ครู-นักเรียนเศร้า น้ำท่วมโรงเรียนเสียหาย
วันที่ 20 ธ.ค. 2567 เวลา 06:24 น.
เช้านี้ที่หมอชิต - เรายังคงติดตามสถานการณ์น้ำท่วมทางพื้นที่ภาคใต้ แม้ระดับน้ำหลายพื้นที่จะลดลงแล้ว แต่ทุกข์ ยังไม่ลดไปกับน้ำ อย่างเช่นโรงเรียนแห่งนี้ ที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ถูกน้ำท่วมเสียหายหนัก อุปกรณ์การเรียนการสอนเสียหายหมด ครู-นักเรียนเศร้า น้ำท่วมโรงเรียนเสียหาย ครูของโรงเรียนสตรีจรัสพิชากร เป็นโรงเรียนอนุบาล ในเขตอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ต่างช่วยกันทำความสะอาดภายในโรงเรียน หลังโรงเรียนแห่งนี้ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทำให้อุปกรณ์การเรียนการสอนเสียหายแทบทั้งหมด ทำให้ทางโรงเรียนมีความจำเป็นต้องหยุดการเรียนการสอน 7 วัน 17-22 ธันวาคม เพื่อทำการเร่งฟื้นฟูให้โรงเรียน สำหรับโรงเรียนแห่งนี้เป็นพื้นที่ต่ำ จึงถูกน้ำท่วมทุกปี ท่วมหนักสุดคือปี 2561 พอมารอบนี้ทางครูในโรงเรียน ได้เตรียมยกของขึ้นสูงแล้ว แต่ระดับน้ำยังท่วมถึงทำให้อุปกรณ์การเรียนการสอนเสียหาย ตอนนี้ โรงเรียนกำลังหาผู้ใหญ่ใจดี ที่จะช่วยเรื่องอุปกรณ์การเรียน และของเล่นเด็ก ๆ ด้วย ซึ่งทางโรงเรียน มีการช่วยในระดับหนึ่งแล้ว แต่การช่วยเหลือยังไม่เพียงพอ ชาวสวนส้มโอเศร้า ถูกน้ำท่วมเสียหาย ภาพความเสียหายของสวนส้มโอ ในพื้นที่บ้านแสงวิมาน ตำบลคลองน้อย อำเภอปากพนัง แหล่งผลิตส้มโอทับทิมสยาม เป็นผลไม้ประจำถิ่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ถูกน้ำท่วมเสียหายเป็นวงกว้างกว่า 5,000 ไร่ อยู่ในสภาพจมน้ำมาแล้ว 5-6 วัน ทำให้ชาวสวนต่างกังวัลว่า ส้มโอที่กำลังออกผล จะยืนต้นตาย นายเอกรัตน์ รอดพิสดาร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 บอกว่า กังวลใจเรื่องน้ำท่วมพื้นที่เกษตรกรรมเช่นเดียวกับชาวบ้าน เนื่องจากการท่วมขังเป็นเวลานานจะไม่ส่งผลดีกับส้มโอ เร่งแก้ไขปัญหาขยะมากับน้ำท่วม ส่วนพื้นที่ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มีปัญหาขยะที่มากับน้ำท่วม เรื่องนี้ทางนายกณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนคร นครศรีธรรมราช ระบุว่า การเก็บขยะเหล่านี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งมืออย่างต่อเนื่อง และจะต้องแล้วเสร็จใน 7 วัน ขณะพื้นที่รอบนอกเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เช่น ชุมชนหลังค่ายวชิราวุธ ชุมชนท่าแพ ตำบลปากพูน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ปลายน้ำ พบว่า บ้านหลายหลังยังถูกน้ำท่วมจมบาดาล กู้ภัยต้องใช้เรือลำเลียงอาหาร และน้ำดื่มไปให้ชาวบ้านที่อยู่บนชั้น 2 ซึ่งสิ่งที่ชาวบ้านต้องการที่สุดขณะนี้คืออาหารและน้ำดื่ม ชาวบ้านยังจมทุกข์ หลังน้ำลด จ.สุราษฎร์ธานี ภาพที่เห็นนี้คือร่องรอยความเสียหายจากน้ำท่วม ในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลป่าร่อน อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี แม้ฝนจะหยุดตกมา 2 วันแล้ว แต่ชาวบ้านยังไม่สามารถเข้าอาศัยได้ เนื่องจากยังมีดินโคลน และเศษซากต้นไม้ ขยะ เต็มบริเวณบ้าน ทรัพย์สินในบ้านเสียหายหนัก อย่างบ้านหลังนี้ของ นางสาววรีรัตน์ เพชรรักษ์ อายุ 43 ปี ที่ถูกน้ำท่วมเสียหายหนัก จนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว เล่าว่า ตอนนั้นช่วงหัวค่ำวันที่ 16 ธันวาคม 2567 มีประกาศน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มให้ย้ายออก แต่เนื่องจากบ้านอยู่ในที่สูง และเป็นบ้านสองชั้น จึงมั่นใจว่าปลอดภัยเลยไม่ยอมย้ายออก ปราฏว่าพอช่วงเที่ยงคืน ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต้องให้ทางกู้ภัยช่วยเหลือออกจากบ้านเอาชีวิตรอด ทหาร-จิตอาสา ช่วยชาวบ้านคลายทุกข์ ส่วนความช่วยเหลือ เมื่อวานนี้ทางกำลังทหารบกจากค่าย มทบ 45 และเอกชน เข้าช่วยเหลือเก็บเศษซากปรักหักพัง ทำความสะอาด ต้องใช้เวลาอีกวัน 2 วัน จึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ หากฝนไม่ตกลงมาเพิ่มอีก ขณะที่เจ้าของรถแบ็กโฮ ที่อาสาเข้ามาช่วยเหลือ บอกว่า เมื่อเห็นภาพจากข่าวแล้วสงสาร จึงเข้ามาช่วยเหลือ ถ้าใครต้องการช่วยเหลือให้ทักมา ยินดีช่วยเหลือฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ทหารช่วยฟื้นฟูโรงเรียน จ.สุราษฎร์ธานี นอกจากทหารต้องช่วยฟื้นฟูบ้านเรือนประชาชนแล้ว ทางทหารยังเข้าฟื้นฟูโรงเรียน ช่วยฉีดล้างคราบโคลน ภายในโรงเรียนบ้านหนองเปล ตำบลพลายวาส อำเภอกาญจนดิษฐ์ ตามแผนฟื้นฟูของจังหวัดสุราษฎร์และหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46 ที่ต้องจัดกำลังสนับสนุนจังหวัดช่วยพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยโรงเรียนบ้านหนองเปล ถูกน้ำท่วมช่วงค่ำวันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนได้ยกของขึ้นที่สูง แต่ครั้งนี้น้ำมาเยอะกว่าทุกครั้ง เมื่อปี 2563 คิดว่าน้ำท่วมสูงแล้ว แต่ปีนี้น้ำท่วมกว่าประมาณ 1 เมตร ทำให้ทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก ทางโรงเรียนและหน่วยงานจะเร่งดำเนินการฟื้นฟู เพื่อให้สามารถเปิดเรียนได้โดยเร็วที่สุด