สจ.จอย เมีย สจ.โต้ง เข้าให้ปากคำกองปราบฯ เพิ่มเติม

วันที่ 2 ม.ค. 2568 เวลา 16:07 น.

ตำรวจกองบังคับการปราบปราม เรียก “สจ.จอย” ภรรยาของ “สจ.โต้ง” เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เพิ่มเร่งสางคดีสังหารโหด คาบ้านพัก โกทร นายก อบจ.ปราจีนบุรี จากกรณีเกิดเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันภายในบ้านพัก จ.ปราจีนบุรี ของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร นายก อบจ.ปราจีนบุรี นักการเมืองคนดังในท้องที่ เป็นเหตุให้นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ อดีต สจ.โต้ง ปราจีนบุรี อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นลูกบุญธรรม ถูกยิงเสียชีวิต หลังเกิดเหตุการณ์ได้มีการโอนสำนวนคดีมายังกองบังคับการปราบปราม ล่าสุดวันที่ 2 มกราคม 68 พนักงานสอบสวนได้เรียก น.ส.ณภาภัช หรือ สจ.จอย ภรรยาของ สจ.โต้ง เข้าให้ปากคำพร้อมกับ นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ หลังรับมอบสำนวนคดีมาจากตำรวจภูธรภาค 2  ในเบื้องต้นทางสภ. เมืองปราจีนบุรี ได้มีการสอบปากคำสจ.จอยไปแล้วแต่ไม่ได้ลงรายละเอียดลึก โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนคดีสังหารสจ.โต้ง ซึ่งมี พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน จึงจะต้องเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำใหม่ให้ครบถ้วน และรัดกุมมากกว่าเดิม นอกจากสจ.จอยแล้ว จะมีการเรียกบุคคลอื่นเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมได้หรือไม่นั้น  ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ คณะกรรมการสอบสวนคดีดังกล่าว ซึ่งวันนี้ทันทีที่สจ.จอยเดินทางมาถึงที่กองบังคับการปราบปรามก็ได้เดินทางขึ้นไปพบพนักงานสอบสวนที่บริเวณชั้น 4 โดยที่ไม่ได้พบเจอกับสื่อมวลชน แต่ทนายความให้ข้อมูลว่าจะขอขึ้นไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำก่อน นอกจากนี้ยังมีลูกน้องของสจ.จอย และสจ.โต้ง เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปรามด้วยเช่นเดียวกัน แต่ไม่รู้ว่าพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำด้วยหรือไม่ ด้านทนายนิติศักดิ์ ระบุว่า หลังจากที่กองปราบฯ รับโอนสำนวนคดีมา คาดว่าจะมีการตรวจสำนวนภายในคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และน่าจะพบว่ามีประเด็นใดที่ต้อสอบเพิ่มเติมบ้าง จึงทำให้ในวันนี้เรียกตัว สจ.จอย เพื่อเข้ามาสอบปากคำ เพราะเป็นภรรยา น่าจะรู้รายละเอียด ข้อมูลในคดีมากกว่าคนอื่น นอกจากนี้ทนายนิติศักดิ์ ยังระบุว่า ต้องดูรายละเอียดทั้งหมด ทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ว่ามีส่วนรู้เห็นในประเด็นไหนบ้างในฐานะพยาน ซึ่งตนได้มีการพูดคุยกับสจ.จอยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้คลายความกังวลลงไปหลังจากที่กองบังคับการปราบปรามมีการรับคดีมาดูแล เพราะมั่นใจการทำงานของตำรวจกองปราบ ฯ ว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีว่าในคดีนี้ ใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งเบื้องต้นกองปราบฯ ได้มีการขอพยานหลักฐานอะไรเพิ่มเติมจากสจ.จอย เพราะก่อนหน้านี้กองปราบฯ ก็ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแต่ละจุด จึงเชื่อว่าข้อมูลน่าจะครบถ้วนแล้ว ส่วน ”รองอุ๊“ จะมีการเรียกมาสอบปากคำเพิ่มหรือไม่ ทนายความ ระบุว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วน “ดาว“ ที่เป็นลูกเขยนายสุนทรที่อยู่ในบ้านได้มีการสอบปากคำไปแล้วพร้อมบอกว่าได้สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมดแล้ว  ซึ่งเบื้องต้นทางกฎหมายจะต้องสอบไว้ให้เป็นพยานก่อนส่วนในอนาคตจะเป็นผู้ต้องหาหรือไม่นั้นจะต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่า มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่