พบปืนอีกกระบอก ชายคลั่งยิงญาติ-ชาวบ้าน
วันที่ 20 ธ.ค. 2567 เวลา 11:11 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง - คดีชายก่อเหตุยิงญาติและเพื่อนบ้านเสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีก 2 คน ที่บึงกาฬ ตำรวจไม่พบว่า เสพยา คลุ้มคลั่ง หรือป่วยจิตเวช แต่ตั้งใจก่อเหตุจากความแค้นสะสม โดยล่าสุดตำรวจไปพบปืนอีก 1 กระบอก กระสุนอีก 36 นัด เราไล่เรียงข้อมูลเกิดเหตุใหม่อย่างนี้ คนก่อเหตุคือนายธนพล อายุ 35 ปี ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง ปี 53 ติดคุกเพราะไปทุบศีรษะลูกชายคนโตของอา เสียชีวิต ศาลฯ ตัดสินจำคุก ตอนนั้นขู่ครอบครัวอาว่า ถ้าพ้นโทษจะกลับมาล้างแค้น ก็ติดคุกมา 10 ปี พ้นโทษปี 63 ออกมาก็ไปบวชและไปทำงานที่กรุงเทพฯ เดินทางกลับมาบ้านวันพุธ (18 ธ.ค.) หลังกลับมาเย็นนั้นก็มีปากเสียงกับลูกชายอีกคนของอา แต่ไม่รุนแรง ก่อนจะแยกย้ายกันไป วันเกิดเหตุคือวันพฤหัสบดีเมื่อวาน นายธนพล คนก่อเหตุ เห็นผู้หญิงคนที่เสียชีวิตคนแรก เดินเข้าไปที่บ้านอา พูดคุยอะไรบางอย่าง นายธนพล คิดว่านินทาว่าร้ายตัวเอง แต่ข้อเท็จจริงคือ หญิงคนนี้ชื่อนางนันทิดา อายุ 41 ปี เข้าไปว่าจ้างให้ลูกชายของอา เอาเครื่องพ่นเมล็ดข้าวไปพ่นที่นา พอ "นันทิดา" เดินกลับบ้าน นายธนพล ก็ใช้ปืนลูกโม่ ขนาด จุด 38 ยิงใส่ เสียชีวิตทันทีกลางถนน จากนั้นก็เดินเข้าไปที่บ้านอา ใช้อาวุธปืนยิง นายประกอบ ศักดิ์เป็นอา และนายพิชิต ลูกชายของอา 2 คนนี้ถูกยิงที่ขา ไม่น่าจะตั้งใจให้ถึงชีวิต จากนั้นก็เดินกลับมาที่บ้าน อีกคนที่ถูกยิงเสียชีวิต ชื่อนายจำเนียร อายุ 50 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา เข้าไปช่วยนางนันทิดา ที่นอนอยู่กลางถนน ก็ถูกยิง ยังมีอีกคนที่ถูกยิงบาดเจ็บ คือเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่จะเข้าไปช่วยเหลือ หลังรับแจ้งเหตุ กู้ภัยคนนี้ถูกยิงที่ขาเช่นกัน จากนั้นนายธนพล ก็ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิต เช้าวันนี้ ตำรวจไปตรวจค้นบ้านนายธนพลอีกครั้ง ตำรวจบอกว่า นอกจากปืนลูกโม่ จุด 38 แล้ว ยังพบปืนขนาด 9 มม.อีก 1 กระบอก กระสุนอีก 36 นัด หากรวมกระสุนของลูกโม่ จะมีกระสุนปืนทั้งหมด 60 นัด และยังพบมีดสั้นแบบพับอีก 1 เล่ม ตอนนี้เก็บไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นปืนถูกต้องตามกฎหมายหรือเปล่า แต่ที่สำคัญ ไปพบจดหมายน้อยนับ 10 ฉบับ เขียนด้วยลายมือของนายธนพลเอง เขียนถึงผู้บัญชาการทหารบก ไม่ชัดว่าเขียนช่วงไหน เท่าที่อ่านเหมือนว่านายธนพล จะเริ่มมีอาการลักษณะคล้ายหูแว่ว เจ้าตัวบอกว่า ถูกคลื่นสมอง Y2K ทำให้ไปก่อเหตุฆ่าผู้อื่น อ้างว่าทำไปเพื่อป้องกันตัว ส่วนศพผู้เสียชีวิต ญาติได้นำกลับไปตั้งที่วัดใกล้กับจุดเกิดเหตุ ช่วงบ่ายวันนี้จะมีพิธีฌาปณกิจ โดยมีหน่วยงานต่าง ๆ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าไปให้คำปรึกษา ให้กำลังใจ และช่วยเหลือ ครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน