราคาถูกกว่า ซึ่งทำให้ผู้ซื้อสามารถนำไปขายทำกำไรต่อได้ โดยแผนประทุษกรรมก่อนหน้านี้ มีการซื้อขายกันได้จริงโดยเริ่มต้นจากการซื้อขายหลักแสนบาท ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายที่เคยให้นายเฉินเป็นโบรกเกอร์เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ครั้งต่อมาจึงซื้อในจำนวนที่มากขึ้น ๆ จนกระทั่งครั้งล่าสุดเมื่อวาน หลังจากที่ผู้ขายได้โอนเงินท่านเข้าบัญชีนายเฉิน แต่นายเฉินกลับไม่โอนเงินดิจิทัลให้กับผู้ซื้อ จึงทำให้เกิดปัญหาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง เงินดิจิทัลจึงไปตกอยู่ในมือนายเฉิน จากการตรวจสอบล่าสุด พบว่านายเฉิน เดินทางออกจากประเทศไทยไปมาเก๊า เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่าบงการอยู่ที่มาเก๊า และเมื่อประสานข้อมูลไปยัง สน.มักกะสัน เพื่อตรวจสอบอีกคดีที่เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน วันเดียวกัน ซึ่งมีความเสียหายเป็นเงิน 4.5 ล้านบาท ปรากฏว่าโบรกเกอร์ไม่ใช่นายเฉินที่เป็นต้นเหตุในคดีที่เกิดขึ้นใน สน. ห้วยขวาง โบรกเกอร์เป็นคนละคนกัน สำหรับรถโตโยต้า อัลพาร์ด ที่ใช้ก่อเหตุ ชิงเงินห้าล้านบาท ตำรวจได้นำมาจอดเก็บไว้ที่ สน. ห้วยขวาง เมื่อคืนเจ้าที่พิสูจน์หลักฐานได้มาตรวจสอบเก็บหลักฐานภายนอกรถเบื้องต้นแล้ว หากได้กุญแจรถมาก็จะประสานให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบภายในรถอีกครั้ง ส่วนการสอบปากคำพยาน มีการสอบไปหลายปากแล้ว โดยในวันนี้ได้นัดให้เจ้าของอาคารย่านยานาวา ที่เจ้าของรถโตโยต้า อัลพาร์ด ไปเช่าเปิดออฟฟิศมาให้ปากคำ