ครม.พิจารณาของขวัญปีใหม่ ให้คนไทย

วันที่ 24 ธ.ค. 2567 เวลา 11:34 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - ครม.ประชุมนัดส่งท้ายปี 2567 ก่อนก้าวสู่การประชุม ครม.ปี 2568 ต่างนำของขวัญที่บ่งบอกความเป็นเจ้ากระทรวงมาแลกเปลี่ยนกัน จับตาประธานบอร์ดแบงก์ชาติ หลังมี นายกิติรัตน์ อาจไม่ผ่านคุณสมบัติ ครม.สุดท้ายของปี 2567 ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าประชุมได้ชมนิทรรศการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2568 ให้แก่ประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีได้ซื้อผ้าพันคอลายอย่างเกาะแก้ว จังหวัดเพชรบุรี ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม หาแนวทางรวบรวมผ้าไทยให้ประชาชนสามารถหาซื้อได้ง่าย และมีรายงานว่า ครม. จะนำของขวัญมาแลกกัน โดยนายกรัฐมนตรี ได้นำกล่องจุ่มผ้าไทยลายขอพระราชทาน จังหวัดสกลนคร มามอบให้รัฐมนตรีหญิงได้ผ้าตัดชุด 2 เมตร ผู้ชายเป็นเนกไท และแต่ละกระทรวงนำของขวัญมาแลกกันด้วย ส่วนวาระการประชุม กระทรวงการคลัง เสนอเฟส 2 กระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ให้แก่ผู้มีอายุเกิน 60 ปี โอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ ช่วงตรุษจีน (29 ม.ค.) คาดว่ามีผู้ได้รับสิทธิประมาณ 3.2 ล้านคน วงเงินราว 32,000 ล้านบาท จะสามารถออกสลากการกุศล วงเงิน 10,000 ล้านบาท งวดละ 11 ล้านฉบับเป็นระยะเวลา 2 ปี  นำเงินไปใช้ในโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุนการศึกษา ช่วยเด็กและเยาวชนในต่างจังหวัด ให้มีโอกาสไปศึกษายังต่างประเทศ คาดเริ่มออกสลากได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2568 และ การลดอัตราภาษีสนับสนุนคนไทย ที่มีศักยภาพที่ทํางานในต่างประเทศ ให้กลับเข้ามาทํางานในประเทศ ขณะที่ค่าแรงงานขั้นต่ำ 400 บาท 4 จังหวัด จะมีการรายงานมติคณะกรรมการไตรภาคี ให้ครม.ทราบว่า จะเริ่มปรับค่าแรงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ปี 2568 โดย 4 จังหวัดที่จะเริ่มปรับค่าแรงคือ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง และอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งทั้ง 4 จังหวัด แลพ 1 อำเภอนี้มีค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูง จึงปรับขึ้นให้เป็น 400 บาท  และที่รอกันเนิ่นนาน จนไม่รู้ว่า จะได้คำตอบข้ามปีหรือเปล่า คือ บุคคลที่จะนั่งเก้าอี้ประธานกรรมการหรือบอร์ด ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ตอบกระทรวงการคลัง ที่ถามเรื่องประเด็นคุณสมบัติ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง สาระสำคัญ คือนายกิตติรัตน์ไม่ผ่านคุณสมบัติที่จะเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ซึ่งการเปิดเผยรายละเอียดเป็นอำนาจของ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง