สลด ยายวัย 75 ปี หนาวตาย นอนผิงไฟคลายหนาว เช้ามากลายเป็นศพ

วันที่ 8 ม.ค. 2568 เวลา 14:19 น.

วันนี้ (8 ม.ค. 68) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ณัฐวัตร ละดาวัลย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ที่กระท่อมไม่มีเลขที่ บ้านโคกสีทน หมู่ 2 ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ด้านหน้ามีเพิงพักมุงด้วยสังกะสี ไม่มีฝากั้น ใช้สำหรับเก็บถุงของเก่า ซึ่งกองอยู่ในเพิงพักและด้านหน้าจำนวนมาก ภายในเพิงพักพบศพ นางเต็มหลอด อายุ 75 ปี นอนห่มผ้านวมอยู่บนฟูก รองพื้นด้วยสังกะสี ข้างศพมีกะละมังสำหรับก่อไฟผิง แต่ไฟมอดดับแล้ว จากการชันสูตรไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย คาดว่าโรคประจำตัวกำเริบ เสียชีวิตมาประมาณ 3-4 ชั่วโมง จากการสอบสวน นายจรัส อายุ 45 ปี ลูกชาย บอกว่า แม่มีลูก 4 คน ตนเป็นคนที่ 3 แต่ติดต่อลูกคนอื่นไม่ได้ แม่มาอาศัยอยู่กับตน โดยแม่มีอาชีพเก็บของเก่าขาย ส่วนตนทำงานก่อสร้าง ซึ่งตนสร้างกระท่อมอยู่กับลูกและแม่ซึ่งป่วยเป็นโรคเบาหวาน ก่อนหน้านี้แม่ก็ยังแข็งแรงดี ก่อนเกิดเหตุวันที่ 6 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา แม่ขี่รถซาเล้งไปตลาดซื้อกับข้าวมาทำอาหารเย็นกินตามปกติ ตกกลางคืนประมาณ 4-5 ทุ่ม แม่บอกว่าอากาศหนาว ไม่อยากนอนในบ้าน อยากนอนอยู่เพิงพัก ตนก็หาฟืนมาก่อไฟผิงจะได้อบอุ่น แล้วนำที่นอนและผ้าห่มมาให้แม่ 2 ผืน พอตื่นเช้าวันที่ 7 ม.ค. 68 แม่ก็มีแต่นอน บอกว่าไม่มีแรง และบอกว่าหนาว ไม่ลุกเดิน มีแต่ลุกนั่ง ไม่กินข้าว จึงต้มน้ำร้อนให้ดื่ม คิดว่าถ้าแม่อาการไม่ดีขึ้น วันนี้จะพาแม่ไปโรงพยาบาล พอตื่นเช้ามาก็พบว่าแม่เสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวเบาหวาน ประกอบกับช่วงนี้อากาศหนาวเย็นอุณหภูมิประมาณ 12-17 องศาเซลเซียส และมีลมหนาวพัด โดยผู้เสียชีวิตออกมานอนผิงไฟที่เพิงพัก ซึ่งไม่มีฝากั้น คาดว่าตกดึกไฟที่ก่อไว้จะหมอดดับ ทำให้ร่างกายหนาวเย็น อาการป่วยกำเริบ ไม่ได้รีบไปโรงพยาบาล จึงทำให้เสียชีวิตดังกล่าว