นายกฯ โชว์ผลงาน ลั่นปีหน้ามี 5 นโยบายหลัก
วันที่ 12 ธ.ค. 2567 เวลา 16:43 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - นายกฯ แถลงผลงานครบรอบ 3 เดือน ภายใต้ชื่อ 2568 โอกาสไทย ทำได้จริง พร้อมแถลงนโยบายหลักรวม 11 นโยบาย โดยในปี 2568 จะเดินหน้า 5 นโยบายหลัก ซึ่งหนึ่งในนโยบายที่หลายคนให้ความสนใจ ก็คือ โครงการบ้านเพื่อคนไทย บ้านราคาประหยัด ผ่อนแค่ 4,000 บาทต่อเดือน ไม่ต้องดาวน์ นายกฯ โชว์ผลงาน ลั่นปีหน้ามี 5 นโยบายหลัก ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) กรมประชาสัมพันธ์ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลรอบ 3 เดือน ภายใต้ชื่อ "2568 โอกาสไทย ทำได้จริง" พร้อมมอบนโยบายให้แก่รองนายกฯ-รัฐมนตรี ผู้รับผิดชอบในแต่ละนโยบายด้วย โดยมีรองนายกฯ รัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูง มาร่วมจำนวนมาก นางสาวแพทองธาร แถลงนโยบายรวมทั้งสิ้น 11 นโยบาย แบ่งเป็นนโยบายระยะยาว ที่ต้องทำในเชิงโครงสร้าง 6 นโยบาย คือ การแก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง, การแก้ปัญหาหมอกควัน PM 2.5, ปัญหายาเสพติด, การทลายการผูกขาด, การแก้ปัญหาธุรกิจนอกระบบ และนโยบายการลงทุนครั้งใหญ่ในอนาคต และ 5 นโยบาย เป็นนโยบายที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า คือ โครงการ SML, หนึ่งอำเภอหนึ่งทุน, ดิจิทัลวอลเล็ต, การแก้หนี้ครัวเรือน และบ้านเพื่อคนไทย นายกฯ กล่าวว่า นโยบายใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 เราจะนำนโยบายดี ๆ ที่เคยใช้ในอดีตกลับมาใช้ เช่น จะนำนโยบาย "หนึ่งอำเภอ หนึ่งทุน" หรือ ODOS ย่อมาจาก One District One Scholarship กลับมาอีกครั้ง โดยใช้งบประมาณจากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อส่งเด็กเรียนเก่งเรียนดีได้ไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ, โครงการที่สอง คือ หนึ่งอำเภอหนึ่งซัมเมอร์แคมป์ ส่งเด็กไทยไปเรียนซัมเมอร์แคมป์ที่ต่างประเทศ เพื่อให้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ และโครงการที่ 3 นำเงินกองสลากฯ มาพัฒนาโรงเรียนประจำอำเภอ หนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝัน ทำให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ เติมครู เติมเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา และ AI ให้เด็ก ๆ ในทุกอำเภอ ส่วนโครงการ SML เป็นการให้โอกาสคนทุกตำบล ทุกหมู่บ้านในการคิดและลงมือแก้ไขปัญหาในพื้นที่ผ่านโครงการ SML ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่จะกระจายโอกาสและเงินลงไปในทุกหมู่บ้าน พร้อมกับกองทุนเพื่อฟื้นฟู SME ซึ่งเป็นฐานรากของเศรษฐกิจไทยอีกกว่า 5,000 ล้านบาท นายกฯ ลั่นเฟส 3 ได้เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทในปี 68 โครงการดิจิทัลวอลเล็ต นายกฯ ประกาศว่า จะดำเนินโครงการเงินหมื่นฟื้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 โดยเงินสดจะถึงมือผู้สูงอายุประมาณ 4 ล้านรายไม่เกินตรุษจีนปีหน้า หลังจากนั้น จะดำเนินการระยะที่ 3 สำหรับบุคคลทั่วไป จะได้รับเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ตภายในปี 2568 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องพร้อมกับยกระดับประเทศไทยให้ก้าวสู่ยุคดิจิทัล ส่วนนโยบายการแก้หนี้ครัวเรือน เน้นที่หนี้ "รถยนต์" และ "บ้าน" โดยธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคาร ตกลงที่จะลดการส่งเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูลง 0.23% ซึ่งเป็นเงินกว่า 39,000 ล้านต่อปี และธนาคารพาณิชย์จะเติมให้อีก 39,000 รวมกันเป็น 78,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อพักดอกเบี้ย 3 ปี ให้ลูกหนี้จ่ายคืนเงินต้นได้เต็มจำนวน โดยจะเริ่มดำเนินการในต้นปี 2568 บ้านเพื่อคนไทย ไม่ต้องดาวน์ ผ่อนแค่ 4,000 บาท นอกจากนี้ยังมี โครงการบ้านเพื่อคนไทย (Public Housing) คอนโดคุณภาพดีพร้อมเฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่ ไม่ต้องดาวน์ ใกล้รถไฟฟ้า ให้สิทธิ์คนไทย ที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อน ขนาดห้องเริ่มต้นประมาณ 30 ตารางเมตร ผ่อนเดือนละประมาณ 4,000 บาท เป็นเวลาประมาณ 30 ปี มีห้องน้ำ ไฟฟ้า สาธารณูปโภค ระบบรักษาความปลอดภัย ถ้าจ่ายครบยอด ได้สิทธิ์ถือครอง 99 ปี ที่จะเป็นความหวังของคนไทยที่อยากมีบ้าน คนเริ่มทำงานก็สามารถมีสิทธิ์ได้ ซึ่งปีหน้าจะมีห้องตัวอย่างมาให้ดู รวมถึงนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะเกิดขึ้นในปี 68 แน่นอน นายกฯ กล่าวว่า นักการเมือง และข้าราชการ ต่างมาจากภาษีของประชาชน เราต่างมีหัวใจเดียวกันคือ การทำงานเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน และทำให้ประเทศไทยดีขึ้น เปิดตัว บ้านเพื่อคนไทย 20 ม.ค. 68 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการแถลงผลงานในรอบ 3 เดือน ถึงโครงการรถไฟรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยยืนยันว่าโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะเริ่มใช้ได้เดือนกันยายน 2568 ครอบคลุมรถไฟฟ้า 5 สาย โครงการนี้จะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ ลดค่าใช้จ่ายได้ และมั่นใจว่า พระราชบัญญัติตั๋วร่วมจะไม่มีปัญหา ทั้งนี้หากประชาชนประหยัดค่าเดินทางได้ จะสามารถนำเงินมาเป็นค่าผ่อนบ้านตามโครงการบ้านเพื่อคนไทยได้ โดยจะใช้ที่ดินของการรถไฟฯ ในการก่อสร้าง สามารถผ่อนได้นานถึง 30 ปี อยู่อาศัยได้ 99 ปี และผ่อนเดือนละ 4,000 บาท ทั้งนี้จะเปิดตัวบ้านตัวอย่างในวันที่ 20 มกราคม 2568 ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนจับจองได้ เริ่มต้น 4 แห่ง ประกอบด้วย ย่านบางนา ธนบุรี เชียงราก และเชียงใหม่ ประมาณ 1,000 ยูนิต ทั้งนี้เจ้าของผู้จับจองต้องอาศัยอยู่อย่างน้อย 5 ปี ถึงจะโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นอาศัยต่อ อนุทิน ไม่โต้ ยัน ทักษิณ เป็นผู้มีพระคุณ ส่วนกรณีที่เมื่อวาน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์แซวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยว่า ชิงหล่อเร็วไป กรณีออกมาคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ทั้งที่ไม่ใช่มติพรรคเพื่อไทย พร้อมแนะนำว่า พรรคร่วมรัฐบาลต้องฝึกการทำงานร่วมกัน ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า ไม่ได้พูดในฐานะรัฐบาล แต่พูดในฐานะพรรคภูมิใจไทย ว่าไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะเห็นว่า มีอยู่แล้วไม่ต้องไปแตะ ไม่ใช่เรื่องพูดชิงหล่อ หรือ อะไรตรงไหนเลย เพราะไม่มีใครเคยบอกว่าหล่อ และเท่าที่ทราบเรื่องนี้ไม่ใช่มติพรรคเพื่อไทย แต่เป็นกฎหมายที่ สส.ท่านหนึ่งเสนอขึ้นมา ที่ผ่านมาไม่มีแม้แต่เรื่องเดียวที่พรรคภูมิใจไทยไม่ให้ความร่วมมือกับพรรคแกนนำรัฐบาล แต่กลับทำให้สำเร็จโดยเร็วด้วยซ้ำ เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ จะกลบบารมีนายกฯหรือไม่ นายอนุทิน บอกว่า เวลาตนเคารพนับถือใครจะไม่วิพากษ์วิจารณ์ ไม่มีวันที่ตนจะไปต่อล้อต่อเถียง หรือ เห็นแย้งตอบโต้ นายทักษิณ เพราะท่านเป็นผู้ที่มีพระคุณกับตนมา 20-30 ปีแล้ว