ยายอายุ 84 ปี ร้องไห้แทบขาดใจ หลังรู้ข่าวหลานอายุ 22 ปี ถูกมือปืนอายุ 15 ปี ยิงเสียชีวิตกลางดึกคืนสิ้นปี
วันที่ 1 ม.ค. 2568 เวลา 16:27 น.
ยายอายุ 84 ปี ร้องไห้แทบขาดใจ หลังทราบข่าวหลานชายอายุ 22 ปี ถูกยิงเสียชีวิตกลางดึก เพื่อนคนตายเผย กลุ่มคนร้ายดักยิงดื้อ ๆ ไม่เคยรู้จักกับมือปืนมาก่อน ตำรวจรวบมือปืน 15 ปี มาสอบสารภาพซื้อปืนมา 2 พันบาท อ้างป้องกันตัว วันที่ 1 ม.ค.68 หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุด อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ นำร่างที่ไร้วิญญาณของนายธนทัต หรือนัท อายุ 22 ปี มาส่งที่บ้านพื้นที่ ต.ประเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านของคุณยายหนู อายุ 84 ปี ยายของผู้เสียชีวิต หลังถูกวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งยิงขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เมื่อคุณยายหนู เห็นศพหลานตัวเองถึงกับร่ำไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด เนื่องจากนางหนู มีหลานชายเพียงคนเดียวและเลี้ยงมาด้วยตนเอง คุณยายหนู เล่าว่า ตอนหัวค่ำหลานบอกว่าจะไปเคาต์ดาวน์กับเพื่อนในหมู่บ้าน ตนไม่ว่าอะไรเพราะเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ตอนดึกมามีคนมาแจ้งว่า หลานถูกยิงเสียชีวิต ตกใจมากทำอะไรไม่ถูก จึงให้เพื่อนบ้านพาไปดูที่โรงพยาบาล พบว่าหลานเสียชีวิตจริง ๆ ยอมรับว่าเสียใจมากเพราะตนมีหลานเพียงคนเดียว ตอนนี้ไม่อยากได้อะไรแล้ว อยากให้คนก่อเหตุตายตามไปด้วยกับหลานชาย ชีวิตไม่เหลืออะไรอีกแล้ว นายนพวัฒน์ อายุ 22 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิตเล่าว่าพวกตน 6 คนขี่รถจักรยานยนต์ไปเที่ยวดูรถแห่ที่อีกหมู่บ้านหนึ่ง เวลาประมาณ 23.30 น.เพื่อนบอกว่าจะรีบกลับไปเคาต์ดาวน์ที่บ้านที่นัดกันไว้ เมื่อขับรถมาตามทางถนนสาธารณะระหว่างบ้าน ดงย่อ- หนองขุนพรม ต.ปะเคียบ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์สวนมาด้วยกัน ประมาณ 4-5 คัน ยิงใส่ตนซึ่งขับนำหน้ารถเพื่อนที่ตาย แต่กระสุนไม่โดน จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังอีก 2 นัด เพื่อนที่เสียชีวิตคิดว่ากระสุนของกลุ่มคนร้ายน่าจะหมด จึงจอดรถแล้วพยายามเข้าไปต่อสู้แต่โดนยิงสวน ถูกกลางอกซ้ายกระสุนตัดขั้วหัวใจเสียชีวิตในที่เกิดเหตุดังกล่าว ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน สภ.คูเมือง อ.คูเมือง ได้ตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดมาได้ 8 คน หนึ่งในนั้นคือนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ชาว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ พร้อมอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ซึ่งเป็นคนสารภาพว่าเป็นคนยิง เบื้องต้นนายเอ ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนยิงจริง สาเหตุเพราะเห็นผู้ตายวิ่งเขามาหมายจะทำร้าย จึงใช้ปืนที่พกมายิงไปนัดเดียว แต่ไม่รู้ว่าโดนตรงไหน ส่วนปืนตนซื้อมาในราคา 2,000 บาท ตอนที่ไปอยู่กรุงเทพฯ ตำรวจตรวจสอบอาวุธปืน พบว่าเป็นปืนไทยประดิษฐ์ แต่มี 2 ลำกล้อง คือปืนใส่กระสุนปืนลูกซองได้ และอีกลำกล้องหนึ่งใช้กระสุนขนาด.38 ได้ โดยผู้ตายน่าจะพอเข้าใจเรื่องปืนว่าเสียงที่ดังขึ้นเป็นปืนลูกซอง ซึ่งส่วนใหญ่จะยิงได้นัดเดียว เมื่อเสียงปืนสงบลง ผู้ตายจึงวิ่งเข้าไปหามือปืนหวังต่อสู้ จึงโดนยิงสวนด้วยลำกล้องขนาด .38 กระสุนตัวขั้วหัวใจเสียชีวิตดังกล่าว หลังสอบสวนนำตัวส่ง พ.ต.ท.ชนะมาร เต็นปักษี สารวัตร(สอบสวน) สภ.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพรบ.อาวุธปืน