เจอแล้ว ซิงซิง เดินทางกลับไทย หลังหายไป 4 วัน
วันที่ 8 ม.ค. 2568 เวลา 07:01 น.
สนามข่าว 7 สี - ตามหาข้ามประเทศ นักแสดงชาวจีน "ซิงซิง" เดินทางเข้าประเทศไทย (3 ม.ค.) เพื่อแคสงานแสดงกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในไทย แต่ขาดการติดต่อจากแฟนสาว พบสัญญาณสุดท้ายไปอยู่ที่ชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณด่านแม่สอด จนพลังโซเชียลฯ ไทย-จีน ออกช่วยกันตามหา ทราบว่า "ซิงซิง" ข้ามไปฝั่งเมียนมา ที่สุดตำรวจไทยช่วยเหลือได้สำเร็จในสภาพปลอดภัย นาย หวังซิง หรือ "ซิงซิง" อายุ 32 ปี นักแสดงชาวจีน ซึ่งตกอยู่ในอันตราย แม้จะไม่ใช่คนไทย แต่ตำรวจไทยโดยชุดสืบสวน สภ.แม่สอด จังหวัดตาก เป็นตัวกลางช่วยประสาน และข้ามไปรับตัวจากพื้นที่อิทธิพลของกลุ่มชาติพันธุ์ ฝั่งเมียนมา มาได้สำเร็จ จากนั้นพาตัวมาสอบปากคำที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ระหว่างที่คุยกับตำรวจและเจ้าหน้าที่ นายหวังซิง ได้ยกมือไหว้ขอบคุณที่ช่วยเหลือตนเองได้สำเร็จ สภาพล่าสุด นาย หวังซิง อยู่ในสภาพร่างกายอิดโรย และหัวโล้นเนื่องจากเจ้าตัวบอกว่า ถูกจับโกนผม และมีรอยตำหนิ สีแดงเลือดที่ขาข้างซ้าย ตำรวจอยู่ระหว่างสอบถามว่าเป็นรอยอะไร ถูกทำร้ายหรือไม่ นายหวังซิง เล่าว่า ถูกชาวจีนด้วยกันพูดคุยกันผ่านแอปพลิเคชันวีแชต ใช้ชื่อบริษัทสื่อบันเทิงชื่อดังของไทย ทักมาหา ชวนทำงาน จึงหลงเชื่อ นั่งเครื่องบินจากสนามบินผู่ตง มาลงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยนั่งรถยนต์ที่ถูกส่งมาจอดรอรับหน้าสนามบินฯ ขับพาไปยัง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก แล้วมีคนมารับอีกทอดพานั่งเรือข้ามแดน แต่พอไปถึงฝั่งเมียนมา ตนเองถึงได้รู้ว่าถูกหลอก แต่ไม่กล้าขัดขืนกลัวถูกทำร้าย ตามคำให้การ นายหวังซิง สอดคล้องกับข้อมูลตำรวจ พบเส้นทางการเดินทางเข้าไทยเมื่อ 3 มกราคม 2568 เวลา 03.16 น. เที่ยวบิน VZ3525 เซี่ยงไฮ้-กรุงเทพ ทางด่าน ตม.ทอ.สุวรรณภูมิ โดยเดินออกทางชั้น 2 ประตู 3 ตรงไปขึ้นรถยนต์เก๋ง สีเทา เดินทางถึง อำเภอแม่สอด ประมาณ 10.30 น. ได้เปลี่ยนนั่งรถกระบะ สีเทา ซึ่งข้อมูลรถทั้งหมดตรงกับตำรวจเซี่ยงไฮ้ที่ได้รับแจ้งจากญาติ เนื่องจาก นายหวังซิง ถ่ายรูปส่งให้ดูเป็นระยะจนสัญญาณขาดหายไป พอสอบปากคำเบื้องต้นเสร็จ ก่อน นายหวังซิง ขึ้นเครื่องบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเข้ากรุงเทพฯ ได้ให้สัมภาษณ์เพียงสั้น ๆ ว่า ขอบคุณทางการไทยที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่า ตนเองปลอดภัยดี เวลา 19.00 น. นายหวังซิง เดินทางถึงกองบินตำรวจดอนเมือง พร้อมกับ พลตำรวจเอก ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งลงพื้นที่ติดตามคดีนี้ด้วยตัวเอง และรับตัว นายหวังซิง กลับมากรุงเทพฯ เปิดเผยว่า กระบวนการต่อไปต้องส่งไปที่ ตม.ศูนย์ฝึกอบรม ตรวจคนเข้าเมืองดอนเมือง เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมให้ได้ข้อมูลมากที่สุด นำไปขยายผลว่ามีคนไทยเกี่ยวข้องหลอกลวงผู้เสียหายด้วยหรือไม่ ก่อนส่งตัวให้สถานทูตฯ จีน พากลับประเทศ โดยทราบว่าทางครอบครัวผู้เสียหายดีใจมากที่ทางการไทยสามารถช่วยเหลือผู้เสียหายได้สำเร็จ ส่วนข้อครหาจากสังคมว่า ปฏิบัติ 2 มาตรฐานหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีประเด็นคนไทยถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน แต่การช่วยเหลือล่าช้านั้น พลตำรวจเอก ธัชชัย ยืนยันว่า ปกติตำรวจทำงานรวดเร็ว และให้ความสำคัญในทุกคดี ทั้งคดีคอลเซนเตอร์ และค้ามนุษย์ อยู่แล้ว ขณะเดียวกัน พลตำรวจเอก ธัชชัย ยังเคลียร์ปมที่คนสงสัยเรื่องรอยแผลสีแดง ลักษณะช้ำเลือดที่พบบริเวณขาซ้าย นายหวังซิง คล้ายถูกทำร้ายในระหว่างถูกหลอกไปฝั่งเมียนมาหรือไม่ ยืนยันว่า ไม่ใช่รอยแผลถูกทำร้าย แต่เป็นรอยปาน มีติดตัวผู้เสียหายมาตั้งแต่เกิด มีข้อมูลที่ นายหวังซิง ได้ให้การกับตำรวจ ระบุว่า ผู้ก่อเหตุตั้งแอ็กเคานต์ในแอปพลิเคชัน วีแช็ต โดยแอบอ้างใช้ชื่อบริษัทสื่อบันเทิงชื่อดังในประเทศไทย ติดต่อมาหา อ้างตัวเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ เมื่อวาน (7 ม.ค.) บริษัทที่ถูกอ้างถึงได้ชี้แจงว่า ถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง การที่ นายหวังซิง หายตัวไป ทางบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ได้เชิญมาแคสงานแต่อย่างใด เพจเฟซบุ๊ก ลุยจีน หนึ่งในโซเชียลมีเดียโพสต์กระจายข่าว นายหวังซิง หายตัวปริศนาไปตั้งแต่ต้น โดยโพสต์อัปเดตการช่วยเหลือให้แฟนเพจฯ ที่เฝ้าติดตามได้ทราบเป็นระยะ ๆ โดยล่าสุดเป็นภาพ นายหวังซิน ตอนลงเครื่องบินถูกพาตัวเข้ากรุงเทพฯ พร้อมกับตำรวจ เช่นเดียวกับแฟลตฟอร์มออนไลน์ (Weibo) ยอดนิยมในประเทศจีน เมื่อคืนทีมข่าวเข้าตรวจสอบ พบมีสมาชิกผู้ใช้แฟลตฟอร์มดังกล่าวจำนวนไม่น้อย โพสต์รูปภาพ นายหวังซิง ในสภาพถูกโกนผม หลังจากทางการไทยข้ามไปช่วยเหลือ นายหวังซิง ออกมาได้ในสภาพปลอดภัย