วิธีผูกพร้อมเพย์ รับ 10,000 เฟส 2 ผู้สูงอายุได้ 1 คน 1 สิทธิ

วันที่ 6 ม.ค. 2568 เวลา 11:35 น.

โอนแน่ตรุษจีนนี้ เงิน 10,000 บาท เฟส 2 กลุ่มผู้สูงอายุได้ 1 คน 1 สิทธิ ตรวจสอบวิธีผูกพร้อมเพย์ ทำอย่างไร ? เงิน 10,000 บาทเฟส 2 "ดิจิทัลวอลเล็ต" อัปเดตล่าสุด กลุ่มผู้สิทธิที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ และผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ จะได้รับเงินช่วงตรุษจีนนี้ หรือประมาณวันที่ 29 ม.ค.68 ซึ่งคาดจะมีผู้ได้รับสิทธิราว 4 ล้านคน คิดเป็นวงเงินงบประมาณไม่เกิน 40,000 ล้านบาท โดยจะจ่ายเงินแก่กลุ่มเป้าหมายจำนวน 10,000 บาทต่อคน อ่านข่าว : เห็นชอบ! แจก 10,000 เฟส 2 คาดเข้าบัญชีพร้อมเพย์ ม.ค.68 เงิน 10,000 บาท เฟส 2 ใครได้รับบ้าง ? สำหรับเงิน 10,000 บาทเฟส 2 กลุ่มเป้าหมายคือ "ผู้สูงอายุ" ที่ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ และผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ ซึ่งกำหนดดังนี้ 1.ประชาชนที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐสำเร็จ 2.มีอายุตั้งแต่ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ 15 ก.ย. 67 3.รายได้ไม่เกิน 840,000 บาท เงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท 4.ผ่านคุณสมบัติโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต และผ่านการยืนยันตัวตนแล้ว 5.ไม่เป็นกลุ่มเป้าหมายตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ เงิน 10,000 บาท เฟส 2 ได้รับเป็น "เงินสด" เงิน 10,000 บาทเฟส 2 รัฐบาลโอนให้เป็นเงินสด ผ่านพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน โดยหากผู้สูงอายุท่านใด ยังไม่ได้ดำเนินการผูกพร้อมเพย์ สามารถทำได้ผ่าน 3 ช่องทาง คือ -ไปติดต่อกับสาขาธนาคารที่มีบัญชีไว้ -ผ่านตู้เอทีเอ็ม -ผ่านโมบายแบงกิ้ง (Mobile Banking) ตรวจสอบว่าตนเองลงทะเบียนพร้อมเพย์ไว้แล้วหรือยัง และลงทะเบียนไว้ที่ธนาคารใด ได้หรือไม่ สำหรับพร้อมเพย์นั้น สามารถผูกได้ 2 แบบ คือเบอร์โทรศัพท์มือถือ และหมายเลขบัตรประชาชน ซึ่งบัญชีรับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะต้องเป็นบัญชีที่ผูกกับพร้อมเพย์ ที่ใช้หมายเลขบัตรประชาชน ในการลงทะเบียนเท่านั้น ซึ่งธนาคารออมสิน ได้แนะนำวิธีตรวจสอบไว้ดังนี้ 1. กรณีลูกค้าติดต่อผ่าน call center เจ้าหน้าที่จะพิสูจน์ตัวตนของลูกค้าและสามารถตอบได้ว่า ลูกค้าได้ลงทะเบียนไว้กับธนาคารแล้วหรือไม่(โดยไม่บอกข้อมูลของธนาคารอื่น) และสามารถแนะนำลูกค้าให้ตรวจสอบข้อมูลด้วยตนเอง ด้วยวิธีการดังนี้ -ลูกค้าอาจใช้ Internet/Mobile Banking ของธนาคารที่ใช้บริการทำการตรวจสอบโดยสมัครลงทะเบียนอีกครั้ง ระบบของหลายธนาคารจะมีการตอบกลับว่าได้ลงทะเบียนไว้แล้ว และบอกด้วยว่าลงไว้กับธนาคาร -ลูกค้าอาจจะไปที่สาขาที่ตนเองต้องการลงทะเบียน และลงทะเบียนอีกครั้ง(ต้องมีหลักฐานแสดงตัวตน) ระบบงานที่สาขาจะสามารถให้ข้อมูลในกรณีที่ลงทะเบียนซ้ำว่าลงทะเบียนไว้แล้วที่ธนาคารใด และสามารถแจ้งลูกค้าได้ 2. ในกรณีต้องแก้ปัญหาให้ลูกค้า และลูกค้าแจ้งความประสงค์จะทราบข้อมูลว่าลงทะเบียนพร้อมเพย์ไว้แล้วแล้วที่ใดผ่าน call center ธนาคารต้องมีวิธีการพิสูจน์ตัวตนและขอความยินยอมจากลูกค้าในการเรียกดูข้อมูลส่วนตัว และจัดเจ้าหน้าที่ call center / เจ้าหน้าที่ส่วนกลาง ที่สามารถดูข้อมูลในระดับที่ลึกขึ้นเพื่อให้ข้อมูลแก่ลูกค้า ขอบคุณคลิปจาก สำนักประชาสัมพันธ์เขต 7 กรมประชาสัมพันธ์