สื่อตั้งฉายา รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง-นายกฯ แพทองโพย

วันที่ 23 ธ.ค. 2567 เวลา 16:43 น.

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ถือเป็นธรรมเนียมทุกปีที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล จะร่วมกันตั้งฉายารัฐบาล รัฐมนตรี และวาทะแห่งปี ประจำปี 2567 เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของสื่อมวลชนต่อการทำงานของรัฐบาล สื่อตั้งฉายา "รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง"-นายกฯ "แพทองโพย" เริ่มจากฉายารัฐบาล รัฐบาล "พ่อ"เลี้ยง ด้วยความเป็น "พ่อ" ของหัวหน้ารัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร ขึ้นชื่อดีกรีความรักลูกไม่น้อยหน้าใคร ทั้งปกป้อง เลี้ยงดู อุ้มชู ปูทาง จนได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศ ขณะที่ นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้รับฉายา "แพทองโพย"  ล้อมาจากชื่อของนายกฯ แพทองธาร กับประเด็นดรามา "ไอแพด" คู่ใจ โพยยุคไอที ถือติดมือได้ทุกที่ เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว พกโพยเครื่องเดียวอ่าน จด โหลดข้อมูลเสร็จสรรพ จนเกิดเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสม ส่วนวาทะแห่งปี ก็คือ "สามีเป็นคนใต้" ที่ นางสาวแพทองธาร ให้สัมภาษณ์ระหว่างการลงพื้นติดตามการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำท่วม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งถูกตั้งคำถามจากสังคมว่า อาจละเลยพี่น้องภาคใต้ที่ถูกน้ำท่วม นายกฯ ชี้แจงว่า ไม่ได้ละเลยคนใต้ ด้วยประโยคว่า "สามีเป็นคนใต้" นายกฯ ไม่โกรธสื่อ ขอเป็น "แพทองแพด" สื่อมวลชนไปสอบถาม นางสาวแพทองธาร ว่ารู้สึกอย่างไรกับฉายา "แพทองโพย" โดย นางสาวแพทองธาร บอกว่า ไม่ใช่ "แพทองโพย" แต่เป็น "แพทองแพด" เพราะใช้ไอแพด ไม่ได้ใช้โพย นายกฯ มองแง่ดี ลั่นไม่เกลียดใคร ส่วนฉายา "รัฐบาลพ่อเลี้ยง" นางสาวแพทองธาร คิดว่าเป็นเรื่องดี เพราะคุณพ่อมีประสบการณ์ ส่งเสริมกันก็เป็นเรื่องดี ต้องหัดมองมุมที่ดีบ้าง จะไม่มองมุมที่เป็นดรามา เรามีเรื่องเครียดในชีวิตเยอะแล้ว อะไรแฮปปี้ได้ก็แฮปปี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงวาทะแห่งปี "สามีเป็นคนใต้" นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า มันก็คือความจริง สามีเป็นคนใต้จริง ๆ นางสาวแพทองธาร บอกว่า เป็นหนึ่งคนที่ผ่านอะไรมาเยอะในชีวิตตั้งแต่เด็ก แต่นึกไม่ค่อยออกว่าเกลียดใคร เพราะไม่ค่อยเกลียดใคร เพราะเกลียดแล้วมันเหนื่อยเลย ถ้าไม่ชอบตรงไหน ก็แค่ถอยออกมา ช่วงท้าย นายกฯ ยังอวยพรประชาชน ขอให้ทุกคนมีจิตใจที่สดใสเบิกบาน พยายามมีความสุขกับเรื่องเล็ก ๆ เรื่องง่าย ๆ ใกล้ ๆ ตัว ส่วนปีหน้าที่รัฐบาลประกาศจะเป็นปีแห่งโอกาส รัฐบาลจะทำเต็มที่ให้เป็นโอกาสที่ดีของคนไทยทุกคน ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง เดินทางปลอดภัย สนุกสนานให้เต็มที่ในช่วงวันหยุด แล้วกลับมาทำงานต่อ จะได้มีพลังกายพลังใจเยอะ ๆ "ทักษิณ" โว พท.ช่วยทำคนเหนือเป็น "พ่อเลี้ยง" ด้าน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงฉายา "รัฐบาลพ่อเลี้ยง" ว่า สงสัยสื่อเห็นว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย น่าจะเป็นคนเหนือ เพราะคนเหนือชอบเรียก พ่อเลี้ยง และเมื่อ พรรคเพื่อไทย ทำเศรษฐกิจดี คนเชียงใหม่และคนเหนือก็จะเป็นพ่อเลี้ยงกัน ส่วนที่มองว่า นางสาวแพทองธาร อาจไม่ได้เป็นนายกฯ ตัวจริงนั้น นายทักษิณ บอกว่า ตนแค่อาจให้คำแนะนำไป แต่อย่าลืมว่า ลูกสาวคนเล็ก พ่อชี้นำไม่ค่อยได้ ส่วนใหญ่จะชี้นำพ่อ ส่วน พันตำรวจเอก ทวี​ สอดส่อง ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับฉายา "ทวีไอพี" เพราะนับตั้งแต่ภารกิจพานายใหญ่กลับบ้าน จนส่งนายใหญ่ขึ้น ชั้น 14 ครองเตียง "วีไอพี" แทนนอนเรือนจำถึงได้พักโทษ ทำให้สังคมมองว่าเป็นนักโทษวีไอพี "ทักษิณ" ชี้ขาประจำจ้องเล่นงานปม "ทวีวีไอพี" สื่อมวลชนนำเรื่องนี้ไปถาม นายทักษิณ ถึงฉายา "ทวีไอพี" ซึ่งพาดพิงมาถึง นายทักษิณ ด้วย โดยเฉพาะเรื่องชั้น 14 นายทักษิณ บอกว่า ไม่มีอะไร ส่วนใหญ่เป็นงานของขาประจำ บางคนหมั่นไส้ตน โดยที่ยังไม่รู้จักตัวตน แต่ตนมีพรสวรรค์ ไม่ใช่พรนรก คนที่ไม่รู้จักก็หมั่นไส้ตนได้ ที่เช็กลิสต์ไว้มีประมาณ 10 กว่าคน คนที่ออกมายื่นร้องต่อ ป.ป.ช.จะยื่นก็ยื่นไป ถ้ายื่นผิดแล้วก็ต้องคอยตั้งรับ ยื่นมาเลย ไม่มีปัญหา ตนไม่ได้ขู่ "ทักษิณ" ยันไม่ต้องเคลียร์ใจ "อนุทิน" นายทักษิณ ยังกล่าวถึงภาพตีกอล์ฟร่วมกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่า ความจริง นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานกรรมการบริหารของกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ เป็นคนเชิญไป ไม่มีนักการเมือง แต่ นายอนุทิน เป็นเพื่อนนายสารัชถ์ มา 20 ปี จึงชวน นายอนุทิน ไปในฐานะเพื่อน ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่มีอะไร พร้อมบอกว่า ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ใจกับ นายอนุทิน กติกาง่ายนิดเดียว คนเราเมื่ออยู่ร่วมกันก็ต้องเคารพซึ่งกันและกัน ส่วนกรณีที่ พรรคภูมิใจไทย กับ พรรคเพื่อไทย อาจมีเรื่องที่ไม่ลงรอยกันหลายเรื่องนั้น เป็นเรื่องธรรมดา ลิ้นกับฟันบางครั้งก็กัดโดนกันบ้าง และ นายอนุทิน กับ นายกฯ ก็ทำงานร่วมกันได้ "อนุทิน" น้อมรับฉายา "ภูมิใจขวาง" ส่วน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับฉายา "ภูมิใจขวาง" เพราะนับตั้งแต่ลงเรือร่วมรัฐบาล มียกมือค้าน ทั้งร่างกฎหมายสกัดรัฐประหารของ สส.พรรคแกนนำ ล่าสุดโหวตสวนร่าง พ.ร.บ.ประชามติ เห็นต่างจากพรรครัฐบาล นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีที่ได้รับฉายา "ภูมิใจขวาง" โดย นายอนุทิน หัวเราะเบา ๆ ก่อนระบุว่า ขอบคุณสื่อที่เมตตาปรานี ก็โอเค ตนไม่ได้ภูมิใจที่ไปว่าอะไรใคร แต่ภูมิใจที่ทำในสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง "ภูมิธรรม" ชี้การทำงานอยู่ที่ความตั้งใจไม่ใช่ฉายา ส่วน นายภูมิธรรม​ เวชย​ชัย​ รองนายก​รัฐมนตรี​ และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับฉายา สหายใหญ่ใส่บูต สหายใหญ่ในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 สู่ "บิ๊กอ้วน" แห่งกองทัพไทยในวันนี้ ปรับโฉมกุนซือการเมือง