เจ้าของฟาร์มนครปฐม ขนเอกสารชี้แจงปลายทางจัดส่งกอริลลา
วันที่ 25 ธ.ค. 2567 เวลา 18:34 น.
อินวอยซ์เป็นกระต่าย ค้นฟาร์มในเมืองนครปฐม ปลายทางจัดส่งลูกกอริลลา เจ้าของฟาร์มอ้างลูกค้าคนผิวสีจ้าง 1.5 แสน ขนกระต่ายนำเข้า 50 ตัว ไม่รู้กอริลลา มาอยู่ในชิปเมนต์ได้อย่างไร ความคืบหน้ากรณีสนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี ตรวจยึดลูกกอริลลา สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ ถูกขังอยู่ภายในลังไม้ขนาดเล็ก หลังมีผู้โดยสารลักลอบนำเข้าเที่ยวบินมาจากประเทศไนจีเรีย โดยมีปลายทางไปยัง กรุงเทพฯ ประเทศไทย วันนี้ (25 ธ.ค 67) ศาลจังหวัดนครปฐม อนุมัติหมายค้นให้กับกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าตรวจค้น ฟาร์มแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.นครปฐม เอกสารใบอินวอยซ์การสั่งสินค้าและใบกำกับรายละเอียดของสินค้า ระบุว่าสินค้า คือ กระต่ายจำนวน 50 ตัว ส่งปลายทางไปยังบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นฟาร์มนำเข้าสัตว์จากต่างประเทศ จึงแจ้งให้ทางประเทศไทยทราบเพื่อตรวจสอบ พบว่าไม่มีการออกใบอนุญาตนำเข้ากอริลลามาก่อน แต่การนำเข้ากระต่ายไม่ต้องแจ้งการนำเข้ากับกรมอุทยานแห่งชาติฯ น่าเชื่อว่าจะมีการลักลอบนำเข้าสัตว์ที่ผิดกฎหมายจากต่างประเทศโดยแสดงเท็จ เพื่อให้สามารถนำเข้ามาในประเทศไทยได้โดยไม่ผ่านการตรวจสอบ ในการตรวจค้น ผู้ที่แสดงตนเป็นเจ้าของฟาร์ม ยินยอมให้ตรวจค้นและให้ถ้อยคำว่า ไม่ทราบว่ามีกอริลาเข้ามาอยู่รวมอยู่ในลังบรรจุกระต่าย ที่สั่งจากไนจีเรีย โดยได้รับกระต่ายครบจำนวน 50 ตัว อยู่ในบรรจุอยู่ในกล่อง 2 กล่อง ส่วนกล่องบรรจุกระต่ายได้ทำลายไปแล้ว เนื่องจากกล่องสกปรกมาก เกรงว่าเชื้อโรคจะติดสัตว์ในฟาร์ม ส่วนเรื่องของกลอริล่านั้น ไม่ทราบว่ามาอยู่ในชิปเมนต์ได้อย่างไร สำหรับเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้ากระต่าย มีทั้งใบนำเข้า ใบตรวจสอบจากปศุสัตว์ตอนนำเข้า โดยเป็นการรับจ้างนำเข้ามีค่าจ้างนำเข้ากระต่ายตัวละ 3,000 บาท จ่ายเป็นเงินสดจำนวน 150,000 บาท โดยคนจ่ายเงินเป็นชายผิวดำ ชื่อนายเดวิด และไม่ได้เก็บเอกสารอะไรของนายเดวิดไว้ ปัจจุบันนายเดวิดได้ลบคอนแทคและข้อความในเทเลแกรมที่ติดต่อกับฟาร์มไปทั้งหมดแล้ว ขณะตรวจค้นสัตว์ที่ฟาร์มแห่งนี้แจ้งการครอบครอง กับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้แก่ นกกระตั้วโมลลัคคัม 8 ตัว นกกระตั้วดำ 2 ตัว นกเอี้ยงบาหลี 10 ตัว นกแก้วเทาแอฟริกัน 2 ตัว รวมสัตว์ป่าควบคุมที่ต้องแจ้งการครอบครอง 4 ชนิด จำนวน 2 ตัว จากการตรวจสอบคงเหลือสัตว์ป่าควบคุมที่ต้องแจ้งการครอบครอง 2 ชนิด คือ นกกระตั้วโมลัคคัม 1 ตัว และนกกระตั้วดำ 2 ตัว นอกนั้นตายหมดแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่บริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ (บ้านโป่ง) จะตัดยอดคงเหลือตามความเป็นจริงต่อไป นอกจากนี้ การตรวจสอบพบสัตว์ป่าควบคุมที่ไม่ต้องแจ้งการครอบครอง 21 ชนิด จำนวน 289 ตัว ได้แก่ เมียแคท คาบีบาร่า นกเงือกนิวกินี กระต่ายยักษ์ ลิงแบล็คแบ็คมังกาเบย์