แม่น้ำตาซึม ร้องทนายดังช่วยลูก ถูกจับฐานอนาจาร

วันที่ 8 ม.ค. 2568 เวลา 11:25 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - แม่ขอความเป็นธรรมให้ลูกชาย หลังถูกจับข้อหาอนาจารเด็ก ม.1 ทั้งที่เป็น LGBTQ+ ซึ่งทุกคนในหมู่บ้านรับรู้กันดี สุดท้าย ศาลให้ประกันตัววงเงิน 100,000 บาท แม่ถึงกับน้ำตาซึม เพราะไม่มีหลักทรัพย์ไปช่วยเหลือลูกชาย แม่น้ำตาซึม ร้องทนายดังช่วยลูก ถูกจับฐานอนาจาร นี่เป็นน้ำตาของคนเป็นแม่ หลังลูกชาย ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.6 (อีกสองเดือนกำลังจะเรียนจบแล้ว) ถูกอัยการจังหวัดนางรอง ส่งฟ้องศาลจังหวัดนางรอง และให้ประกันตัว โดยต้องวางหลักทรัพย์ 100,000 บาท แต่แม่ไม่มีเงิน เพราะมีอาชีพหาเช้ากินค่ำ รับจ้างทั่วไป จึงไปขอความช่วยเหลือจาก นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น เพราะลูกชาย ถูกกล่าวหาว่า กอด จูบ และจับอวัยวะเพศของเด็กหญิง ชั้นม.1 อายุ 12 ขวบ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 21 สิงหาคม และ 9 กันยายน 2567 ในตำบลสำโรงใหม่ และตำบลละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ทนายอั๋น จึงพาแม่ไปปรึกษาแนวทางการช่วยเหลือที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ต้องใช้เวลาการพิจารณาประมาณ 1 เดือน ทำให้แม่น้ำตาซึม เพราะกลัวลูกจะติดคุก โดยระหว่างที่ปรึกษากันอยู่นั้น ปรากฎว่า เจ้าหน้าที่ศาลได้โทรศัพท์มาหาแม่ บอกว่า สามารถให้กำนันใช้ตำแหน่งประกันตัวได้ พร้อมวางเงิน 5,000 บาท ส่วนเรื่องคดี ให้ไปต่อสู้กันในชั้นศาล แม่ กล่าวว่า ได้สอบถามลูกชายว่าได้ทำจริงหรือไม่ ลูกชายยืนยันว่า แค่กอดคอหยอกกันเล่นกับน้องที่โรงอาหารในโรงเรียนเท่านั้น ไม่เคยพาน้องไปกระทำอนาจาร ซึ่งแม่เชื่อในคำพูดของลูก เพราะลูกชายเป็น LGBTQ+ มีหลักฐานเป็นคลิปลูกชายกับแฟนผู้ชายที่เคยถ่ายลงในติกตอก ซึ่งเคยพามาแนะนำตัวกับแม่ที่บ้านด้วย อีกทั้งคนในหมู่บ้าน และเพื่อนที่โรงเรียนทราบดี เม่งัดหลักฐานสู้ ยืนยันลูกไม่ได้อนาจารเด็ก อย่างที่บอกว่า เรื่องคดีต้องไปสู้กันในชั้นศาล ซึ่งเเม่ได้นำคลิปเสียงที่ลูกชายบันทึกไว้ ขณะโทรศัพท์ไปสอบถามจากครูคนหนึ่งในโรงเรียน ซึ่งในคลิปเสียง ลูกบอกกับครูว่า "ไม่เคยมีอะไรกับน้อง" แต่ครูกลับบอกกับลูกว่า "ถ้าเลิกยุ่งกับนักเรียนหญิงก็จบ ลูกก็ตอบว่าเลิกยุ่งแล้ว"   หลังจากที่ลูกชายได้รับการประกันตัว ก็เดินทางไปเรียนหนังสือตามปกติ แต่ต้องไปรายงานตัวกับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทุก 15 วัน โดยศาลได้นัดอีกครั้งในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568