สุดวุ่น ! ปมชาวจีนซื้อ-ขายคริปโทฯ

วันที่ 10 ม.ค. 2568 เวลา 07:01 น.

สนามข่าว 7 สี - สุดวุ่น นึกว่าจะเป็นคดีชาวจีนชิงเงิน หรือปล้นเงิน ปรากฏว่าเป็นคดี "นายหน้าตัวกลางชาวจีน" นัดคนซื้อ-คนขายแลกเปลี่ยนเงินสดเป็นคริปโทฯ พอโอนคริปโทฯ ให้คนกลางปุ๊บก็หนีไป ปล่อยให้คนซื้อกับคนขายทะเลาะกันวุ่นวายไปหมด เมื่อวาน (9 ม.ค.) เกิดเหตุการณ์ลักษณะคล้ายจะชิงเงิน วิ่งราวเงิน หรือ ปล้นเงิน ระหว่างชาวจีน ปรากฏว่าข้อมูลที่ สนามข่าว 7 สี ได้มาล่าสุดเมื่อกลางดึก พบว่าเป็นการหลอกเชิดคริปโทฯ ซึ่งไม่ได้เกิดเหตุแค่ 2 จุด ตามที่ปรากฏในข่าว แต่พบว่าเกิดเหตุถึง 3 จุด คือ 1.ภายในบ้านหลังหนึ่ง ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 12 เขตห้วยขวาง 2.อาคารสำนักงานแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 และ 3.ย่านมักกะสัน ท้องที่ สน.มักกะสัน คดีที่ 1 ชายชาวจีนเอาเงินสด 5 ล้านบาท ไปนัดแลกเปลี่ยนเป็นคริปโทฯ ที่บ้านในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 12 เขตห้วยขวาง แล้วอีกฝั่งที่มีด้วยกัน 3 คน (เจ้าของคริปโทฯ) อ้างว่าได้โอนเหรียญคริปโทฯ ให้ไปแล้ว แต่ฝั่งผู้เสียหาย (เจ้าของเงินสด) ก็ตรวจสอบพบว่าคริปโทฯ ยังไม่เข้ากระเป๋า (Wallet) จึงเกิดการทะเลาะกัน ทำให้ฝั่งที่มีกัน 3 คน ชิงเอาเงินสดขึ้นรถตู้อัลพาร์ดสีขาวหลบหนีไป ส่วนผู้เสียหายไล่ติดตามไม่ทัน จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ คดีที่ 2 เกิดขึ้นช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ผู้เสียหายเป็นเจ้าของเหรียญคริปโทฯ โดยนัดกับฝ่ายเจ้าของเงินเพื่อแลกเป็นเงินสด 8 ล้านบาท นัดส่งมอบภายในอาคารสำนักงานแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 และพอทั้ง 2 ฝ่าย เจอหน้ากัน เจ้าของคริปโทฯ ก็บอกว่าโอนเหรียญเข้าไปยังกระเป๋า (Wallet) คนกลางคนหนึ่งที่ชื่อว่า "นายเฉิน" แต่ปรากฏว่าเหรียญไปไม่ถึงเจ้าของเงิน อีกฝ่ายจึงดึงเงินกลับ จึงมาแจ้งความกับตำรวจ และสุดท้ายทั้ง 2 ฝ่าย ก็มาตกลงและคุยกันดี ๆ ก่อนที่สุดท้ายก็จบลงด้วยดี คดีที่ 3 เหตุเกิดที่ย่านมักกะสัน ลักษณะคล้ายกับ 2 คดีแรก คือ นัดหมายแลกเปลี่ยนเงินสด 4.5 ล้านบาท กับคริปโทฯ ผ่านคนกลางแต่ไม่ได้คริปโทฯ จนผู้ซื้อ-ผู้ขายทะเลาะกัน เมื่อตำรวจ 2 สน. ประสานทั้งข้อมูล และให้ผู้เสียหายดูภาพถ่ายคนกลาง จึงทราบว่าทั้ง 3 เหตุการณ์ มีคนกลางคนเดียวกัน คือ "นายเฉิน" ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง บอกว่า นายเฉิน เป็นคนกลางที่กลุ่มผู้ซื้อ-ผู้ขายทั้ง 3 จุด ติดต่อทำธุรกิจซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินคริปโทฯ กันมาหลายครั้ง และไม่เคยมีปัญหา แต่ที่ผิดสังเกต คือ เมื่อวาน "นายเฉิน" ไม่ได้เดินทางไปด้วย จากนั้นเมื่อฝั่งผู้ซื้อและผู้ขายมาจุดนัดพบ ก็ได้ติดต่อให้ "นายเฉิน" โอนคริปโทฯ เข้ากระเป๋าของฝั่งผู้ซื้อ แต่ปรากฏว่าทั้ง 3 จุด ไม่มีใครได้คริปโทฯ ไปสักเหรียญเดียว จนทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย ทะเลาะกันเอง ซึ่งจนถึงตอนนี้ ตำรวจยังเร่งตามหาตัว "นายเฉิน" อยู่ โดยสรุปแล้วตอนนี้คดีที่อาคาร ย่านพระราม 9 เคลียร์กันด้วยดีแล้ว ส่วนคดีที่ย่านมักกะสัน สน.มักกะสัน ต้องติดตามความเคลื่อนไหวอีกทีในวันนี้ แต่ที่ยังไม่เคลียร์ คือ การติดตามไล่ล่าตัว "นายเฉิน" ตัวกลางสุดแสบที่เชิดคริปโทฯ ไป รวมถึงคดีชิงเงิน 5 ล้านบาท ขึ้นรถตู้อัลพาร์ด ที่ประชาราษฎร์บำเพ็ญ เพราะตำรวจยังไม่ได้ตัวผู้ก่อเหตุ สำหรับความเคลื่อนไหวคดีที่ประชาราษฎร์บำเพ็ญ เมื่อคืนชุดสืบสวนตามแกะรอยสัญญาณ GPS ที่อยู่กับกระเป๋าใส่เงิน จนไปพบรถอัลพาร์ดจอดอยู่ที่สวนสุขภาพแต้จิ๋ว เขตยานนาวา และไล่กล้องวงจรปิดจนไปเจออาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ในซอยไตรธาดา เขตสาทร ซึ่งเป็นบ้านที่กลุ่มผู้ก่อเหตุเช่าอยู่อาศัย จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น ก่อนจะพาพยานและนำรถคันที่ใช้หลบหนีกลับไปที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อสอบสวนขยายผลหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี คุณพิธพงษ์ ผู้สื่อข่าวสนามข่าว 7 สี ลงพื้นที่ไปคุยกับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ก็บอกว่า ผู้เสียหายมาจ้างให้เขาขี่รถไล่ตามไป ก็สังเกตเห็นที่แขนเหมือนมีอะไรผูกไว้ ระหว่างพยายามขี่รถไล่ตามจากแยกห้วยขวาง มาจนถึงหน้าห้างฯ เซ็นทรัลพระราม 9 ก็ถูกอีกฝ่ายเบียดจะชนอยู่ 2 ครั้ง จนถึงหน้าห้างฯ ผู้เสียหายก็ลงจากรถไปพยายามหยุดรถผู้ก่อเหตุ ส่วนตนก็โทร.แจ้งตำรวจ และถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน แต่รถคันที่ตามก็หนีรอดไปได้ ทีมข่าวได้คุยกับผู้เสียหายที่โรงพัก ก็บอกยังไม่พร้อมให้ข้อมูล เราพยายามจะสอบถามว่า ผู้ก่อเหตุได้ทำร้ายร่างกายหรือเปล่า ผู้เสียหายได้ให้ล่ามพูดว่า "ยังไม่ให้ข้อมูล" แต่จากการสังเกต ข้อมือ แขนของผู้เสียหาย พบว่ามีรอยแดง อย่างไรก็ตาม ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่ประชาราษฎร์บำเพ็ญไม่พบการทำร้ายร่างกาย หรือพันธนาการกันแต่อย่างใด