อส.ปืนดุ ไหว้ขอโทษ เปิดปากขอรับกรรม

วันที่ 25 ธ.ค. 2567 เวลา 06:07 น.

เช้านี้ที่หมอชิต - จากเหตุสลด อส.เมา ปืนดุ ไล่ยิงคนในร้านข้าวต้ม กลางเมืองหาดใหญ่ ตำรวจแจ้งเพิ่มอีก 2 ข้อหาวานนี้คุมตัวไปฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ขอโทษ กับสิ่งที่เกิดขึ้น อ้างบันดาลโทสะ อส.ปืนดุ ไหว้ขอโทษ เปิดปากขอรับกรรม นายอัครพณธ์ อายุ 50 ปี อส.ปืนดุ ยิงในร้านข้าวต้ม กลางเมืองหาดใหญ่ มีสีหน้าเรียบเฉย ยกมือไหว้สำนึกผิด เปิดใจว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้นขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ ยืนยันไม่มีเกิดเขม่นกับใคร แต่ก่อเหตุไปเพราะบันดาลโทสะ ส่วนสาเหตุไม่ขอพูดถึง เพราะให้การในสำนวนหมดแล้ว และบอกว่า "ผมยอมชดใช้กรรม" ในสิ่งที่ทำลงไป จากนั้นตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ก็ได้นำตัว นายอัครพณธ์ ขึ้นรถคุมขัง ไปขออำนาจศาลจังหวัดสงขลา ฝากขังพร้อมคัดค้านการประกันตัว ถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม 2 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากเดิมแจ้งแล้ว 4 ข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา, พกพาอาวุธปืน ไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนในที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และพยายามฆ่าผู้อื่น ลูกทำใจไม่ได้ แม่ตาบอด 2 ข้าง จากเหตุสลดที่เกิดขึ้น ทำให้ลูกของช่างสิทธิ์ ต้องมากำพร้าพ่อ แม่ ส่วนเจ้าของร้านข้าวต้ม ที่ถูกยิงซ้ำ ลูกชาย เปิดเผยว่า หลังแพทย์ผ่าตัด ศัลยกรรมตกแต่งบาดแผล กระสุนไม่ถูกจุดสำคัญที่สมอง แต่วิถีกระสุนเจาะกะโหลกเบ้าตาขวา ทะลุเบ้าตาซาย ถูกเส้นประสาทตาทั้งสองข้าง จึงทำให้แม่ อาจจะมองไม่เห็น ตอนนี้แม่รู้สึกตัวอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่แพทย์ยังต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด ส่วน นางสาวภาวนา เจ้าของร้านข้าวต้ม ถูกจ่อยิงศีรษะ ช่องท้อง เขียนตัวหนังสือ สื่อสารกับลูกชาย ถามว่า แม่ตาบอดใช่ไหม ตาบอดสนิทเลยไหม น้องเป็นยังไงบ้างต้อง น้องสอบ 4 วัน ห่วงน้อง ดูแลน้องดี ๆ ไม่ต้องไปทำงาน ร้านต้องปิดหลายวันไหม, แม่ต้องอยู่โรงพยาบาลอีกหลายวันแน่ น้องแม่ครัวนอนอยู่โรงพยาบาล ลูกชาย บอกอีกว่า เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แม่เป็นเสาหลักของครอบครัว หลังจากนี้ก็ไม่รู้ว่าจะทำหน้าที่ได้ดูแลร้านดีเท่าไหมไหม และอาจจะต้องปิดกิจการ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความสะเทือนใจให้กับตนเอง เพื่อน-ญาติ สะเทือนใจ เด็ก 2 คนกำพร้า  ส่วนที่วัดป่าบอนต่ำ อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง สถานที่ตั้งช่างสิทธิ์ และภรรยา ครอบครัวและ เพื่อน ๆ ของผู้เสียชีวิต ต่างเศร้าสลดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะสงสารลูกของผู้เสียชีวิต อาจจะต้องแยกกันอยู่ จากที่ก่อนหน้านี้ มีครอบครัวที่อบอุ่น เพื่อนของช่างสิทธิ์ ผู้เสียชีวิต ได้โพสต์ภาพ ลูกของผู้เสียชีวิต เขียนข้อความสะเทือนใจ บอกว่า "ได้ฟังจากปากน้องแชมป์แล้ว พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลย โหดเกิน ไปงานศพแม่เพื่อนของพ่อ แล้วเพื่อน ๆ ของพ่อก็มารดน้ำศพ พ่อกับแม่ แค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง คุณไปยิงเพื่อนผมทำไม" นายสถาพร เพชรมณี อดีตลูกน้อง ได้มากราบศพผู้เสียชีวิต เล่าทั้งน้ำตาว่า ทั้ง 2 คน มีครอบครัวที่อบอุ่น เป็นคนมีน้ำใจ คอยช่วยเหลือสังคม ตนเองอยู่กับผู้เสียชีวิตมาตั้งแต่ 10 ขวบ ได้เรียนรู้วิชาเกี่ยวกับซ่อมรถ เมื่อเติบโตสามารถออกมาประกอบอาชีพของตัวเอง จากเหตุที่เกิดขึ้น รู้สึกสงสารเด็กทั้ง 2 คน คงจะจำฝังใจไปตลอดชีวิตจึง แม้คดีจะมีการเยียวยา แต่ชีวิตคน หักล้างกันไม่ได้ อยากให้รับโทษประหารชีวิต นายสถาพร บอกอีกว่า ส่วนตัวมองว่า คดีฆ่าผู้อื่น กฏหมายประเทศไทยอ่อน ติดคุกอีก 10 ปี ผู้ก่อเหตุ ก็กลับออกมาใช้ชีวิตปกติ จึงอยากให้รับโทษประหารชีวิต ยังได้ฝากถึง ผู้บังคับบัญชา ของ อส. น่าจะลดการอนุญาติการใช้ปืน เพราะบางครั้ง อส.บางคน อวดเบ่ง ทำเกินหน้าที่ เพราะถือว่าตนเองมีผู้ใหญ่หนุนหลัง