หนุ่มห้าวมอบตัว! อ้างถูกให้ของลับ-ถือมีดขู่ เลยทำร้ายชายวัย 54 ปี ต่อหน้าลูก
วันที่ 16 ธ.ค. 2567 เวลา 15:34 น.
หนุ่มห้าว วัย 28 ปี โร่มอบตัวขอโทษ! อ้างถูกให้ของลับ-ถือมีดขู่ก่อน เลยใช้มีดตีหัวชายวัย 54 ปี ต่อหน้าลูก ตรวจพบปัสสาวะเป็นสีม่วง จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพหนุ่มหัวร้อน ขับรถกระบะตู้ทึบส่งของ ลงมือทำร้ายโดยใช้มีดตีเข้าที่ศีรษะของชายผู้เป็นพ่อต่อหน้าลูกชายวัย 11 ขวบ ขณะที่ทั้งสองคนนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ หน้าร้านสะดวกซื้อ บริเวณตลาดสดลีลา จ.สมุทรสาคร จนกลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกแชร์ว่อนไปในโลกโซเชียล และเรื่องร้อนดังกล่าวยังถูกร้องไปที่ “กัน จอมพลัง” ให้เข้ามาช่วยตามคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ย่อยบางน้ำจืด ภายหลังจากที่ทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว และกลัวความไม่ปลอดภัย หากบังเอิญพบเจอกับผู้ก่อเหตุอีกครั้ง ต่อมา เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (16 ธ.ค. 67) กัน จอมพลัง ได้พานายสมกร อายุ 54 ปี ผู้เสียหาย พร้อมด้วย ด.ช.บอม (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ มาที่ สภ.ย่อยบางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยได้เข้าพบกับ พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล รอง ผบก.รรท.ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.พิเชษพงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ,พ.ต.ท.โสภาส ถนนทิพย์ สวป.สภ.เมืองสมุทรสาคร และ ร.ต.อ.จำนง เนยขำ พนักงานสอบสวนคดีฯ ซึ่งเบื้องต้นทางรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการพูดคุยกับทางผู้เสียหาย และสอบถามข้อเท็จจริงในประเด็นที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 67 มีการใช้เวลาพูดคุยกันกว่า 1 ชั่วโมง กระทั่งในเวลาประมาณ 11.30 น. ทางผู้ก่อเหตุคือ นายสมพงษ์ อายุ 28 ปี ชาว จ.สุรินทร์ พนักงานขับรถส่งสินค้าของบริษัทขนส่งพัสดุแห่งหนึ่ง ก็ได้เดินทางมาพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกัน จอมพลัง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากจะทำการสอบปากคำนายสมพงษ์ ผู้ก่อเหตุในเบื้องต้นแล้ว ยังได้นำตัวไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกายอีกด้วย แล้วก็พบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงได้ส่งตัวไปที่ รพ.สมุทรสาคร เพื่อตรวจสารเสพติดโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะนำตัวกลับมาสอบปากคำที่ สภ.ย่อยบางน้ำจืด เพิ่มเติม ด้าน กัน จอมพลัง เผยว่า ผมเดินทางมาที่ สภ.ย่อยบางน้ำจืดในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นคลิปของพ่อที่ถูกทำร้ายร่างกายต่อหน้าลูกแล้วยอมไม่ได้ โดยสองพ่อลูกขอให้ผมช่วย หลังจากถูกหนุ่มใจร้อนลงมือทำร้ายใช้มีดตีเข้าที่ศีรษะ พร้อมต่อยเข้าที่ใบหน้าไปหลายที ทั้งที่ลูกชายวัย 11 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจร้องขออย่าทำร้ายพ่อตน แต่ก็ไม่หยุด แถมเตะเสยเข้าที่ปลายคางจังหวะที่พ่อลูกจะพากันขับรถกลับจนรถล้ม บาดเจ็บเลือดอาบทั่วหน้า ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ แจ้งความแล้ว แต่สองพ่อลูกใช้ชีวิอย่างหวาดระแวงกังวลกลัวความไม่ปลอดภัย จึงอยากให้ผมช่วย ซึ่งผมก็รีบมาทันที เพราะเรื่องแบบนี้ปล่อยไว้ให้เป็นภัยต่อสังคมไม่ได้ อีกทั้งคนที่ก่อเหตุก็เคยก่อเหตุในลักษณะเช่นเดียวกันนี้มาแล้วในพื้นที่อื่น โดยก่อนที่จะเข้ามาที่โรงพักก็ได้ประสานไปยัง พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 และ รองผู้บังคับการ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ให้ช่วยติดตามผู้ก่อเหตุ ซึ่งก็ทราบว่า ทางตำรวจได้เร่งดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเต็มกำลังความสามารถ และสามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว ด้านนายสมกร ผู้เสียหาย บอกว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น.ของวันที่ 8 ธ.ค. 67 ขณะที่ตนขับรถจักรยานยนต์ จะพาลูกไปกินข้าวนั้นได้ขับรถตามหลังรถยนต์กระบะตู้ทึบ ที่มี่นายสมพงษ์ เป็นคนขับรถเข้าไปในบริเวณตลาด “ลีลา” ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และขณะถึงบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ภายในตลาด เขาได้เลี้ยวซ้าย ส่วนตนก็จะไปทางตรง ทีนี้เขารีบถอยรถมาโดยไม่มองซ้ายมองขวา ตนก็เลยหักหลบแล้วก็ถามไปว่า ทำไมขับรถแบบนี้ ดีนะไม่ชนลูกของพี่ แค่นั้นแหละคือเขาถอยมาและลดกระจกลง และบอกว่า "อะไร มึงมีอะไร" จากนั้น เขาก็กระโดดลงมาจากรถเลย พอออกมาปุ๊บเหมือนเขาจะทำร้ายเรา เราก็ถอยจับมีดปลอกสายไฟที่เราพกอยู่ตลอดเพราะเป็นช่างไฟมาถือไว้ เขาก็เลยบอกว่ามึงมีมีดกูก็มีเหมือนกัน เขาก็ถอดออกมาและเข้ามาตบตนตามคลิปที่เห็น ตนก็เลยบอกว่า "พี่ขอโทษ" คือเรามีลูกแล้วไม่อยากมีเรื่องเขาก็ตะโกนด่าสารพัด โดยไม่ฟังอะไรเลย ซึ่งลูกชายตนก็บอกว่า "พี่พอ พี่อย่าใจร้อน" จากนั้นก็มีคนมาห้าม เขาก็ไม่สนใจ กระทั่งตนตัดสินใจจะขับรถกลับช่วงหักรถผ่านหน้าเขา เขาก็ใช้เท้าตวัดเข้ามาจนทำให้รถของตนล้มลงไปพร้อมกับลูกชาย รถทับตนไว้ ตนห่วงแต่ลูกถามว่าลูกเป็นอะไรหรือเปล่า ลูกชายบอกไม่เป็นอะไรก็สบายใจ ส่วนตนได้รับบาดเจ็บบริเวณเหนือคิ้วข้างขวา ส่วนคนก่อเหตุได้หลบหนีไป ขณะที่นายสมพงษ์ ผู้ก่อเหตุ ได้ให้การไปอีกทางหนึ่งว่า ตนเดินทางไปที่ตลาดลีลา และกำลังถอยรถเข้าร้านสะดวกซื้อ เป็นจังหวะที่ผู้เสียหายขี่รถมาอยู่ด้านหลังรถตน พร้อมให้ของลับตน โดยเขาเมามาตาแดงกล่ำเลย และถือมีดมาด้วย ซึ่งตนก็มีมีดป้องกันตัวอยู่แล้ว จึงได้ลงมือกระทำการดังกล่าวเพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น และภายหลังก่อเหตุ ตนก็อยากขอโทษพี่เขา เพราะทำไปด้วยความโมโห ซึ่งตนก็เคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวกับคนที่เคยให้ของลับตน เนื่องจากโมโห ที่อยู่ ๆ ก็มาโดนหยามด้วยการมีใครก็ไม่รู้มาให้ของลับ โดยสังคมเห็นคลิปแค่เบื้องต้นจึงมองว่าตนผิด ต้องเห็นคลิปต้นเรื่อง ถ้าเขารักลูกเขาจริงเขาคงจะไม่ทำท่าเหมือนจะเข้ามาแทงผม และตนนั้นตีเขาไปแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ไม่มีเตะจนรถล้ม แล้วเด็กก็ไม่ได้ร้องบอกอะไรด้วย จึงอยากให้ลองไปหาคลิปหรือหลักฐานตั้งแต่เริ่มต้นเกิดเหตุมาพิสูจน์ข้อเท็จจริง แต่ในวันนั้นตนยอมรับว่า ตนเสพกัญชาเข้าไป จึงเกิดอารมณ์ร้อนบันดาลโทสะกระทำการดังกล่าวจริง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้แจ้งข้อกล่าวหานายสมพงษ์ เบื้องต้นว่า เสพยาเสพติด,ทำร้ายร่างกายผู้อื่น,ทำให้เสียทรัพย์และพกพาอาวุธมีดไปในเมืองสาธารณะ ก่อนที่จะนำตัวไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป