หวั่น อหิวาตกโรค ระบาดข้ามแดน

วันที่ 22 ธ.ค. 2567 เวลา 07:03 น.

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก คุมเข้ม "อหิวาตกโรค" หลังเกิดการระบาด ในฝั่งจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ล่าสุด มีผู้ป่วยอหิวาตกโรค เสียชีวิตแล้ว 2 คน หวั่น อหิวาตกโรค ระบาดข้ามแดน บรรยากาศชายแดนไทยเมียนมา ที่อำเภอแม่สอด และอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก เงียบเหงา หลังมีสถานการณ์ระบาดของโรคอหิวาตกโรค ในพื้นที่เมืองฉ่วยโก๊กโก่ จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ตรงข้ามบ้านวังผา อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก โดยทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และฝ่ายปกครอง ได้เพิ่มความเข้มงวดลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ขอให้งดการเดินทางผ่านช่องทาง ท่าข้าม ช่องทางธรรมชาติ รวมถึงการเดินทางของประชาชน ทั้ง 2 ฝั่ง ออกไปก่อน เป็นเวลา 1 เดือน หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากความเข้มงวดลาดตระเวน เฝ้าระวังตามแนวชายแดนแล้ว ยังเพิ่มมาตรการรักษาสุขอนามัยของคนขับรถขนส่งสินค้า, ผู้ประกอบการท่าข้าม และกำลังพล อาหารการกิน และน้ำดื่ม ต้องกินอาหารปรุงสุกใหม่เท่านั้น และล้างมือให้สะอาด หลังออกจากห้องน้ำ ห้องส้วม และก่อนกิน มีข้อมูลจากฝั่งจังหวัดเมียวดีว่า ผู้ป่วยอหิวาตกโรค ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ที่ไปทำงานอยู่ในพื้นที่การลงทุนขนาดใหญ่ของชาวจีน ในเมืองฉ่วยโก๊โก่ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน รวมเป็น 2 คน และมีผู้ป่วยถูกนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลฉ่วยโก๊โก่ ทั้งหมด 300 คน มีอาการรุนแรง 56 คน และแนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  โรงพยาบาลฉ่วยโก๊โก่ ฝั่งเมียวดี ได้แจ้งขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ มายังโรงพยาบาลแม่ระมาดแล้ว ถึงแม้จะส่งผู้ป่วยข้ามมารักษาไม่ได้ แต่ทางไทย ได้ส่งยา และเวชภัณฑ์ไปช่วยควบคุมการระบาด โดยโรงพยาบาลแม่ระมาด ได้ให้การสนับสนุนยา และเวชภัณฑ์ ไปบางส่วนแล้ว ทีมสอบสวนโรค ป้องกันระบาดข้ามแดน ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข เฝ้าระวังสถานการณ์ ที่อาจมีผู้ป่วย หนีข้ามฝั่งมาจากเมียนมา โดยได้ส่งทีมสอบสวนโรค ลงพื้นที่ชายแดน ไปแม่ระมาด เก็บตัวอย่างผู้ป่วยทุกคนที่ถ่ายเหลว ส่งตรวจเชื้อ รวมถึงตรวจเข้มสุขอนามัยของร้านอาหาร น้ำดื่ม น้ำแข็ง ให้สะอาดปลอดภัย พร้อมให้โรงพยาบาลชายแดน สำรองยาและเวชภัณฑ์ควบคุมโรค เช่น ผงปูนคลอรีน และน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ส่วนโรงเรียนที่มีเด็กฝั่งเมียนมาข้ามมาเรียน ย้ำต้อง "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" ถ้าท้องร่วงรุนแรง ให้รีบไปพบแพทย์