ค้น 2 จุด หาหลักฐานเพิ่ม คดีฆ่า สจ.โต้ง

วันที่ 19 ธ.ค. 2567 เวลา 11:24 น.

ห้องข่าวภาคเที่ยง - คดีฆาตกรรม "สจ.โต้ง" แม้จะข่าวเรื่องการโอนสำนวนคดีเข้ามาที่กรุงเทพฯ ภายในสัปดาห์นี้ แต่ก็ยังไม่เรียบร้อย และวันนี้ก็ยังมีปฏิบัติการบุกเข้าตรวจค้น คนรอบตัวของ "สจ.โต้ง" และ "โกทร" อีกวัน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนเรื่องที่ "โกทร" จะแถลงข่าว น่าจะถูกดับฝันแล้ว ปฏิบัติการช่วงเช้าวันนี้ (19 ธ.ค.) ตำรวจหลายหน่วยงานแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด เข้าพื้นที่ 2 เป้าหมาย จุดที่ 1 เป็นอู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลบ้านพระ อำเภอเมืองปราจีนบุรี ซึ่งแนวทางการสืบสวนของตำรวจทราบมาว่าเป็นของ นายกฤษฎ์ หรือ รองอุ๊ รองนายก อบจ.ปราจีนบุรี ซึ่งการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ขออนุญาตถอดเซิฟเวอร์กล้องวงจรปิด ไปตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีฆ่า สจ.โต้ง หรือไม่ สอบถามผู้จัดการอู่ ให้ข้อมูลว่า มีหน้าที่จัดการดูแลงานซ่อมรถในอู่เพียงอย่างเดียว ไม่รู้ว่า รองอุ๊ เป็นเจ้าของ หรือมีหุ้นส่วนหรือไม่ แต่เมื่อหลายเดือนก่อน รองอุ๊ เคยนำรถมาขัดสีที่อู่ ส่วนจุดที่ 2 ตำรวจนำหมายค้น เข้าตรวจบ้านหลังหนึ่งในตำบลเกาะลอย อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเปิดเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง พบข้อมูลเคยร่วมทำธุรกิจก่อสร้างด้วยกันกับ รองอุ๊ ซึ่งเจ้าของบ้านตามหมายค้น คือ นายอภิชาติ พบว่าไม่อยู่บ้าน เพราะไปจังหวัดระยอง กับภรรยาตั้งแต่เมื่อวาน มีแค่ลูกชาย และพี่สาวของนายอภิชาติ ตำรวจมุ่งเน้นการเข้าค้นในห้องทำงาน พบในห้องมีพระพุทธรูป และพระเครื่องจำนวนมาก ตลอดจนเอกสารการประมูลโครงการก่อสร้างต่าง ๆ มีข้อมูลด้วยว่า เมื่อก่อน นายอภิชาติ มีความคุ้นเคยสนิทสนมกับ รองอุ๊ แต่ภายหลังเกิดทะเลาะกัน จากงานรับเหมาก่อสร้างในโครงการหนึ่งของ อบจ.ปราจีนบุรี จึงตัดขาดจากความเป็นเพื่อนมา 2 ปี แล้ว ส่วนผลการตรวจค้น เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ได้ตรวจยึดรถคันหนึ่งไปตรวจสอบ หลังพบว่าทะเบียนรถไม่ตรงกับเลขตัวถัง ส่วนที่เรือนจำ จังหวัดนครนายก มีญาติ และคนสนิทของ โกทร เข้าเยี่ยมเป็นวันแรก ซึ่งนอกจากญาติแล้ว ก็ยังมี นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล ไปให้กำลังใจ โกทร ด้วย บอกว่าจะพยายามขอให้ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปเปิดใจคุยกับ โกทร ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้คำตอบเหมือนพร้อมจะดับฝัน นายสันธนะ บอกว่า เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ เพราะ โกทร หรือ นายสุนทร ยังถือเป็นผู้ต้องหา ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำนครนายก หากจะแสดงความบริสุทธิ์ ก็ต้องรอได้รับการประกันตัวก่อน ส่วนคนที่เข้าไปเยี่ยมในเรือนจำ แล้วออกมาให้สัมภาษณ์ อันนี้ก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ และหากหลังจากนี้ มีการโอนสำนวนคดีมาไว้ที่ กองบังคับการปราบปรามก็ต้องย้าย โกทร มาคุมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ เช่นกัน ขณะที่ พลตำรวจตรี สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พูดถึงเรื่องการโอนสำนวนคดี ที่คาดว่าจะโอนมาถึงสัปดาห์นี้ ว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน ของกองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง ขึ้นมาร่วมสืบสวนสอบสวนด้วย จะเน้นไปทุกประเด็นให้ครอบคลุมที่สุดเพื่อให้เกิดความชัดเจน ส่วนกรณีของ นางสาวณภาภัช หรือ สจ.จอย ภรรยาของ สจ.โต้ง นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ บอกว่า วันนี้น่าจะยังไม่เดินทางเข้ามา และยอมรับว่าก่อนหน้านี้ ก็ยังให้ปากคำกับตำรวจ สภ.ปราจีนบุรี ไม่ละเอียด ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่จะประสานให้เข้ามาพบอีกทีวันไหน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บอกว่าการปราบปราม ผู้มีอิทธิพล ทำมาโดยตลอด อย่ามองแค่คดีเดียวที่เพิ่งเกิดขึ้น และเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องการทะเลาะกัน สำหรับการปราบปรามผู้มีอิทธิพล จะมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันมาแล้วว่าจะเป็นหัวหน้าทีมการปราบปรามผู้มีอิทธิพล คาดว่าต้องมีการตั้งเป็นคณะกรรมการที่จะประกอบด้วย หน่วยงานด้านความั่นคง กองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ กรมการปกครอง ของ กระทรวงมหาดไทย ที่จะมีการตั้งให้เร็วเพื่อได้เริ่มงานให้เร็วที่สุด