5 ของใช้ในบ้าน ทำให้เสี่ยงมะเร็งปอด
วันที่ 16 ธ.ค. 2567 เวลา 12:21 น.
วันนี้ (16 ธ.ค.67) นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ให้ความรู้ด้านสุขภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุถึงสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านที่เสี่ยงก่อโรคมะเร็งปอด ข้อความตอนหนึ่งระบุว่า หลายคนชอบคิดว่าไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน ไม่เสี่ยงมะเร็งปอด จริง ๆ แล้วบ้านที่เราคิดว่าปลอดภัยที่สุด อาจมีบางอย่างที่ทำร้ายสุขภาพแบบไม่รู้ตัว ของบางอย่างในบ้านก็สามารถปล่อยสารอันตรายหรือสะสมสิ่งที่ไม่ดีต่อปอดได้เหมือนกัน หมอเจดพาไปดู 5 สิ่งของภายในบ้านที่เราอาจมองข้ามไป พร้อมกับวิธีง่าย ๆ ในการดูแลและป้องกันความเสี่ยง และเพื่อสุขภาพปอดดีขึ้น 1.เครื่องปรับอากาศที่ไม่ได้ล้างทำความสะอาด เครื่องปรับอากาศที่เราเปิดใช้ทุกวัน แต่ถ้าปล่อยให้สกปรกหรือไม่ได้ล้างนาน ๆ ก็กลายเป็นแหล่งสะสมฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรียได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะเชื้อรา Aspergillus ที่เล็กจนเรามองไม่เห็น แต่เมื่อเราหายใจเข้าไปสะสมในปอดทุกวัน อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินหายใจเรื้อรังหรือมะเร็งปอดได้เราลดความเสี่ยงได้ด้วยการ • ล้างแอร์ทุก 3-6 เดือน เพื่อให้อากาศที่ออกมาสดชื่นและปลอดภัย • เปลี่ยนหรือทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ • อย่าลืมเปิดหน้าต่างหรือปรับการระบายอากาศในบ้านด้วยนะครับ 2. ผ้าม่านที่ไม่ได้ทำความสะอาด ผ้าม่านในบ้านที่ไม่ได้รับการซักหรือทำความสะอาดนาน ๆ ก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น เชื้อรา และไรฝุ่น โดยเฉพาะในบริเวณที่อากาศไม่ถ่ายเท นอกจากนี้ หากมีการสูบบุหรี่ในบ้าน ควันบุหรี่ที่ลอยในอากาศจะไปเกาะติดที่ผ้าม่าน และสะสมเป็นคราบควันบุหรี่มือสาม (Third-hand smoke) ที่มองไม่เห็น แต่มีสารพิษตกค้างอยู่ เมื่อสารพิษเหล่านี้กระจายตัวเข้าสู่ปอดของเราทุกวัน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รวมถึงมะเร็งปอดได้ในระยะยาวหมอเจดให้คำแนะนำว่า • ซักผ้าม่านทุก 3-6 เดือน เพื่อลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค • ถ้าสูบบุหรี่ในบ้าน ควรเลิกสูบบุหรี่ในพื้นที่ปิด หรือทำความสะอาดผ้าม่านให้บ่อยขึ้น • ใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือแปรงปัดฝุ่นสำหรับผ้าม่านระหว่างการซัก • เลือกใช้ผ้าม่านที่ทำจากวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย และหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าม่านหนาในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง 3. หมอนและที่นอนเก่า หมอนและที่นอนที่เราใช้นอนทุกคืน มันสะสมฝุ่น เชื้อรา และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไว้เพียบเลย ถ้าไม่ดูแล จะกลายเป็นแหล่งของไรฝุ่นและเชื้อโรคที่ปล่อยสารพิษออกมา ตอนที่เรานอนหลับก็จะสูดดมเข้าไปในปอดทุกวัน เสี่ยงต่อโรคปอดอักเสบเรื้อรังหรือมะเร็งปอด คำแนะนำลดความเสี่ยงด้วยการ • เปลี่ยนหมอนทุก 1-3 ปี และซักปลอกหมอนทุกสัปดาห์ • สำหรับที่นอน ควรใช้ผ้าปูที่กันไรฝุ่น และกลับด้านที่นอนทุก 3-6 เดือน • อย่าลืมดูแลความสะอาดในห้องนอนด้วยนะครับ 4. สเปรย์ปรับอากาศและน้ำหอมในบ้าน หลายคนชอบใช้สเปรย์ปรับอากาศหรือจุดน้ำหอมในบ้านให้กลิ่นหอม ๆ แต่รู้ไหมว่าสารเคมีระเหย เช่น ฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) และ เบนซีน (Benzene) ซึ่งเป็นสารที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นสารก่อมะเร็ง (Carcinogen) จากองค์การอนามัยโลก เมื่อเราสูดดมสารเหล่านี้เข้าไปในระยะยาว สารเคมีจะเข้าสู่ทางเดินหายใจและสะสมในปอด ซึ่งสารฟอร์มัลดีไฮด์สามารถกระตุ้นการระคายเคืองในเซลล์เยื่อบุทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปอดในระยะยาว ซึ่งอาจกลายเป็นมะเร็งปอดได้ นอกจากนี้ เบนซีนที่มักพบในน้ำหอมบางชนิด ยังสามารถส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ในปอดและระบบเลือด เพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งปอดและมะเร็งเม็ดเลือดได้อีกด้วย สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการ • ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติแทน เช่น น้ำมันหอมระเหย • ลดการใช้สเปรย์ในห้องปิด หรือเปิดหน้าต่างระบายอากาศหลังใช้งาน 5. ควันจากเทียนและธูป การจุดเทียนหรือธูปในบ้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายอากาศ จะปล่อย ฝุ่น PM2.5 และสารเคมีอันตราย เช่น พอลิไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs) เข้าสู่ปอดโดยตรง ซึ่งสารพวกนี้สามารถกระตุ้นการเกิดมะเร็งปอดและโรคทางเดินหายใจเรื้อรังได้ กรณีการจุดธูปหรือเทียนนั้น หมอเจดแนะนำว่า • หากจำเป็นต้องจุด ควรทำในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี • การจุดธูปแนะนำใช้ธูปที่สั้นลง หรือเป็นธูปที่เป็นแบบไฟฟ้า หมอเจดฝากเป็นข้อคิดทิ้งท้ายด้วยว่า ของใช้ในบ้านหลายๆอย่างที่เรามองข้าม ส่งลต่อสุขภาพปอดของเราและคนในครอบครัวได้ เพราะฉะนั้นควรดูแลบ้านให้สะอาด เลี่ยงการใช้สารเคมีที่ไม่จำเป็น เพื่อสุขภาพที่ดีของเราและคนในบ้าน