ใส่ "ท็อปบูต" นั่งเก้าอี้กลาโหม นายภูมิธรรม บอกว่า พร้อมรับการให้ฉายาของสื่อมวลชน เพราะสิ่งที่สำคัญของการทำงานไม่ได้อยู่ที่ฉายา แต่อยู่ที่ความตั้งใจในการทำหน้าที่ เมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์มา อย่างน้อยได้นำไปขบคิดว่ามีเรื่องใดที่เป็นไปตามกระแสวิจารณ์หรือไม่ แล้วนำไปปรับปรุงแก้ไข ส่วนที่มีข่าวว่ามีการระบาดของโรคอหิวาตกโรค ในประเทศเมียนมา ใกล้กับชายแดนจังหวัดตากของประเทศไทยนั้น ขณะนี้ กระทรวงกลาโหม และ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือกันดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ ด้วยการขอความร่วมมือว่า อาจปิดกั้นบริเวณชายแดนชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการระบาดของโรค รทสช.โพสต์โต้ฉายา "พีระพัง" ส่วน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้รับฉายา "พีระพัง" เพราะพังอุดมการณ์จากพรรคขั้วตรงข้าม "ชินวัตร" ตกลงปลงใจมาจับมือร่วมรัฐบาล หลังได้รับฉายา ปรากฏว่า ในเพจเฟซบุ๊กของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์ข้อความว่า "พีระ..พัง... การผูกขาด พีระ..พัง...ระบบที่เน่าเฟะ พีระ..พัง...การโกงกินทุกรูปแบบ #ฉายารัฐบาล 67" โดยมีประชาชนก็ไปแสดงความคิดเห็น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการให้กำลังใจจำนวนมาก "เฉลิมชัย" ขอบคุณฉายา "ประชาธิเป๋" ขณะที่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับฉายา "ประชาธิเป๋" พลิกหนีบทฝ่ายค้าน ไม่ติดอดีต กลืนอุดมการณ์คู่ปรับนับทศวรรษกับ "เพื่อไทย" กระโดดมาร่วมรัฐบาล เดินเป๋จากเส้นทางอุดมการณ์กว่า 70 ปี จนได้ตั๋วคุมงานกระทรวงใหญ่ ส่วน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ที่ได้รับฉายา "ประชาธิเป๋" บอกว่า ขอบคุณมาก ไม่เป็นไร ตนรับฟังอยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องชี้แจง หลังจากนี้ก็ต้องทำให้ดีขึ้น พร้อมบอกว่า ไม่เคืองสื่อ เพราะเราต้องอยู่กันไปอีกนาน จะเคืองกันได้อย่างไร "เอกนัฏ" ฉายา "รวม(เพื่อ)ไทยอ้างชาติ" ส่วนฉายารัฐมนตรีคนอื่น ๆ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  ฉายา "รวม(เพื่อ)ไทยอ้างชาติ" เพราะ เอกนัฏ คีย์แมน พรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศต้องยอมทำเพื่อชาติ ประกาศร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เคลียร์ประเด็นคุณสมบัติคนเคยมีคดี ก่อนนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีแบบใส ๆ วาทะเด็ด "ต้องทำงานโดยคิดถึงบ้านเมืองเป็นหลัก ถ้าคิดถึงบ้านเมือง ก็ทำงานร่วมกันได้" นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฉายา "จิราพอ(ล)" จาก สส.รุ่นใหม่ดาวเด่นในสภา คุมทั้งสื่อรัฐ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แต่งานกลับเดินไปเนิบ ๆ สังคมมาถึงบางอ้อว่า รัฐมนตรีน้ำ นั่งคุม สคบ.จากคดีดัง ดิไอคอน กรุ๊ป และ บอสพอล ถึงได้จังหวะโชว์ผลงาน กลุ่ม "รมต.โลกลืม" นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทั้ง 3 คน มีบทบาท ได้คุมกระทรวงเกรดเอ แต่ผลงาน 3 เดือนในรัฐบาล กลับไม่เปรี้ยงแต่เงียบกริบ