ล่าตัวผู้ต้องสงสัย กระชากพวงมาลัยรถทหาร จนท. ดับ 1 เจ็บ 3
วันที่ 26 ธ.ค. 2567 เวลา 08:17 น.
คุมพื้นที่ล่าตัว พบตัวจับกุมได้ทันที ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงเชื่อมโยงเหตุรุนแรงหลายคดี แย่งพวงมาลัยรถทหาร จนรถเสียหลักพุ่งชน เจ้าหน้าที่ดับ 1 เจ็บ 3 ความคืบหน้ากรณีผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ทราบชื่อ คือ นายฮัมดี โตะมะ ผู้ต้องสงสัย ขัดขืนแย่งพวงมาลัยรถระหว่างควบคุมตัว ในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 3 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.67 ขณะที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดปัตตานี เข้าบังคับใช้กฎหมายต่อบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่ ตำบลตะบิ้ง อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี คือ นายฮัมดี ซึ่งเป็นบุคคลต้องสงสัยมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลายเหตุการณ์ ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัว นายฮัมดีไปซักถามข้อมูลที่ศูนย์ซักถามหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี จากผลการซักถาม พบมีความเชื่อมโยงการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่หลายคดี ประกอบด้วย เหตุลอบวางระเบิดโดยใช้รถประกอบระเบิดแสวงเครื่อง ในพื้นที่ อำเภอปานาเระ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 24 ต.ค.67 เหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 446 ในพื้นที่ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 14 พ.ย.67 และเหตุปล้นเงินพนักงานร้านสะดวกซื้อ หน้าธนาคาร สาขาปาลัส จำนวนเงิน 1.2 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 พ.ย.67 วานนี้ (25 ธ.ค.67) เวลา 19.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายฮัมดี จากศูนย์ซักถามหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 เดินทางไปยัง ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจส่วนหน้า โดยใช้เส้นทางหมายเลข 418 เมื่อเดินทางมาถึงพื้นที่ ตำบลคอลอตันหยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี นายฮัมดีได้ขัดขืนและดึงพวงมาลัยรถยนต์ทำให้รถประสบอุบัติเหตุตกข้างทาง และได้หลบหนีไป ส่วนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ จำนวน 3 นาย และเสียชีวิต 1 นาย ประกอบด้วย 1. ร้อยโท ธงภักดิ์ ศุกรวัชรินทร์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณสะโพก ปัจจุบันรักษาตัวที่ โรงพยาบาลปัตตานี 2. สิบโท ชวลิต กิตติพันธ์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ ปัจจุบันรักษาตัวที่ โรงพยาบาลปัตตานี 3. อาสาสมัครทหารพราน ณัฐวุฒิ อุ่นหล้า ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขน ปัจจุบันรักษาตัวที่ โรงพยาบาลปัตตานี 4. อาสาสมัครทหารพราน ไพโรจน์ ปราบปราม ได้รับบาดเจ็บบริเวณคอและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ และเร่งติดตามตัวนายฮัมดี เพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด