สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่จังหวัดตาก เป็นวันที่ 3

วันที่ 25 ธ.ค. 2567 เวลา 20:03 น.

เวลา 08.25 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์อาคารหอพรรณไม้ ณ โครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งสำนักงาน กปร. ร่วมกับกรมป่าไม้ จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นอาคารศึกษา วิจัย และเก็บตัวอย่างพรรณไม้ของป่าตะวันตก เป็นอาคาร 2 ชั้น สามหลัง รูปทรงหลังคาจั่ว มีสะพานและทางเดินเชื่อมต่อกัน คล้ายกลุ่มหมู่บ้านในแม่สอด ภายในอาคาร ประกอบด้วย ห้องตัวอย่างหอพรรณไม้, ห้องเก็บตัวอย่างพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เฟิร์น กล้วยไม้ และห้องศูนย์ข้อมูลพืช โดยจะเริ่มก่อสร้างในเดือนมกราคม 2568 มีกำหนดให้แล้วเสร็จในปี 2570 โอกาสนี้ ทรงติดตามการจัดสร้างสวนพฤกษศาสตร์ โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งมีพระราชดำริให้จัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมพรรณไม้ ฟื้นฟูป่าต้นน้ำลำธาร และสภาพดินที่เสื่อมโทรม สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนเป็นผู้รักษาป่า และอยู่กับป่าอย่างกลมกลืน ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง แบ่งพื้นที่เป็น 5 โซน ประกอบด้วย พื้นที่อ่างชุมเหมือง, อาคารพิพิธภัณฑ์และอาคารประกอบ, พื้นที่ปลูกป่าคืนระบบนิเวศ, พื้นที่ก่อสร้างสระเก็บน้ำ และทางเข้า-ออกโครงการฯ โดยในห้วงปี 2566 ถึง 2567 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ปลูกป่าในพื้นที่ที่เคยทำเหมือง 49 ไร่  รวบรวมพรรณไม้หายากในผืนป่าตะวันตกและพรรณไม้เฉพาะถิ่น มีจำนวนเพิ่มขึ้น 6 วงศ์ 15 สกุล 28 ชนิด และดูแลพรรณไม้พระราชทาน ซึ่งนำไปปลูกในพื้นที่โครงการฯ ตามที่ได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตไว้ 1,786 ต้น เพื่อฟื้นฟูป่าและระบบนิเวศ ในพื้นที่โครงการฯ และบริเวณโดยรอบ และทรงรับฟังรายงานการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่สังกะสี ของมูลนิธิสังกะสีผาแดง เพื่อสนองแนวพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในด้านการดูแลฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม และเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำเหมืองแร่สังกะสี อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ โดยจะเริ่มก่อสร้างควบคู่ไปกับอาคารหอพรรณไม้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569 เวลา 12.47 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนแม่จะเราวิทยาคม อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก ซึ่งเดิมเป็นสาขาของโรงเรียนแม่ระมาดวิทยาคม ตั้งแต่ปี 2533 ต่อมากระทรวงศึกษาธิการ ประกาศจัดตั้งเป็นโรงเรียนแม่จะเราวิทยาคม เมื่อปี 2536 เปิดสอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง 6 มีเขตพื้นที่บริการ 13 หมู่บ้าน เช่น บ้านแม่จะเราสองแคว, บ้านแม่จะเราบ้านทุ่ง และบ้านทุ่งมะขามป้อม ปัจจุบันมีนักเรียน 534 คน โรงเรียนได้เพิ่มโอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียนในถิ่นทุรกันดาร ได้มาอาศัยพักนอน ตั้งแต่ปี 2556 ปัจจุบันมีนักเรียนพักนอน 82 คน  โรงเรียนฯ ได้เข้าร่วมโครงการทหารพันธุ์ดี "ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย" ตามพระราชดำริ ซึ่งเป็น 1 ใน 13 โรงเรียนในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดน จังหวัดตาก ที่กองบังคับการควบคุม หน่วยเฉพาะกิจราชมนู และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 เข้ามาให้ความรู้ และช่วยสนับสนุน ส่งเสริมการปลูกผักปลอดสารเคมี และเลี้ยงสัตว์แบบปลอดภัย เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยดำเนินกิจกรรมในรูปแบบฐานการเรียนรู้ จำนวน 20 กิจกรรม อาทิ การเพาะถั่วงอก, โรงเพาะชำเมล็ดพันธุ์ผัก, แปลงปลูกผัก 4 จุด 129 แปลง, สวนมะละกอ, หลุมพอเพียง, การปลูกต้นหม่อนใบและหม่อนผล, การปลูกผักเลื้อยค้าง, การเลี้ยงไก่ไข่ และไก่ประดู่หางดำ, การเลี้ยงกบและปูนา รวมทั้งการทำปุ๋ยหมักไม่กลับกอง โดยใช้วัตถุดิบที่เป็นอินทรีย์วัตถุทางการเกษตรในพื้นที่ อาทิ ซังข้าวโพด ฟางข้าว และขยายผลสู่ชุมชนในโครงการ "บ้านนี้มีรักปลูกผักกินเอง" โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย อาทิ เกษตรอำเภอแม่ระมาด โครงการทหารพันธุ์ดี มณฑลทหารบกที่ 310 โครงการทหารพันธุ์ดี ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่จะเรา ในการนี้ ทอดพระเนตรกิจกรรมทางวิชาการ เช่น การผ้าทอกะเหรี่ยง ภูมิปัญญาการทอผ้ากี่เอว ด้วยเทคนิคที่มีเอกลักษณ์เฉพาะชาวกะเหรี่ยง ซึ่งทางโรงเรียนพยายามรักษาวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่, โครงการบำบัดน้ำเสีย เพื่อปรับสภาพน้ำที่ใช้ในโรงเรียนให้มีคุณภาพดีขึ้นก่อนปล่อยลงสู่สระน้ำชุมชน โอกาสนี้ ประทับรถรางพระที่นั่ง ทอดพระเนตรการดำเนินโครงการทหารพันธุ์ดีของโรงเรียน เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเรื่องการปลูกพืช และการเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งมีแหล่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการปลอดภัยจากสารเคมี